ศุลกากรหนองคาย รวบผู้ต้องหาหญิง-ชาย ทั้งชาวไทยและชาวลาว พร้อมเฮโรอีนน้ำหนักเกือบ 22 กก. มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท โดยซุกซ่อนมาในกระเป๋าเดินทางมีการดัดแปลงกระเป๋าอย่างดีเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ อีกทั้งแยกกันลักลอบขนเข้ามาเป็น 2 ทีม ทิ้งช่วงห่างกันครึ่งชั่วโมง แต่ไม่รอดการจับกุม สารภาพรับจ้างหญิงไทยที่มีสามีผิวสีให้ขนไปส่งที่มาเลเซีย โดยได้ค่าจ้างขนรวมกัน 75,000 บาท ได้รับเงินโอนเป็นค่าใช้จ่ายแล้ว 35,000 บาท ตรวจสอบเบื้องต้นพบมีการเข้า-ออกเฉพาะเดือนตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา 4 – 5 ครั้ง จากข้อมูลพบว่าระยะเวลาเพียง 1 เดือนกับอีก 3 วัน มีการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญที่จังหวัดหนองคาย รวม 7 คดี ผู้ต้องหา 7 ราย มูลค่ากว่า 122 ล้านบาท
ศุลกากรหนองคาย รวบผู้ต้องหาหญิง-ชาย ทั้งชาวไทยและชาวลาว พร้อมเฮโรอีนน้ำหนักเกือบ 22 กก. มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท โดยซุกซ่อนมาในกระเป๋าเดินทางมีการดัดแปลงกระเป๋าอย่างดีเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ อีกทั้งแยกกันลักลอบขนเข้ามาเป็น 2 ทีม ทิ้งช่วงห่างกันครึ่งชั่วโมง แต่ไม่รอดการจับกุม สารภาพรับจ้างหญิงไทยที่มีสามีผิวสีให้ขนไปส่งที่มาเลเซีย โดยได้ค่าจ้างขนรวมกัน 75,000 บาท ได้รับเงินโอนเป็นค่าใช้จ่ายแล้ว 35,000 บาท ตรวจสอบเบื้องต้นพบมีการเข้า-ออกเฉพาะเดือนตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา 4 – 5 ครั้ง จากข้อมูลพบว่าระยะเวลาเพียง 1 เดือนกับอีก 3 วัน มีการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญที่จังหวัดหนองคาย รวม 7 คดี ผู้ต้องหา 7 ราย มูลค่ากว่า 122 ล้านบาท
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (3 พ.ย. 68)) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย หรือด่านพรมแดนหนองคาย อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย นายประทีป อุ่ยเจริญ ปลัดจังหวัดหนองคาย , พล.ต.ต.อัทธชนม์ ช่วงงาม ผบก.ภ.จว.หนองคาย , นางสาววรรณา ผู้อุตส่าห์ นายด่านศุลกากรหนองคาย ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.ศุลกากรหนองคาย , นายพัฒนพงศ์ ตันติวัฒนกุลชัย หัวหน้าฝ่ายบริการศุลกากรที่ 1 , พ.ต.อ.จิรวิทย์ ปานยิ้ม ผกก.สภ.เมืองหนองคาย , พ.อ.อุดมการณ์ ศรีแขไตร รอง ผบ.บก.ควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี , พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สว.ตม.หนองคาย , นายเดชมนตรี ผิวเหลือง ป้องกันจังหวัดหนองคาย , นายธวัชชัย กงเพชร หัวหน้ากลุ่มความมั่นคงอำเภอเมืองหนองคาย , จ.ส.อ.ประยูร โพธาราม ชุดปฏิบัติการกองกำลังเฉพาะกิจที่ 3 และ 4 กกล.สุรศักดิ์มนตรี (หน่วยสุนัขทหาร) , กอ.รมน.หนองคาย , นรข.หนองคาย , ตชด.ที่ 245 หนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 คดี ผู้ต้องหา จำนวน 5 ราย แยกเป็นผู้ต้องหาหญิงชาวไทย 2 ราย , ผู้ต้องหาชายชาวไทย 2 ราย และผู้ต้องหาหญิงชาวลาว 1 ราย พร้อมเฮโรอีนน้ำหนักประมาณ 21.80 กก. มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท ที่ซุกซ่อนมาในกระเป๋าเดินทางจำนวน 4 ใบ มีการดัดแปลงกระเป๋าเป็นอย่างดีเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจยึดจับกุมได้เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. และเวลา 17.30 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ณ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย หรือด่านพรมแดนหนองคาย
การตรวจยึดครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร และนางสาวสุนทรียา ทวิชาประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร ให้เข้มงวดในการป้องกัน และปราบปราม ผู้กระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยการอำนวยการนางสาววรรณา ผู้อุตส่าห์ นายด่านศุลกากรหนองคายปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรหนองคาย
การจับกุมในครั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมามีรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ผ่านทางด่านพรมแดนหนองคาย ภายในรถมาด้วยกัน 3 คน ประกอบด้วย ชายชาวไทย อายุ 61 ปี (คนขับ), หญิงชาวไทย อายุ 39 ปี และหญิงชาวลาว อายุ 25 ปี พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่ท้ายรถ 2 ใบ เจ้าหน้าที่จึงให้นำกระเป๋าผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ พบมีความผิดปกติ จึงได้ให้เปิดกระเป๋าให้เจ้าหน้าที่ดู พบที่ผนังกระเป๋ามีความหนาผิดปกติ เหมือนมีการดัดแปลง เจ้าหน้าที่จึงให้นำสัมภาระที่อยู่ในกระเป๋าออกทั้งหมด แล้วนำกระเป๋าไปเอ็กซเรย์อีกครั้ง ผลการเอกซเรย์ มีลักษณะเหมือนมีวัตถุซ่อนอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่จึงได้นำไปตรวจสอบอย่างละเอียด เมื่อแกะผนังกระเป๋าด้านในออกพบมีถุงสีดำพันรอบด้วยเทปสีน้ำตาลเย็บซ่อนอยู่ภายใน จำนวน 2 ถุง รวมทั้งสองกระเป๋า จำนวน 4 ถุง ภายในถุงพบผงสีขาว เมื่อทดสอบด้วยน้ำยาพบว่าเป็นเฮโรอีน น้ำหนักประมาณ 10.8. กก. จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดไว้
ต่อมาเวลาประมาณ 17.30 น. ของวันเดียวกัน มีรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ผ่านทางด่านพรมแดนหนองคาย ภายในรถมาด้วยกัน 2 คน เป็นชายชาวไทย อายุ 59 ปี (คนขับ) หญิงชาวไทย อายุ 39 ปี และหญิงชาวไทย อายุ 31 ปี พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่ช่องเก็บของท้ายรถ 2 ใบ มีลักษณะกระเป๋าเช่นเดียวกับที่เจ้าหน้าที่พึ่งตรวจยึดจับกุมได้ จึงให้นำกระเป๋าไปตรวจสอบผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ พบมีลักษณะเช่นเดียวกัน จึงได้ตรวจสอบอย่างละเอียด พบมีเฮโรอีนซุกซ่อนอยู่รวมทั้งสองกระเป๋าจำนวน 4 ถุง น้ำหนักประมาณ 11 กก. จึงได้ควบคุมตัวไว้ รวมผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทั้ง 2 คดี จำนวน 5 ราย เฮโรอีน น้ำหนักประมาณ 21.80 กก. มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท
จากการสอบถามเบื้องต้นทำให้ทราบว่า ได้รับจ้างขนเฮโรอีนทั้งหมดให้กับหญิงชาวไทย ที่มีสามีเป็นชาวต่างชาติผิวปี ให้ขนไปส่งที่มาเลเซีย โดยได้ค่าจ้างขนรวมกัน 75,000 บาท ได้รับเงินโอนเป็นค่าใช้จ่ายแล้ว 35,000 บาท ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าหญิงชาวไทยอายุ 39 ปี ที่ถูกจับกุมได้ครั้งนี้ มีการเข้า-ออกเฉพาะเดือนตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา 4 – 5 ครั้ง โดยข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านในช่วงสาย ก่อนข้ามกลับมาในช่วงเย็น
จากข้อมูลสถิติการจับกุมของเจ้าหน้าที่ พบว่าระยะเวลาเพียง 1 เดือนกับอีก 3 วัน มีการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญที่จังหวัดหนองคาย รวม 7 คดี ผู้ต้องหา 7 ราย มูลค่ากว่า 122 ล้านบาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันนำเข้ายาเสพติดโดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร , นำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) โดยการมีไว้ เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และทาให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป พร้อมส่งผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.












