ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 68 เจ้าหน้าที่จาก สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง ปกครองอำเภอท่าบ่อ นายกเทศมนตรีตำบลโพนสา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบการซ่อมแซมพระพุทธรูป “หลวงพ่อแสนห้า” ณ วัดกุมภประดิษฐ์ ตำบลโพนสา อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ภายหลังจากชาวบ้านในพื้นที่มีความกังวลใจหลังมีกลุ่มคนเข้ามาซ่อมแซมโดยพลการ ซ่อมผิดวิธี ไม่แจ้งชาวบ้านในพื้นที่+ ทำให้ “หลวงพ่อแสนห้า” ได้รับความเสียหาย เพื่อสร้างความเข้าใจและให้แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องในการอนุรักษ์โบราณวัตถุแก่เจ้าอาวาส คณะกรรมการวัด และประชาชนในพื้นที่ รวมถึงเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของชุมชนในพื้นที่ในการมีส่วนร่วมดูแลรักษาโบราณวัตถุ

ว่าที่ ร.ต.วิทยา คำพวง นายกเทศมนตรีตำบลโพนสา กล่าวว่า ตนได้เข้าร่วมประชุมเรื่องการซ่อมแซม "หลวงพ่อแสนห้า" ที่ถูกซ่อมแซมอย่างผิดหลัก ซึ่งตนในฐานะนายกเทศมนตรีตำบลโพนสา มีหน้าที่การดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุในระดับท้องถิ่น  ตาม พ.ร.บ.การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนส่วนท้องถิ่น ปี พ.ศ.2542 ได้เสนอความคิดเห็นให้กับทาง เจ้าหน้าที่จาก สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง

1.ให้กรมศิลปากรดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ฯ ปี พ.ศ.2504

2.เสนอให้กรมศิลปากรดำเนินการขึ้นทะเบียนองค์พระพุทธเก่าที่อยู่วัดกุมภประดิษฐ์ที่อยู่บนกุฏิทุกองค์ให้เป็นสมบัติของชาติ

3.ถ้ากรมศิลปากรไม่ดำเนินการตามที่กระผมเสนอไป ผมขอทำหน้าที่ของนายกเทศมนตรีตามอำนาจหน้าที่ของระเบียบกฎหมายที่ได้กำหนดไว้ต่อไป เพราะมันเป็นหน้าที่ของนายกเทศมนตรีที่ต้องทำในส่วนที่ระเบียบกฎหมายให้ทำได้

“ในตอนนี้ชาวบ้านโพนสามีความกังวลใจในการซ่อมแซมองค์หลวงพ่อแสนห้าอย่างผิดวิธี ตนในฐานะนายกเทศมนรีตำบลโพนสา ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความกระจ่างและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยขั้นตอนต่อจากนี้ก็จะเป็นในส่วนของการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป” นายกเทศมนตรีตำบลโพนสา กล่าว

สำหรับ พระแสนห้า หรือ หลวงพ่อแสนห้า เป็นพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก 61 นิ้ว สูง 90 นิ้ว ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดกุมภประดิษฐ์ หรือชาวบ้านเรียกว่าวัดกลาง (เดิมชื่อวัดเตาไห สาเหตุเพราะเป็นสถานที่ที่มีการเตาเผาตุ่มน้ำหรือไหน้ำ) ตั้งอยู่ที่ ตำบลโพนสา อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ และได้ยกฐานะเป็นวัดที่ถูกต้องในปี 2440 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี 2445 โดยที่เป็นพระพุทธรูปคู่บ้าน คู่เมืองของชาวโพนสา อำเภอท่าบ่อ รวมทั้งชาวจังหวัดหนองคาย.