การจับกุมในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้กำหนดนโยบายป้องกันปราบปรามยาเสพติดและมีการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้นโยบาย "Seal Stop Safe"และตำรวจภูธรจังหวัดหนองคายได้ตระหนักและถือปฏิบัติตามแนวนโยบายดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ โดยจัดชุดปฏิบัติการออกเอกซเรย์พื้นที่ สืบสวนหาข่าวตามมาตรการโดยต่อเนื่อง เพื่อสกัดกั้น ควบคุม การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ รวมทั้งตัดตอนการแพร่ระบาดไปยัง พื้นที่ภายนอกอื่น ๆ นั้น

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ บุญเสริม ผกก.สืบสวน ภ.จว.หนองคาย ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีรถมารับยาเสพติดจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจาก สปป.ลาว ซึ่งจะนำมาส่งมอบให้กับลูกค้าที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านกองนาง หมู่ 1 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เพื่อขนส่งเข้าสู่พื้นที่ตอนใน และกลุ่มผู้ค้าที่จะมารับจะใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อมาสด้า หมายเลขทะเบียน ผม 2890 นครราชสีมาเป็นพาหนะในการขนยาบ้า พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ จึงได้วางแผนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ ออกตรวจสอบและดำเนินการตามแผนการเพื่อสกัดกั้นยาเสพติดที่จะลักลอบเข้ามาดังกล่าว

ต่อมาในวันที่ 20 มิถุนายน เวลาประมาร 13.55 น. เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบกล้อง NSB License Plate พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้เข้ามาในพื้นที่จังหวัดหนองคายแล้ว จึงได้นำกำลังไปทำการตรวจสอบ ซึ่งในเวลาต่อมาสายลับได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า จะมีการนัดส่งมอบยาเสพติดในพื้นที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่จึงได้ระดมกำลังเดินทางไปวางกำลังตามเส้นทางที่คาดว่ารถยนต์ที่จะมารับยาบ้าจะใช้เป็นเส้นทางในการลำเลียงยาบ้าเข้าสู่พื้นที่ตอนใน จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.30 น.ของวันที่ 21 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ในจุดที่วางกำลังไว้บริเวณบ้านกองนาง ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ แจ้งพบรถคันดังกล่าวเข้ามาในซอยที่สามารถทะลุเข้าไปถึงบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงได้

ต่อมาเวลาประมาณ 01.10 น.วันที่ 21 มิถุนายน 2568 รถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าวได้ขับออกมาจากซอย มุ่งหน้าขึ้นถนนหมายเลข 211 มุ่งหน้าเข้า อ.ท่าบ่อ พ.ต.ท.พชร กฤษณะกาฬ รอง ผกก.สส.ภ.จว.หนองคาย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนที่ประจำในรถยนต์ที่คอยสังเกตการณ์ตามเส้นทาง ขับติดตามรถยนต์คันดังกล่าวไป เมื่อไปถึงบริเวณถนนท้ายหมู่บ้านโพนสา หมู่ 2 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ ที่เป็นถนนที่มีการก่อสร้างและเป็นพื้นที่แคบ พ.ต.ท.พชร ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ขับรถแซงแล้วทำการสกัดด้านหน้าจนรถต้องสงสัยไม่สามารถขับต่อไปได้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวคนขับรถทราบชื่อต่อมาคือนายอำพล หรือนุ้ย อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา และตรวจสอบภายในรถพบยาบ้า 7 กระสอบ จำนวนกว่า 2.78 ล้านเม็ด อยู่ในกระบะหลังรถ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดในกลุ่มประชาชน เป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”

จากการสอบถามเบื้องต้นนายอำพล (ผู้ต้องหา) อ้างว่าเพิ่งรับจ้างขนยาเสพติดครั้งแรกได้ค่าขนยาเสพติด 50,000 บาท เพื่อนำไปส่งต่อในพื้นที่ จ.ขอนแก่น แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เสียก่อน.