ตรวจสอบคนร้ายที่ถูกระเบิดของตัวเองดับขณะวิ่งหลบหนีการไล่ล่าของตำรวจเป็นคนไทย ส่วนอีกคนที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้ขณะขึ้นเรือชาวบ้านที่จอดไว้ยังยืนยันว่าตัวเองเป็นคนลาว ข้ามตามช่องทางธรรมชาติเข้ามาหางานทำ หางานไม่ได้จึงโบกรถคันเกิดเหตุกลับบ้าน แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นพบว่าเป็นคนไทย และมีหมายจับคดีร่วมกันฆ่าคนตาย (เผานั่งยาง) ซึ่งจะได้มีการตรวจเช็คอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดเป็นขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เพราะในรถคันเกิดเหตุพบยาบ้าจำนวน 30 เม็ด

ตรวจสอบคนร้ายที่ถูกระเบิดของตัวเองดับขณะวิ่งหลบหนีการไล่ล่าของตำรวจเป็นคนไทย ส่วนอีกคนที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้ขณะขึ้นเรือชาวบ้านที่จอดไว้ยังยืนยันว่าตัวเองเป็นคนลาว ข้ามตามช่องทางธรรมชาติเข้ามาหางานทำ หางานไม่ได้จึงโบกรถคันเกิดเหตุกลับบ้าน แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นพบว่าเป็นคนไทย และมีหมายจับคดีร่วมกันฆ่าคนตาย (เผานั่งยาง) ซึ่งจะได้มีการตรวจเช็คอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดเป็นขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เพราะในรถคันเกิดเหตุพบยาบ้าจำนวน 30 เม็ด

ความคืบหน้าเหตุการณ์เริ่มต้นจากอุบัติเหตุรถชนกัน ก่อนกลายเป็นคนร้ายหลบหนี เจ้าหน้าที่ไล่ติดตาม ยิงกันสนั่นริมฝั่งโขง หนึ่งในสองคนร้ายถูกจับขณะขึ้นเรือชาวบ้านจะหลบหนี ส่วนอีกคนดึงระเบิดขู่เจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าใกล้ขณะกำลังวิ่งหนีอยู่ในร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่สะดุดล้ม ระเบิดแตกใส่ตัวเองตายคาที่ มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด 1 ราย และตำรวจได้รับบาดเจ็บจากแรงอัดระเบิด 1 ราย

 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยได้พบกับนายสถาพร พลากุล อายุ 50 ปี เจ้าของร้านซ่อมเครื่องใช้ฟ้า อยู่บ้านเลขที่ 378 หมู่ 10 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ที่เป็นจุดเกิดเหตุ พบว่าภายในร้านยังพบคราบเลือดนองพื้นบริเวณประตูห้อง หลังคามีกระสะเก็ดระเบิดหลายสิบรอย กระจกหน้าต่างบ้านด้านข้างกระจกแตกหลายบานจากแรงระเบิด และยังมีรอยกระสุนปืน 1 รอยคาดเป็นรอยกระสุนปืนที่คนร้ายยิงต่อสู้กับตำรวจ ส่วนหน้าต่างด้านหลังพังเสียหาย 1 บานคาดเป็นผู้ต้องหาที่ถูกจับตัวได้ใช้เท้าถีบให้พังก่อนหลบหนีไปที่เรือ และถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้

นายสถาพร พลากุล อายุ 50 ปี เจ้าของร้านซ่อมเครื่องใช้ฟ้า เล่าให้ฟังว่าช่วงเวลาประมาณ 14.00 น.เศษ ตอนอยู่กับลูกค้าที่มารับเครื่องซักผ้าที่ซ่อมเสร็จแล้ว กำลังจะจ่ายเงิน คนร้าย 2 คนได้ลงจากรถสามล้อและวิ่งเข้ามาภายในร้านหนึ่งในคนร้ายได้ดึงสลักระเบิดก่อนวิ่งเข้าไปในร้านของตัวเองและถืออาวุธปืนด้วย จนตกใจได้วิ่งไปทางหลังร้านเพื่อหลบซ่อน ส่วนลูกค้าที่ได้รับบาดเจ็บยังยืนตกใจอยู่ที่เดิมไม่ได้หลบหนีไปไหน เมื่อไปถึงหลังบ้านพบกับคนร้ายที่กำลังวิ่งจะหลบหนี ตนจึงได้วิ่งไปหลบในห้องน้ำซึ่งในช่วงที่ตนวิ่งไปหลังบ้านได้ยินเสียงเสียงปืนประมาณ 3 ครั้งและได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง คนร้ายไม่ได้มีการจับตัวสามล้อเป็นตัวประกัน ซึ่งคนร้ายที่ถูกระเบิดตายคาดว่าอาจจะวิ่งสะดุดล้มในขณะที่มือยังกำระเบิดตอนที่วิ่งเข้าไปในร้าน  ลูกค้าถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่ ตนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน

 

