ในข้อหา  “ร่วมกันลักลอบนำสิ่งของที่มิได้ผ่านขั้นตอนศุลกากรโดยถูกต้องออกไปนอกราชอาณาจักร” หลังจากที่ชาย 3 คนเดินทางมาถึงด่านตรวจบุคคลฯ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ขาออกในช่วงเวลาใกล้ด่านปิดทำการ (22.00 น.) และมีพิรุธต้องการให้เจ้าหน้าที่ตรวจอนุญาตให้เดินทางออกอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่พบพิรุธผิดสังเกต จึงได้เชิญตัวมาตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบว่าพบวัตถุคล้ายเพชรจำนวนมาก บรรจุในถุงมัดเป็นลักษณะวงรีจำนวน 3 ถุง ปรากฏในกระเป๋าซึ่งผู้ถูกจับที่ 1 นำมา จึงได้สอบถาม เจ้าตัวให้การว่าเป็นเพชรซึ่งมีทั้งเพชรแท้และเพชรสังเคราะห์ โดยได้รับมาจากหัวเมืองชั้นใน ก่อนจะเดินทางมายัง จ.หนองคาย โดยจุดมุ่งหมายคือ สปป.ลาว ซึ่งไม่มีเอกสารการสำแดงต่อศุลกากรอย่างถูกต้อง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด ก่อนตรวจยึดของกลางนำส่ง พงส.สภ.เมืองหนองคาย เพื่อดำเนินการต่อไป

พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.จว.หนองคาย กล่าวถึงการจับกุมในครั้งนี้ว่า ตอนนี้เพชรสังเคราะห์ กำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากสามารถส่องดูด้วยตาเปล่ามีลักษณะส่องประกายเหมือนเพชรแท้ แต่มีราคาถูกกว่า จึงเป็นแรงจูงใจให้ผู้กระทำความผิดพยายามจะลักลอบนำออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ถูกต้อง แต่ถึงอย่างไร ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ ถูกจับกุมมาดำเนินคดีได้.