จังหวัดหนองคาย จัดพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การจัดระเบียบการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ในการสักการะพระธาตุหล้าหนอง หรือพระธาตุกลางน้ำ เป็นวาระจังหวัดหนองคาย 2568 เพื่อเป็นการบูรณาการร่วมกันในการปกปักรักษาและทำนุบำรุงพระธาตุหล้าหนองนี้ไว้ให้คงอยู่ตลอดกาล

จังหวัดหนองคาย จัดพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การจัดระเบียบการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ในการสักการะพระธาตุหล้าหนอง หรือพระธาตุกลางน้ำ เป็นวาระจังหวัดหนองคาย 2568 เพื่อเป็นการบูรณาการร่วมกันในการปกปักรักษาและทำนุบำรุงพระธาตุหล้าหนองนี้ไว้ให้คงอยู่ตลอดกาล

วันนี้ (4 ก.ค. 68) ณ ห้องประชุมที่ทำการปกครองจังหวัดหนองคาย ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การจัดระเบียบการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ในการสักการะพระธาตุหล้าหนอง หรือพระธาตุกลางน้ำ เป็นวาระจังหวัดหนองคาย 2568 ที่จังหวัดหนองคาย โดยสำนักงานจังหวัดหนองคาย จัดให้มีขึ้น

 

พิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงฯ ที่จัดให้มีขึ้นในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อกำหนดมาตรการอนุรักษ์ ดูแล รักษาพระธาตุหล้าหนอง (กลางน้ำ) และให้ทุกภาคส่วนบูรณาการความร่วมมือกัน เพื่อให้พระธาตุหล้าหนองอยู่คู่กับจังหวัดหนองคาย เป็นปูชนียสถาน ที่ทุกคนได้มากราบไหว้สักการะตลอดไป ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบและยั่งยืน พร้อมพัฒนาการบริหารจัดการพื้นที่ ความปลอดภัย และภาพลักษณ์ของจังหวัดหนองคายในฐานะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ กำหนดราคา หลักเกณฑ์เงื่อนไข และวิธีการในการให้บริการเรือที่นำนักท่องเที่ยวไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามลำแม่น้ำโขงและองค์พระธาตุหล้าหนอง (กลางน้ำ) ให้เป็นแนวทางปฏิบัติเดียวกัน ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนและขับเคลื่อนการดำเนินการของทุกภาคส่วนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยหัวหน้าส่วนราชการ ประธานชุมชน และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง รวม 19 หน่วยงาน/คน ร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลงฯ และมีผลตั้งแต่วันที่ลงนามคือวันนี้ (4 ก.ค. 68) เป็นต้นไป

 

สำหรับประวัติพระธาตุหนองคาย หรือพระธาตุกลางน้ำ เดิมชื่อพระธาตุหล้าหนอง เป็นพระธาตุที่หักพังอยู่กลางลำน้ำโขง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุฝ่าพระบาทเก้าพระองค์ ตามตำนานอุรังคธาตุ หรือตำนานพระธาตุพระพนม จากการสำรวจใต้น้ำของหน่วยโบราณคดีภาค 7 พบว่า องค์พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ 17.20 เมตร ย่อมุมที่ฐานและมีความสูงประมาณ 28.50 เมตร หักออกเป็น 3 ท่อน สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 20 - 22 เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายพระธาตุบังพวน ปัจจุบันองค์พระธาตุจมอยู่กลางแม่น้ำโขง ห่างจากฝั่งไทยประมาณ 180 เมตร องค์พระธาตุก่อด้วยอิฐถือปูนลัมตะแดงไปตามกระแสน้ำทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีฐานมุมฉาก โดยฐานข้างหนึ่งโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำเพียงครึ่งฐาน องค์พระธาตุมีรูปทรงทางสถาปัตยธรรมเท่าที่ยังเหลืออยู่เป็นชั้นฐานเขียง 2 ชั้น ฐานสี่เหลี่ยมต่อขึ้นมาอีก 4 ชั้น จึงเป็นเรือนธาตุต่อด้วยบัว ลูกแก้ว อีก 2 ชั้น ความสูงของเจดีย์เฉพาะส่วนที่สัมผัสได้ 12.20 เมตร ความกว้างของฐานองค์พระธาตุชั้นล่างสุด 15.80 เมตร ซึ่งขณะระดับน้ำโขงมีระดับสูงจนท่วมองค์พระธาตุฯแล้ว.

 

กลับ กลับหน้าหลัก



ติดต่อเรา

Copyright © 2016 nongkhainewsonline : ข่าวออนไลน์หนองคาย