สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เปิดการฝึกอบรมหลักสูตร อาสาปศุสัตว์ ภายใต้กิจกรรมโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่อง เพื่อเป็นการพัฒนาและเพิ่มทักษะให้กับอาสาสมัครชุมชนของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโคให้มีคุณภาพ การปรับปรุงพันธุ์ให้มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของตลาด
สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เปิดการฝึกอบรมหลักสูตร อาสาปศุสัตว์ ภายใต้กิจกรรมโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่อง เพื่อเป็นการพัฒนาและเพิ่มทักษะให้กับอาสาสมัครชุมชนของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโคให้มีคุณภาพ การปรับปรุงพันธุ์ให้มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของตลาด
วันนี้ (8 พ.ย. 67) ณ โรงแรมราชาโฮเทลแอนท์รีสอร์ท อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ประธานคณะทำงานติดตามสนับสนุนการดำเนินงานโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่อง เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตร อาสาปศุสัตว์ ภายใต้กิจกรรมโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่อง ที่สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ จัดให้มีขึ้น
นายสุชาติ พิเมย รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ สาขาเขต 6 กล่าวว่า จากที่คณะรัฐมนตรี คราวประชุมเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 มีมติเห็นชอบดำเนินโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่อง ภายใต้สินเชื่อของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วงเงิน 5 พันล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการส่งเสริม สนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้เสริมให้ครัวเรือนสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ลดภาระค่าครองชีพให้กับครัวเรือนสมาชิก ยกระดับการผลิตโคเนื้อที่มีคุณภาพสูงสู่ตลาดภายในและต่างประเทศ ส่งเสริมการตลาด ขยายโอกาสในการพัฒนาทักษะด้านอาชีพ การเลี้ยงโคคุณภาพสูงและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน และเพื่อเป็นการพัฒนาและเพิ่มทักษะให้กับอาสาสมัครชุมชนของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโคให้มีคุณภาพ การปรับปรุงพันธุ์ให้มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของตลาด สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ จึงได้จัดให้มีการฝึกอบรมในครั้งนี้ขึ้น ซึ่งเป็นการจัดอบรมครั้งที่ 9 โดยได้ดำเนินการในพื้นที่สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ สาขาเขต 6 ผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ ประกอบด้วย สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ผู้บริหารและบุคลากรสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ผู้แทนหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ และสื่อมวลชน รวมทั้งสิ้น 200 คน.