นายอภินันท์ ศิริโกสุม เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า วันเกิดเหตุตนไปดูการแสดงหมอลำที่มาทำการเปิดการแสดงที่ตลาดคลองถม ต.เฝ้าไร่ อ.เฝ้าไร่ ขณะกำลังจะเดินทางกลับรถจักรยานยนต์ของตนน้ำมันหมด กำลังจะเรียกเพื่อนมาช่วยเข็นรถไปเติมน้ำมัน จู่ๆก็มีคนร้ายถือไม้เบสบอลเข้ามาตีที่ศีรษะตนจนสลบ ตนจำได้เพียงเท่านี้ และตนไม่เคยมีเรื่องกับใคร

นางนิตยา ศิริโกสุม กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.มงคล กางการ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เฝ้าไร่  เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านเสริมสวยไพร บ้านเฝ้าไร่  หมู่ 32 ต.เฝ้าไร่ อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย หลังเกิดเหตุลูกชายถูกนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลเฝ้าไร่ 1 คืน และแพทย์ให้มาพักรักษาตัวที่บ้าน เมื่อกลับมาที่บ้านลูกชายปวดศีรษะอย่างรุนแรงจึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาลโพนพิสัย และโรงพยาบาลโพนพิสัยได้ทำการสแกนศีรษะพบว่ากะโหลกหักและแตก มีเลือกออกในสมอง และถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองคาย และที่ตนเสียใจที่สุดลูกชายต้องได้ใส่กะโหลกเทียมเพราะกะโหลกลูกชายแพทย์ได้ทำการเอาออก ซึ่งทุกวันนี้ลูกชายก็มีสภาพร่างกายที่ไม่ปกติ

ด้าน นายสมพงษ์ ศิริโกสุม อายุ 40 ปี บิดา กล่าวทั้งน้ำตาว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกชายตน ตนรับไม่ได้ เพราะลูกชายเพียงไปเที่ยวตามประสาวัยรุ่น ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครหรือมีคู่อริที่ไหน คนร้ายได้ทำร้ายลูกชายจนสภาพเหมือนคนพิการต้องผ่าตัดกะโหลกโดยที่ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน ตนอยากขอให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี และตนไม่ขอเจรจายอมความจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

น.ส.ไพรวรรณ อุ่นนอก (เจ้าของร้านเสริมสวยจุดเกิดเหตุ) กล่าวว่า วันเกิดเหตุ เห็นน้องที่ได้รับบาดเจ็บมาเอารถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าบ้านตน ทราบว่ารถน้องน้ำมันหมด แต่ตนไม่ได้สนใจอะไรจึงกลับเข้าบ้านเพื่อพักผ่อน และไม่ได้เห็นเหตุการณ์ตอนน้องถูกทำร้าย จนกระทั่งลูกชายกลับจากดูหมอลำมาบอกว่ามีเหตุคนถูกทำร้ายหน้าบ้าน ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฝ้าไร่ ได้มาขอดูกล้องวงจรปิดหน้าร้านของตนซึ่งสามารถจับภาพขณะน้องถูกทำร้ายได้

นายเอ นามสมมุติ อายุ 17 ปี เพื่อนนายอภินันท์ คนเจ็บ เล่าว่า นายอภินันท์ คนเจ็บเป็นเพื่อนกลุ่มตน และได้มาตามเพื่อนว่ารถจักรยานยนต์น้ำมันหมดให้มาช่วยกันเข็นรถ ขณะกำลังจะไปตามเพื่อนๆมาช่วยเข็นรถไปเติมน้ำมันจู่ๆได้มีคนร้ายถือไม้เบสบอลมาตีนายอภินันท์จนสลบซึ่งพวกตนก็ไม่รู้ว่ามาตีทำไมเพราะไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน