เปิดคลิปนาทีตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ตามจับ “ปาเกียว หนองแวง” ซิ่งรถยนต์กระบะหนีด่านรอด 1 ครั้ง แต่ครั้งที่ 2 ไม่รอด เมื่อดาบตำรวจจราจรตาไวจำรถได้จึงขอตรวจสอบแต่ไม่ยอมให้ตรวจสอบ ซิ่งรถพยายามชนเจ้าหน้าที่เพื่อหลบหนี สุดท้ายไม่รอดตำรวจ สภ.ท่าบ่อ สกัดจับไว้ได้ สารภาพกลัวตำรวจจับเพราะเสพยาบ้ามา ด้านตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ทำบันทึกพฤติการณ์การก่อเหตุที่เสี่ยงเป็นอันตรายต่อประชาชนทั่วไป ศาลจังหวัดหนองคายลงโทษจำคุก 3 เดือนไม่รอลงอาญา
เปิดคลิปนาทีตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ตามจับ “ปาเกียว หนองแวง” ซิ่งรถยนต์กระบะหนีด่านรอด 1 ครั้ง แต่ครั้งที่ 2 ไม่รอด เมื่อดาบตำรวจจราจรตาไวจำรถได้จึงขอตรวจสอบแต่ไม่ยอมให้ตรวจสอบ ซิ่งรถพยายามชนเจ้าหน้าที่เพื่อหลบหนี สุดท้ายไม่รอดตำรวจ สภ.ท่าบ่อ สกัดจับไว้ได้ สารภาพกลัวตำรวจจับเพราะเสพยาบ้ามา ด้านตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ทำบันทึกพฤติการณ์การก่อเหตุที่เสี่ยงเป็นอันตรายต่อประชาชนทั่วไป ศาลจังหวัดหนองคายลงโทษจำคุก 3 เดือนไม่รอลงอาญา
วันนี้ (26 ธ.ค. 2568) พ.ต.อ.เตชรัฐ ประทุมชาติ ผกก.สภ.ท่าบ่อ พ.ต.ท.ภาคภูมิปลุกปลื้ม รอง ผกก.สส.สภ.ท่าบ่อ ,พ.ต.ท.นักรบ แสงจันโท สวป.สภ.ท่าบ่อ ด.ต.สมคิด กองลุน ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ท่าบ่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ท่าบ่อ เจ้าหน้าที่จราจร สภ.ท่าบ่อ และ เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.ท่าบ่อ ได้ร่วมกันแถลงการจับกุมคดีสำคัญคือการจับกุมนายศุภเกียรติหรือปาเกียว วงจันดา อายุ 30 ปี ที่อยู่203 หมู่ 10 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ข้อหาเป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
ด.ต.สมคิด กองลุน ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ท่าบ่อ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 15 ธันวาคม 2568 ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนมิตรภาพบริเวณสี่แยกไฟแดงน้ำโมง ในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ พบรถยนต์กระบะขับมาจะเข้าด่าน แต่เมื่อใกล้ด่านไม่ยอมเข้าด่านตรวจและได้กลับรถกะทันหัน เมื่อตนเห็นดังนั้นจึงได้พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 1 นาย ได้ขับรถจักรยานยนต์สายตรวจติดตามไปในทันที เมื่อไปถึงรถเจ้าหน้าที่ได้ให้สัญญาณหยุดรถ แต่คนขับไม่ยอมหยุดและได้ขับรถพุ่งชนเจ้าหน้าที่และขับหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถจักรยานยนต์ติดตามไป แต่เนื่องจากรถกระบะคันดังกล่าวใช้ความเร็วสูงประกอบกับความมืดเกรงจะไม่ปลอดภัยจึงได้หยุดติดตาม แต่ตนได้จดจำทะเบียนรถไว้
ต่อมาวันที่ 22 ธันวาคม 2568 ขณะที่ตนออกตรวจการจราจรในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อตรวจมาถึงบริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาท่าบ่อ ตนสังเกตพบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีส้มดำ ทะเบียน กต 1318 หนองคาย จอดติดเครื่องยนต์อยู่หน้าธนาคาร และเป็นรถคันที่หลบหนีด่านตรวจเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 68 ที่ผ่านมา ตนจึงเข้าตรวจสอบและส่งสัญญาณเพื่อขอตรวจสอบ ปรากฏว่ารถยนต์กระบะคันดังกล่าวไม่ยอมจอดและพยายามขับพุ่งชนตนเองอีกครั้งก่อนขับหลบหนีมุ่งหน้าไปไปตามถนนสายท่าบ่อ-โคกคอน ตนจึงได้ขับรถจักรยานยนต์ติดตามพร้อมวิทยุขอกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อร่วมจับกุม พร้อมวิทยุประสานศูนย์บริการประชาชนตำบลโคกคอน ช่วยตั้งจุดสกัดบริเวณสี่แยกศูนย์บริการประชาชนตำบลโคกคอน
ต่อมาตนพร้อมเจ้าหน้าที่ได้ติดตามมาและพบว่า มี ร.ต.ท.ปิยวัฒน์ กำเนิดเกิด หัวหน้าศูนย์บริการประชาชน เจ้าหน้าที่ทหาร และสื่อมวลชน ได้ช่วยกันสกัดรถยนต์กระบะคันดังกล่าวไว้ได้ ตรวจค้นภายในรถพบอาวุธแบลงค์กัน 1 กระบอก พร้อมกระสุน จำนวนหนึ่ง
โดยจากการสอบถามทราบชื่อผู้ขับขี่คือนายศุภเกียรติหรือปาเกียว วงจันดา อายุ 30 ปี ที่อยู่203 หมู่ 10 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยนายศุภเกียรติให้การรับว่า กลัวถูกจับจึงขับหลบหนีด่านเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 68 และดันซวยมาเจอตำรวจคนเดิมอีกจึงคิดจะหลบหนี แต่หนีไม่พ้น ที่หลบหนีเพราะตนเสพยาบ้ามา กลัวจะถูกจับ
ด.ต.สมคิด กองลุน ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ท่าบ่อ เผยต่อว่า อยากประชาสัมพันธ์ไปถึงพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ไม่ต้องกลัวด่านตรวจ เพราะตำรวจตั้งด่านตรวจเพื่อป้องกันอาชญากรรม การตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอาวุธปืน และยาเสพติด สำหรับนายศุภเกียรติหรือปาเกียว เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้ทาประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และตนได้ทำบันทึกพฤติการณ์การกระทำความผิดเพื่อให้ศาลลงโทษเพิ่มเติม และศาลจังหวัดหนองคายได้ลงโทษจำคุก 3 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
ด้าน พ.ต.ท.นักรบ แสงจันโท สวป.สภ.ท่าบ่อ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้บังคับบัญชาได้ให้นโยบายตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ให้คุมเข้มเรื่องการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ เพื่อตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาเสพติด และอาวุธปืน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เมาต้องไม่ขับ และไม่พกสิ่งผิดกฎหมายทุกชิดติดตัวเมื่อเดินทาง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ได้จัดกำลังคอยอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชม.



















