โดย พ.ต.อ.อลงกรณ์ เสนีย์รณฤทธิ์ ผกก.สภ.สังคม กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นเหตุต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. 68 ที่ผ่านมา โดย ร.ต.อ.แดนนภา วงพิมพ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สังคม ได้รับแจ้งจากทางวัดถ้ำดินเพียง หรือวัดถ้ำศรีมงคล ว่านายสมร พลซา อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 231 หมู่ 6 ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ได้เข้ามาคุกคาม ทำลายทรัพย์สินภายในวัด โดยพกพาอาวุธปืน มีด เข้าไปในวัดด้วย ซึ่งตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังคม ได้เดินทางไปตรวจสอบในทันที แต่ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีออกจากวัดแล้ว ตนจึงนำกำลังเข้าไปที่บ้านและได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืน (ปืนแก๊ปพร้อมบรรจุกระสุนยิง) ไว้ แต่ด้วยสภาพพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยและไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุมีอาวุธอีกไหม และเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่จึงได้ถอนกำลังออกเพื่อรอดำเนินการอีกครั้ง

จนกระทั่งวานนี้ (31 ก.ค. 68) ผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์มาที่เบอร์มือถือของตนพร้อมบอกจะเข้าไปเผาวัด ตนจึงนำกำลังเข้าไปเพื่อตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบผู้ก่อเหตุได้ยืนถืออาวุธมีดอยู่ ตนจึงเข้าไปเกลี้ยกล่อม แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอม ตนจึงเข้าชาร์จเพื่อจับกุม โดยได้แจ้งข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ทำให้เสียทรัพย์ และพกพาอาวุธปืน มีด ไปในทางสาธารณะหมู่บ้าน โดยไม่เหตุอันควร นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ วัดถ้ำดินเพียง หรือวัดถ้ำศรีมงคล ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากทางวัด

โดย พระครูประทีป ธรรมมงคล เจ้าอาวาสวัดถ้ำศรีมงคล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 68 นายสมร พลซา มาหาพระเพื่อมาขอให้ไปบอกตำรวจ ทหาร อย่ามากลั่นแกล้งผู้ก่อเหตุ อาตมาจึงบอกให้ไปบอกผู้ใหญ่บ้าน แต่ผู้ก่อเหตุก็บอกว่าผู้ใหญ่บ้านก็กลั่นแกล้ง อาตมาจึงรับปากว่าจะไปประสานให้ และผู้ก่อเหตุได้กลับบ้านไป

พอมาวานนี้ (31 ก.ค. 68) ผู้ก่อเหตุก็ได้มาที่วัดอีกเพื่อมาขอคำตอบ โดยเด็กวัดได้แจ้งว่าอาตมาได้ประสานให้แล้ว อย่าคิดมาก แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอม และอยากได้ยินจากปากอาตมาโดยตรง โดยเด็กวัดได้บอกว่าอาตมาติดกิจนิมนต์ แต่ผู้ก่อเหตุได้ข่มขู่เด็กวัดว่าอยากขอเงิน 50,000 บาท ถ้าไม่ให้ก็จะยืม โดยเด็กวัดได้บอกไปว่าหลวงพ่อให้ไม่ได้หรอก ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจก่อเหตุทำลายทรัพย์สินภายในวัดและทางวัดได้แจ้งตำรวจมาระงับเหตุ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางวัดไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย เพราะวัดเป็นสถานที่ที่ควรปลอดภัยที่สุด.