พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, ผู้บัญชาการ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 2 จัดตั้ง นบ.ยส.24 เป็นหน่วยหลักในการบูรณาการสกัดกั้น ปราบปราม ป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมอบหมายให้กองกำลังป้องกันชายแดน เป็นส่วนสกัดกั้น, ตำรวจภูธร เป็นส่วนปราบปราม และศอ.ปส.จว. เป็นส่วนป้องกัน ซึ่งการบูรณาการนี้ ได้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม จนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงปัจจุบันเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด "Seal Stop Safe" ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน มอบนโยบายในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้สามารถเร่งรัดการดำเนินงานสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนให้เห็นผลเป็นรูปธรรม กำหนดระยะเวลา 6 เดือน คือ กุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 2568

ในห้วงที่ผ่านมา มีสถิติการจับกุมในพื้นที่อำเภอชายแดนของจังหวัดหนองคาย จำนวน 43 ครั้ง ผู้ต้องหา 71 คน โดยมีของกลางยาบ้ามากถึง 4,750,127 เม็ด, ไอซ์ 451 กิโลกรัม, เฮโรอีน 56.85 กิโลกรัม, เคตามีน 2 กิโลกรัม และยาอี 3 เม็ด

การจับกุมในพื้นที่รับผิดชอบทั้งหมด 7 จังหวัด 25 อำเภอ จำนวน 393 ครั้ง ผู้ต้องหา 578 คน โดยมีของกลางยาบ้ามากถึง 63,196,536 เม็ด, ไอซ์ 1,908,308 กิโลกรัม, เฮโรอีน 123.95 กิโลกรัม, เคตามีน 573.83 กิโลกรัม, และอื่นๆ (ยาอี 1,490 เม็ด, happy Water 800 ซอง, ฝิ่น 0.66 กรัม

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 03.00 น. โดย กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 จัดกำลังพลทำการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจพื้นที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านเวิน หมู่ 3 ตำบลจุมพล อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ต่อมาตรวจพบเรือกลีบต้องสงสัยพายเรือเข้าเทียบฝั่งไทย และมีรถยนต์เก๋งขับเข้ามาจอดบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง มีบุคคลต้องสงสัย 4 ราย ลงจากรถเดินลงไปยังแม่น้ำโขง ทำการแบกกระสอบสีดำจากริมฝั่งแม่น้ำโขง จำนวน 3 กระสอบ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น กลุ่มบุคคลดังกล่าวพบเห็นวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามสามารถควบคุมตัวไว้ได้ จำนวน 1 ราย เป็นชายอายุ 16 ปี เป็นชาว อ.นาด้วง จ.เลย และทำการตรวจสอบพื้นที่พบเรือกลืบที่ใช้ลำเลียงยาเสพติดพลิกคว่ำ และพบยาเสพติดจำนวน 3 กระสอบ ลอยอยู่ในแม่น้ำโขง จึงประสานหน่วยเรือโพนพิสัยนำเรือออกติดตาม ต่อมาเวลา 03.30 หน่วยเรือโพนพิสัย สามารถติดตามยาเสพติดมาได้ จำนวน 3 กระสอบ จึงได้นำผู้ต้องหาและของกลาง (กระสอบ) ที่ตรวจยึดได้กลับมาตรวจสอบที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ซึ่งจากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในกระสอบ จำนวนประมาณ 2.4 ล้านเม็ด มูลค่าที่ชายแดนประมาณ 120 ล้านบาท เมื่อเข้าไปถึงตอนในก็จะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น 2 -  4 เท่า

จากการขยายผลสามารถเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น.( 3 ก.พ. 68) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งชาวบ้านว่าพบชายต้องสงสัยอยู่ในพื้นที่ตัวอำเภอโพนพิสัย เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 1 คน เป็นชายอายุ 33 ปี ชาว อ.นาด้วง จ.เลย โดยจับได้ที่บริเวณหน้าป้อมจุดบริการประชาชน สภ.โพนพิสัย จุดแยกทุ่งธาตุ และในเวลาประมาณ 09.00 น. ก็จับกุมผู้ต้องหาได้อีก 1 คน เป็นชายอายุ 28 ปี ชาว อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู

สอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ทำให้ทราบว่า มากันทั้งหมด 6 คน โดยมีคนที่รู้จักที่หลบหนีไปได้ขับรถไปรับแต่ละคน บอกให้มาช่วยแบกกระสอบ(ยาบ้า)จากริมโขงมาขึ้นรถ ส่วนค่าจ้างยังไม่ได้ตกลงกัน เมื่อมาถึงจุดที่นัดหมายพวกตน 4 คนก็ได้ลงไปเพื่อแบกกระสอบยาบ้ามาขึ้นรถ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้กับพนักงานสอบสวน สภ.โพนพิสัย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อีกทั้งจะได้มีการสืบสวนขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการในทุกระดับมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป.