เนื่องด้วยในช่วงเดือนเมษายน 2568 เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาของตนเพื่อพบปะครอบครัว สังสรรค์ ทำบุญสรงน้ำพระ ตลอดจนเดินทางไปพักผ่อนและท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ อาจส่งผลให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ประกอบจังหวัดหนองคาย ร่วมกับวัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง จะจัดให้มีงานมหาสงกรานต์อีสานหนองคาย “สงกรานต์ผ้าขาวม้า สมมาหลวงพ่อพระใส” ขึ้นในระหว่างวันที่ 12 – 17 เมษายน 2568 ประกอบกับในปี พ.ศ.2567 องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก ได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้ “เทศการสงกรานต์ในประเทศไทย เป็นรายการในบัญชีตัวแทนภูมิปัญญามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ และรัฐบาลได้จัดงาน “มหาสงกรานต์ WORLD SONGKRAN FESTIVAL” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวขึ้น โดยได้มีการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ทั่วประเทศในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดหนองคายเป็นจำนวนมาก

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , ตำรวจภูธรภาค 4 , จังหวัดหนองคาย และตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย จึงได้มีมาตรการด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และมาตรการบังคับใช้กฎหมายและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยมีนโยบายให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาชญากรรม ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อาวุธปืน บุคคลตามหลายจับ การลักลอบเข้าเมือง การค้ามนุษย์ อาชญากรรมข้ามชาติ และอื่น ๆ โดยเน้นเป้าหมายสำคัญคือ ปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งชุมชนที่มีแนวโน้มจะเป็นที่พักอาศัยของผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ในการก่ออาชญากรรม , มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อป้องกันปราบปรามการก่ออาชญากรรมในพื้นที่ , ตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์เพื่อเป็นการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน , ปิดล้อมตรวจค้นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อาวุธสงคราม แรงงานต่างด้าว การค้ามนุษย์ มือปืนรับจ้าง โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จับกุมคดีค้างเก่า แหล่งมั่วสุม และแหล่งอบายมุขทุกประเภทในพื้นที่ , คดีประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกายและเพศ คดีอาวุธปืน สิ่งเทียมอาวุธปืน อาวุธสงคราม คดียาเสพติดและบุคคลตามหมายจับคดีดังกล่าว และคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ โดยเฉพาะการปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ธนาคาร ตู้กดเงินสด สถานประกอบการที่มีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ร้านทอง อัญมณี สถานีบริการน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ หรือสถานที่มีการจำหน่ายสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง

ในการปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมฯ ครั้งนี้ ได้สนธิกำลังข้าราชการตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ อส. ผู้นำชุมชน ชรบ. และเจ้าหน้าที่กู้ภัย รวมทั้งสิ้นกว่า 200 นาย.