เกิดเหตุชายวัย 45 ปี ชาว ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย ผู้ป่วยจิตเวช ถือมีดบุกเข้าไปฟันเพื่อนบ้านได้รับบาดเจ็บ 3 ราย หนึ่งในผู้บาดเจ็บถูกฟันที่บริเวณศีรษะ บาดเจ็บสาหัสยังอยู่ในห้องไอซียู ผู้บาดเจ็บได้ต่อสู้กับผู้ก่อเหตุ และเรียกเพื่อนบ้านให้ช่วย จนสามารถจับตัวคนก่อเหตุไว้ได้ ก่อนเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไป และขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อีกทั้งอยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาตัวคนก่อเหตุให้พ้นไปจากหมู่บ้าน จะได้ไม่ต้องอยู่กันแบบหวาดระแวง เนื่องจากผู้ก่อเหตุประกาศว่าพ้นโทษจะกลับมาฆ่าให้ตายทั้งหมู่บ้าน
เกิดเหตุชายวัย 45 ปี ชาว ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย ผู้ป่วยจิตเวช ถือมีดบุกเข้าไปฟันเพื่อนบ้านได้รับบาดเจ็บ 3 ราย หนึ่งในผู้บาดเจ็บถูกฟันที่บริเวณศีรษะ บาดเจ็บสาหัสยังอยู่ในห้องไอซียู ผู้บาดเจ็บได้ต่อสู้กับผู้ก่อเหตุ และเรียกเพื่อนบ้านให้ช่วย จนสามารถจับตัวคนก่อเหตุไว้ได้ ก่อนเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไป และขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อีกทั้งอยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาตัวคนก่อเหตุให้พ้นไปจากหมู่บ้าน จะได้ไม่ต้องอยู่กันแบบหวาดระแวง เนื่องจากผู้ก่อเหตุประกาศว่าพ้นโทษจะกลับมาฆ่าให้ตายทั้งหมู่บ้าน
จากกรณีที่มีการโพสและแชร์กันในโลกโซเชียล “อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ว่า ครอบครัวร้องขอความเป็นธรรม...มีหนุ่มป่วยจิตเวชบุกเข้าไปในบ้านทำร้าย ญาติพี่น้องและน้าชายที่เป็นผู้พิการถูกคนก่อเหตุใช้มีดฟันบริเวณศีรษะและลำตัว อาการบาดเจ็บสาหัสต้องผ่าตัดสมอง ทางครอบครัวผู้เสียหายเป็นกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและไม่สามารถเอาผิดกับคนก่อเหตุได้เพราะเป็นผู้ป่วยจิตเวช...หนองคาย”
ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นที่ หมู่ 15 ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 29 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุชื่อนายชาตรี (ขอสงวนนามสกุล) เป็นผู้ป่วยจิตเวชอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย คือนายเด่นชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี , นางฐติกานต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี และนางสาวดวงใจ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ทั้งสามคนเป็นพี่น้องกัน โดยเฉพาะนายเด่นชัย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกฟันที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ และถูกฟันทั่วทั้งตัวอีกหลายแห่ง ขณะนี้รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลหนองคาย , นางฐติกานต์ ก็มีแผลทั่วทั้งตัวหลายแห่ง โดยเฉพาะที่บริเวณแขน นิ้วมือ และขา รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสระใคร ส่วนนางสาวดวงใจ ไม่มีบาดแผล แต่ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณข้อเท้า
