นายสุภัทรชัย เสาร์แดน ธนารักษ์พื้นที่หนองคาย เปิดเผยภายหลังเข้าตรวจสอบว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบเป็นพื้นที่สาธารณะ แต่ต้องรอตรวจสอบในขั้นตอนเอกสารต่างๆมีการนำส่งขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ หรือเอกสารขั้นตอนอื่นที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายที่ราชพัสดุหรือไม่อย่างไร โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าสถานที่ดังกล่าวมีการทำเป็นบ่อปลา และยังไม่พบผู้บุกรุก ซึ่งจะได้ตรวจสอบขอบเขตบริเวณดังกล่าวก่อนว่าตรงจุดไหนที่เป็นที่ราชพัสดุจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

นายสุภัทรชัย เสาร์แดน ธนารักษ์พื้นที่หนองคาย กล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจสอบพบว่าที่ชาวบ้านร้องเรียนพบพื้นที่ที่ชาวบ้านร้องเรียนมี 44 ไร่ แต่คาดว่าพื้นที่น่าจะกว้างกว่านี้ ซึ่งจะได้ตรวจสอบอย่างละเอียด และหากได้ขอบเขตชัดเจนก็จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ชาวบ้านในพื้นที่ได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า สำหรับที่ดินราชพัสดุบริเวณดังกล่าวถูกบุกรุกมานานหลายปีแล้ว โดยนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งในพื้นที่ตำบลนาหนัง และยังเป็นผู้สมัครตำแหน่งนายก อบต.นาหนัง อีกด้วย โดยได้ทำการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง ติดป้ายห้ามบุคคลภายนอกเข้า ทั้งๆที่บริเวณดังกล่าวควรเป็นที่ประชาชนในพื้นที่ควรได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ใช่การยึดของที่สาธารณะมาเป็นของตนเอง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย

โดยจากการตรวจสอบของสื่อมวลชนและสอบถามชาวบ้านในพื้นที่พบว่า บริเวณดังกล่าวมีการยึดครองที่สาธารณะมาเป็นสมบัติส่วนตัวนานแล้ว มีการขุดบ่อเลี้ยงปลา การขุดดินขาย ซึ่งถือว่าทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ชาวบ้านในพื้นที่ก็อยากมีที่ดินไว้ทำกินเช่นกัน หากทำแบบนี้ได้ก็อยากจะทำ แต่ชาวบ้านมองว่าที่สาธารณะควรใช้ประโยชน์ร่วมกันไม่ใช่การยึดครองมาเป็นของส่วนคัว

ทั้งนี้ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชบัญญัติ ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 โดยมีเนื้อหาทั้งสิ้น 50 มาตรา ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป โดยมีสาระสำคัญของบทลงโทษ คือมาตรา 45 ผู้ใดเข้าไปในที่ราชพัสดุเพื่อยึดถือหรือครอบครองทั้งหมดหรือแต่บางส่วนโดยไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ โดยปกติสุข หรือทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพแก่ที่ราชพัสดุ ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