พ.ต.อ.ประเสริฐ ธรรมชัย ผู้กำกับการ สภ.ท่าบ่อ เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดีว่า ได้มีการบันทึกการจับกุมเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ทราบแล้วว่าผู้ตายเป็นใคร ในระหว่างนี้รอสอบปากคำญาติของผู้ต้องหาเสียชีวิตว่ามีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร ส่วนของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้หลังสอบปากคำเสร็จก็จะส่งตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดหนองคาย ภายใน 48 ชั่วโมงตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนกรีที่ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้บอกว่าตนเองเป็นคนลาวนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อส่งตรวจเปรียบเทียบกับกรมการปกครอง ก็จะรู้ชัดเจนว่าเป็นคนลาวหรือคนไทย ส่วนภาพใบหน้าของผู้ต้องหาที่เป็นภาพถ่ายบัตรก็มีตำหนิรูปพรรณตรงกันว่าเป็นคนไทย แต่เพื่อความชัดเจนจะได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียด คือผลการตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือของผู้ต้องหาอีกครั้ง

ทางด้านผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ ยังยืนยันว่าตนเองเป็นคนลาว อยู่หลักสองบ้านโพเงิน เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก พ่อชื่อโอด แม่ชื่อเขียว ไม่รู้อยู่ตรงข้ามกับจุดไหนของไทย ร้องเพลงชาติ สปป.ลาวไม่ได้ เพราะไม่ได้เรียนหนังสือ ข้ามตามช่องทางธรรมชาติเข้ามาในไทยเพื่อหางานทำ ข้ามมา 34 วันแล้ว ตระเวนหางานไม่ได้จึงจะเดินทางกลับ สปป.ลาว เพื่อเที่ยวบุญธาตุหลวง ระหว่างทางได้โบกรถคนที่เกิดเหตุมาจากจังหวัดอุดรฯ ไม่ได้มาด้วยกัน ไม่รู้จักกันมาก่อน จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุและเจ้าหน้าที่มีการไล่ติดตามจับกุมตัว ส่วนคนที่เสียชีวิตนั้นตนจำไม่ค่อยได้เพราะเขาสวมหมวกและใส่หน้ากาก ไม่เห็นรูปร่าง ส่วนปืนไม่ใช่ของตน เป็นของผู้ตาย รวมทั้งรถด้วย ซึ่งรถมาจากเขตอุดรฯ มุ่งหน้าจะมาหนองคาย หลังเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน ผู้ตายได้บอกให้ตนเก็บของ ตนจำอะไรไม่ค่อยได้ยอมรับว่าเสพยาบ้า ผู้ตายเอาให้ตนเสพ ผู้ตายเป็นคนขับรถ หลังเก็บของเสร็จลงจากรถที่เกิดอุบัติเหตุจะให้รถจักรยานยนต์ที่วิ่งผ่านมาไปส่ง ไม่คนขับรถจักรยานยนต์ไม่ยอมไปส่ง จึงได้โบกรถยนต์คนลาวบ้านเดียวกับตนที่วิ่งผ่านมาให้ไปส่ง โดยไปส่งต่อให้สามรับจ้าง ตนและผู้ตายจะให้สามล้อไปส่งที่หน้าด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว  แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามมาทัน คนที่ตายได้ควักระเบิดออกมาจากกระเป๋า พร้อมดึงสลัก ตนกลัวจึงได้กระโดดลงจากรถสามล้อก่อนวิ่งเข้าไปร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนคนขับสามล้อตนไม่รู้ว่าเขาไปที่ไหนต่อ ตนวิ่งนำหน้าเข้าไปก่อน ขณะกำลังกระโดดข้ามหน้าต่างหลังร้านก็ได้ยินเสียงระเบิด สะเก็ดระเบิดได้ถูกบริเวณก้นและขาของตน ตนได้วิ่งไปต่อผ่านวัดและลงไปถึงเรือชาวบ้านที่จอดอยู่ริมฝั่งโขง ตนได้ขึ้นเรือเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยิงปืนใส่จนถูกเครื่องเรือ เรือติดเครื่องไม่ได้ ลอยออกจากฝั่ง และเจ้าหน้าที่ก็ได้ติดตามจับกุมตนไว้ได้ ตนไม่โยนอะไรลงน้ำ กระเป๋าเสื้อผ้าตนก็อยู่บนเรือ ที่เรือก็มีแต่กระป๋อง ตนยืนยันว่าตนเป็นคนลาว

หลังสอบถามเบื้องต้น ผกก.สภ.ท่าบ่อ ให้ผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เขียนชื่อตัวเอง ซึ่งผู้ต้องหาก็พยายามเขียนให้เหมือนภาษาลาว แต่สังเกตได้ว่าเหตุภาษาไทยมากกว่า สำหรับผู้ต้องหาที่เสียชีวิตจะระเบิดของตนเองนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า คือนายมานพ ใจดี อายุ  40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126/1 หมู่ 7 ต.หัวโพธิ์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ส่วนผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้ มีตำหนิรูปพรรณ เหมือนนายนาสิทธิ์ ฤกษ์สิริกรกุล อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200/306 หมู่ที่ 9 ต.ลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี มีหมายจับของศาลจังหวัดชัยบาดาล ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย จากการตรวจภายในรถของผู้ต้องหา ยังพบยาบ้าจำนวน 30 เม็ด คาดว่าคนร้ายทั้ง 2 คนจะเดินทางมารับยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดหนองคาย แต่ได้มาเกิดเหตุก่อน จึงมีแนวโน้มความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่าจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการอายาเสพติดข้ามชาติ.

 

กลับ กลับหน้าหลัก



ติดต่อเรา

Copyright © 2016 nongkhainewsonline : ข่าวออนไลน์หนองคาย