สภ.เมืองหนองคาย บูรณาการทุกภาคส่วน ตรวจยึดยาไอซ์ จำนวน 489 กก. มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ก่อนขยายผลกับกุมผู้ต้องหาได้อีก 3 ราย จากทั้งหมด 6 ราย พร้อมขยายผลยึดทรัพย์สินได้อีกกว่า 3 ล้านบาท
สภ.เมืองหนองคาย บูรณาการทุกภาคส่วน ตรวจยึดยาไอซ์ จำนวน 489 กก. มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ก่อนขยายผลกับกุมผู้ต้องหาได้อีก 3 ราย จากทั้งหมด 6 ราย พร้อมขยายผลยึดทรัพย์สินได้อีกกว่า 3 ล้านบาท
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (24 ก.ย. 67) ที่ สภ.เมืองหนองคาย นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย , พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จว.หนองคาย , พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย , พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สืบสวน ภ.จว.หนองคาย , พ.อ.สุภัทร ชูตินันท์ รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และ นายธวัชชัย กงเพชร หัวหน้ากลุ่มความมั่นคง อำเภอเมืองหนองคาย ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาไอซ์ จำนวน 489 แท่ง น้ำหนักรวม 489 กก. มูลค่ากว่า 200 บาท ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจยึดได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในเขตพื้นที่ ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย เมื่อคืนวันที่ 4 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา
สำหรับการตรวจยึดยาไอซ์ล็อตใหญ่ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 19.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งทางศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกันที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในเขตพื้นที่ ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย จึงได้ออกไปตรวจสอบ เมื่อเดินทางไปถึงไม่พบเหตุทะเลาะวิวาทแต่อย่างใด รวมถึงไม่พบบุคคลผู้เข้าพัก พบเพียงห้องพักที่เปิดทิ้งไว้และพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอ็คคอร์ต สีขาวจอดทิ้งไว้อยู่หน้าห้องพักดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบภายในรถ เบื้องต้นพบถุงดำต้องสงสัยอยู่ภายในห้องโดยสารของรถยนต์คันดังกล่าวเต็มคันรถ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเข้าตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบว่ามีถุงดำต้องสงสัยจำนวน 13 กระสอบ ภายในพบยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ จำนวน 489 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 489 กก. มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท จึงได้ตรวจยึดรถพร้อมของกลางทั้งหมดมาที่ สภ.เมืองหนองคาย
จากการสืบสวนขยายผล เบื้องต้นทราบว่ายาไอซ์ที่ตรวจยึดครั้งนี้ ผู้ต้องหาเดินทางไปรับมาจากพื้นที่ อ.ปากคาด เพื่อนำไปส่งต่อยังพื้นที่ตอนใน จากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบผู้ที่เกี่ยวข้องการกระทำผิดดังกล่าวและสามารถออกหมายจับในความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายโดยการไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” เบื้องต้นพบว่ามีผู้กระทำผิดจำนวน 6 ราย ติดตามจับกุมตามหมายจับได้แล้ว 3 ราย ได้แก่ นายนวพล เพื่อก่ำ , นายธนพล เชื้อทอง ซึ่งทั้งสองคน สนับสนุนชุดคุ้มกัน และนายปณิธาน จำปาเทศ เป็นคนขับรถลำเลียงยาเสพติด อยู่ในระหว่างการติดตามตัวตามหมายจับอีก 3 ราย คือนายปรีชา จูซ้าย , นายธรรมรัตน์ สว่างสุข และนายรัฐพงษ์ สิงขรอาจ ซึ่งเป็นคนจัดหารถและคุ้มกันยาเสพติด เจ้าหน้าที่ยังได้ขยายผลตรวจยึดทรัพย์สิน เป็นรถยนต์จำนวน 3 คัน และทรัพย์สินอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท และจะได้มีการสอบปากคำผู้ต้องหาที่จับกุมได้ เพื่อติดตามผู้ร่วมขบวนการมารับโทษตามกฎหมายต่อไป.