คนร้ายตระเวนงัดร้านโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 67 จนถึงขณะนี้ถูกงัดไปแล้ว 7 ร้าน ความเสียหายหลายแสนบาท ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาโดนงัดอีก 2 ร้าน เจ้าของร้านโทรศัพท์อยู่อย่างหวาดผวา วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมแจ้งเตือนให้ทุกร้านระมัดระวังตัวกันให้มากขึ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย เร่งสืบสวนติดตามคนร้าย เบื้องต้นพอจะทราบตัวแล้ว รอหลักฐานเพิ่มเติมก็น่าจะติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ในเร็ว ๆ นี้
คนร้ายตระเวนงัดร้านโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 67 จนถึงขณะนี้ถูกงัดไปแล้ว 7 ร้าน ความเสียหายหลายแสนบาท ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาโดนงัดอีก 2 ร้าน เจ้าของร้านโทรศัพท์อยู่อย่างหวาดผวา วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมแจ้งเตือนให้ทุกร้านระมัดระวังตัวกันให้มากขึ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย เร่งสืบสวนติดตามคนร้าย เบื้องต้นพอจะทราบตัวแล้ว รอหลักฐานเพิ่มเติมก็น่าจะติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ในเร็ว ๆ นี้
เมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ (8 พ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการร้านโทรศัพท์มือ ถือในจังหวัดหนองคาย ว่ามีคนร้ายตระเวนงัดร้านโทรศัพท์มือถือในจังหวัดหนองคายแล้วหลายร้าน จึงได้ลงพื้นที่ไปพบกับผู้ประกอบการร้านโทรศัพท์มือถือที่รวมตัวกันอยู่ที่ร้านเอ็นเคโมบายกรุ๊ป ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย
โดยได้พบกับเจ้าของร้านมือถือที่ถูกคนร้ายงัดร้านได้เล่ารายละเอียดให้ฟัง ว่าคนร้ายเริ่มตระเวนงัดร้านโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา มีร้านถูกงัด 2 ร้าน คือร้าน M-Service Shop และร้านบ้านมือถือตอง 888 ในเขตตัวเมืองหนองคาย ร้านแรกคนร้านได้ขโมยแม็คบุ๊ก ไอแพด โทรศัพท์มือถือไอโฟน และโทรศัพท์ระบบแอนดรอยด์ มูลค่ารวมประมาณ 2 แสนบาท ส่วนร้านที่สองเป็นโทรศัพท์มือถือระบบแอนดรอยด์ จำนวน 17 เครื่อง มูลค่ารวมประมาณ 50,000 บาท เป็นการงัดเข้าทางหน้าร้านเลย จากนั้นยังได้ตระเวนงัดร้านโทรศัพท์ในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ก็ได้งัดร้านบายบอมโฟน ที่บ้านหนองสองห้อง ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย ได้ขโมยโทรศัพท์มือถือระบบแอนดรอยด์ ไอโฟน ไอแพด คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และลำโพงบลูธูท มูลค่ารวมกว่า 2 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังได้ตระเวนงัดร้านโทรศัพท์อีกหลายร้าน มีทั้งงัดเข้าไปขโมยสิ่งของภายในร้านได้ และงัดเข้าไปไม่ได้
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 00.10 น.วันที่ 8 พฤศจิกายน 67 ก็ได้งัดร้านมีนาโฟน ในเขตตัวเมืองหนองคาย ตัดกุญแจล็อกประตูไปแล้ว แต่เจ้าของร้านพักอยู่ในร้านรู้ตัวไปตะโกนถาม คนร้ายได้วิ่งข้ามถนนไปขับขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ในถนนซอยที่อยู่ใกล้กัน และงัดร้านรับติดฟิล์มไฮโดรเจล ที่ตั้งอยู่ภายในตลาดท่าเสด็จ ได้เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง และเครื่องโทรศัพท์เดโม่ (เครื่องปลอม) จำนวนหนึ่ง รวมร้านโทรศัพท์มือถือที่ถูกงัดร้านแล้ว จำนวน 7 ร้าน ซึ่ง พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย พร้อมด้วย ร.ต.อ.กฤษณะ ธรรมจิตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองหนองคาย และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย ได้ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ
เจ้าของร้านโทรศัพท์มือถือหลายร้านที่ถูกคนร้ายเข้าไปก่อเหตุ บอกว่า เหตุเริ่มเกิดตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2567 จนถึงตอนนี้ก็วันที่ 8 พฤศจิกายน 67 แล้ว ก็ยังไม่มีความคืบหน้าของคดี จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งตนและผู้ที่มาในวันนี้เป็นตัวแทนของร้านโทรศัพท์ในจังหวัดหนองคาย ตอนนี้คนร้ายตระเวนก่อเหตุเป็นรายวัน จึงอยากจะฝากเตือนร้านโทรศัพท์มือถือทุกร้านระมัดวัง ติดตั้งกล้องวงจรปิด และช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพราะตอนนี้คนร้ายยังลอยนวล ทุกร้านต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวง จากภาพในกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุน่าจะเป็นคนเดียวกัน ดูจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ที่เป็นชุดเดียวกัน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ก่อนจะตระเวนไปก่อเหตุอีก
ทางด้าน พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย บอกว่า ตอนนี้ได้ตำหนิรูปพรรณคนร้ายที่ตระเวนก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตาม เป้าหมายของคนร้ายจะเป็นร้านโทรศัพท์มือถือ โดยใช้วิธีการงัดกุญแจแล้วเข้าไปขโมยโทรศัพท์มือถือภายในร้าน ช่วงนี้จึงอยากขอความร่วมมือร้านโทรศัพท์มือถือให้ปิดประตูร้านด้วยกุญแจที่มีความแข็งแรงและมีมาตรฐาน ผู้ที่มีข้อมูลของคนร้ายก็สามารถแจ้งได้ที่ สภ.เมืองหนองคาย เพื่อที่จะได้รวบรวมข้อมูลเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งตอนนี้มีเบาะแสคนร้ายเบื้องต้นแล้ว ว่าคนร้ายเป็นกลุ่มใด ส่วนใหญ่ลงมือก่อเหตุคนเดียว ตอนนี้รอหลักฐานการยืนยันทางวิทยาศาสตร์.