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยได้พบกับ ร.ต.อ.อัมรินทร์ วงศ์ตาแสง พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี ที่ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง และได้พบกับนางสาวดวงใจ หนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนเกิดเหตุตน พี่ชาย และน้องสาว ได้นั่งกินข้าวคุยกันที่โต๊ะกินข้าวหลังบ้าน หลังคุยกันเสร็จพี่ชายก็จะกลับบ้านของตนเอง ส่วนตนกับน้องสาวก็จะพากันไปซื้อของ พี่ชายได้เข้ามาหาเพื่อให้เติมเงินในโทรศัพท์ให้เพราะพี่ชายเติมเองไม่เป็นเพื่อจะได้โทรหาคนงานไปช่วยเก็บเกี่ยวข้าวช่วย เป็นการบังเอิญที่มารวมตัวกันสามคนพี่น้อง น้องสาวมาหาตนเพื่อจะให้ตนพาไปซื้อเสารั้วและซื้อสิ่งของ น้องสาวเข้ามาที่บ้านของตนก่อน ต่อมาพี่ชายก็ได้ตามเข้ามาเพื่อให้ตนเติมเงินโทรศัพท์ให้ เมื่อพี่น้องมาเจอหน้ากันก็ได้กินข้าวและคุยกัน คุยกันเสร็จต่างคนก็จะไปทำธุระของตน ขณะกำลังจะเดินออกไป คนที่ก่อเหตุก็ได้เดินถือมีดที่ใช้ฟันฟืนเข้ามา และได้ใช้มีดที่ถือมาฟันพี่ชายของตนหลายครั้งจนล้มลง น้องสาวของตนเห็นพี่ชายถูกฟันก็ได้วิ่งเข้าไปช่วยจนถูกฟันอีกคน ก่อนพี่ชายที่ได้รับบาดเจ็บเห็นน้องสาวถูกฟันก็ได้ลุกขึ้นมาช่วยกันต่อสู้กับคนที่ก่อเหตุ ส่วนตนที่วิ่งตามน้องสาวออกมาลูกชายที่อยู่ในบ้านก็ได้วิ่งออกมาดูก่อนจะดึงตนไม่ให้ถูกฟันอีกคนจนตนล้มลง สุดท้ายพี่ชายกันน้องสาวก็สามารถจับตัวคนก่อเหตุได้ ก่อนชาวบ้านจะเข้ามาสมทบช่วยควบคุมตัวไว้แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มารับตัวไป และเรียกรถพยาบาลให้มารับผู้บาดเจ็บ
ส่วนสาเหตุที่เข้ามาทำร้ายนั้นที่มีบางคนบอกว่าไปด่าคนที่ก่อเหตุนั้น นางสาวดวงใจ บอกว่า ตนและครอบครัวของตนไปเคยไปสุงสิง ไม่เคยไปด่าหรือไปพูดคุยกับผู้ที่ก่อเหตุ เพราะตนและคนในหมู่บ้านรู้ดีว่าคนที่ก่อเหตุเป็นคนแบบไหน เวลาเห็นเดินมาตนก็จะหลบ ตนไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรกับตน ปกติก็จะระมัดระวัง บ้านก็มีรั้วรอบขอบชิด เมื่อมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นยิ่งน่ากลัว คนที่ก่อเหตุยังได้บอกว่า ชาวบ้านมารุมประชาทัณฑ์ พ้นโทษออกมาจะฆ่าให้ตายทั้งหมู่บ้าน แล้วจะทำอย่างไรกัน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยนำตัวคนที่ก่อเหตุไม่ให้กลับมาอยู่ในหมู่บ้าน ตนก็อยู่แบบหวาดระแวง บ้านตนก็ไม่ได้มีผู้ชายอยู่ด้วย มีแต่ลูกกับตนอยู่ด้วยกันสามคน หากคนก่อเหตุพ้นโทษหรือได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้วเข้ามาก่อเหตุอีก ใครจะมาช่วยเหลือตน เหตุการณ์ที่เกิดครั้งนี้เหมือนพี่น้องของตนมารับเคราะห์แทนตน มีดที่ใช้ก่อเหตุก็ถือมาจากด้านนอก
สอบถาม ร.ต.อ.อัมรินทร์ วงศ์ตาแสง พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี บอกว่าผู้ก่อเหตุถูกควบคุมตัวที่โรงพัก อยู่ระหว่างการสอบปากคำ คาดอีก 1 – 2 วันจึงจะส่งตัวฝากขัง เบื้องต้นแจ้ง 2 ข้อกล่าวหา คือบุกรุก และทำร้ายร่างกาย ส่วนจะแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่าหรือไม่นั้น ต้องรอใบรับรองของแพทย์และการสอบปากคำให้แล้วเสร็จก่อน
ในส่วนของผู้ก่อเหตุ อาศัยอยู่กับแม่ที่อายุมากแล้วเพียง 2 คนเท่านั้น และบ้านก็อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน และอยู่ไม่ไกลจากบ้านที่เกิดเหตุมากนัก.