ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยในอิสราเอล ในพื้นที่ อ.โพธิ์ตาก พบส่วนใหญ่ปลอดภัยดี ครอบครับยังติดต่อได้ และยังไม่อยากเดินทางกลับ เนื่องจากต้องการทำงานใช้หนี้ให้หมดก่อน ในขณะที่จังหวัดหนองคาย ได้จัดรถตู้ให้กับครอบครัวของแรงงานไทยที่เดินทางกลับเป็นชุดแรก ไปรับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ
ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยในอิสราเอล ในพื้นที่ อ.โพธิ์ตาก พบส่วนใหญ่ปลอดภัยดี ครอบครับยังติดต่อได้ และยังไม่อยากเดินทางกลับ เนื่องจากต้องการทำงานใช้หนี้ให้หมดก่อน ในขณะที่จังหวัดหนองคาย ได้จัดรถตู้ให้กับครอบครัวของแรงงานไทยที่เดินทางกลับเป็นชุดแรก ไปรับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วานนี้ (11 ต.ค. 66) นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยในอิสราเอล ในพื้นที่ ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย โดยได้เยี่ยมครอบครัวของนายนิรันดร์ หารินไสล , ครอบครัวของนายสุที บุญทอง และครอบครัวของนายอิฐธิพร คำภีระเกต ซึ่งจากการสอบถามครอบครัวของแรงงานทั้ง 3 คน พบว่านายนิรันดร์ และนายอิฐธิพร อยู่ห่างจากพื้นที่สู้รบประมาณ 20 กม.เท่านั้น ได้ยินเสียงและได้เห็นกระสุนปืนข้ามไป-มา ส่วนนายสุที นั้นทำงานอยู่ห่างจากจุดที่ต่อสู้กันประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร ถือว่าอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย และพบว่าแรงงานฯทั้ง 3 คนยังอยากทำงานต่อที่อิสราเอล
ในส่วนของนายสถิตย์ พรมอุนารถ อายุ 32 ปี ที่เป็นชาวจังหวัดนองคาย อยู่บ้านเลขที่ 409/481 หมู่ 11 บ้านเอื้ออาทร ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย 1 ใน 15 คนที่เป็นแรงงานไทยที่เดินทางกลับชุดแรกนั้น จังหวัดหนองคาย โดยสำนักงานจัดหางานจังหวัดหนองคาย ได้จัดรถตู้รับนางเสวียง เปรินร์ ที่เป็นแม่ พร้อมกับพี่สาวเดินทางไปรับนายสถิตย์ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยได้เดินทางออกจากจังหวัดหนองคาย เมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ (11 ตุลาคม 2566) ไม่มีใครอยู่ที่บ้าน ซึ่งนายสถิต เดินทางกลับชุดแรกเนื่องจากอยู่ใกล้ครบสัญญาแล้ว
น.ส.วันดี จันทกุล แม่ของนายสุที บุญทอง แรงงานไทยในอิสราเอล เล่าให้ฟังว่าลูกชายเป็นลูกคนที่ 3 พึ่งไปทำงานที่ต่างประเทศคือที่อิสราเอลเป็นครั้งแรก ไปได้ 2 ปีกว่าแล้ว จุดที่ลูกชายอยู่ห่างจากจุดที่มีการต่อสู้กันประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร ลูกชายยังไม่อยากกลับ ยังอยากทำงานหาเงินต่อ ลูกชายทำงานเกษตร หนี้สินก็ใช้หมดแล้ว แต่ครอบครัวก็เป็นห่วงอยากให้กลับแต่ลูกชายไม่อยากกลับ ซึ่งขณะนี้ก็ยังติดต่อกันได้ตลอด
ทางด้านนางหนูทอง สุรินทราช แม่ของนายอิฐพร แรงงานไทยในอิสราเอล เล่าให้ฟังว่า ลูกชายพึ่งไปทำงานได้ 3 – 4 เดือนเท่านั้น ลูกชายบอกว่าอยู่ห่างจากจุดที่มีการต่อสู้กันประมาณ 20 กม. ยังสามารถติดต่อกันได้ตลอด ลูกชายยังไม่อยากกลับมา ขอดูสถานการณ์ก่อน ถ้าสถานการณ์รุนแรงก็อยากจะกลับ แต่ใจจริงแล้วอยากอยู่ต่อเพื่อทำงานใช้หนี้สินก่อน ซึ่งขณะนี้เป็นหนี้อยู่ประมาณ 2 แสนกว่าบาท ลูกชายได้เงินเดือน 5 หมื่นกว่าบาท หลังไปทำงานก็เริ่มส่งเงินกลับมา ให้ตนครั้งละ 2 – 3 พันบาท และส่งให้ภรรยาเพื่อสร้างบ้านและเป็นค่าเลี้ยงดูลูกสาว ซึ่งตอนที่จะเดินทางไปหมดเงินที่เป็นค่าใช้จ่ายรวมกว่า 2 แสนบาท ทางครอบครัวภรรยาเอาที่นาเข้าจำนอง ขณะนี้ตนเป็นห่วงลูกชายมาก นอนก็ไม่ค่อยหลับ 4 – 5 ทุ่มก็โทรหาลูกชายอยู่ตลอด โทรหาลูกสะใภ้ด้วย เพราะบางครั้งตนติดต่อลูกชายไม่ได้ ก็เลยต้องโทรหาลูกสะใภ้ คือในช่วงที่มีเหตุการณ์ต่อสู้ สายก็จะถูกตัดขาดไป โทรติดต่อกันผ่านระบบไลน์แต่ไม่ได้เปิดกล้อง บางครั้งก็ได้ยินเสียงกระสุนปืนผ่านศีรษะลูกชายไป จุดที่ลูกชายอยู่ก็มีทหารเข้ามาลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยความเป็นแม่ก็เป็นห่วงลูก จึงต้องโทรหาอยู่ตลอด ว่าลูกจะอยู่อย่างไร
ทางด้านนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จากการสำรวจขึ้นทะเบียนอยู่สำนักงานจัดหางานจังหวัดหนองคาย มีแรงงานชาวจังหวัดหนองคาย ที่ขึ้นทะเบียนไว้ จำนวน 1,164 ราย จากการประสานข้อมูลกับกระทรวงแรงงานและกระทรวงต่างประเทศ พบว่ามีแรงงานที่เป็นชาวจังหวัดหนองคายถูกจับเป็นตัวประกัน 1 คน เป็นชาวอำเภอรัตนวาปี จังหวัดหนองคายก็ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อเป็นศูนย์ประสานงาน สื่อสาร ช่วยเหลือ ครอบครัวของแรงงานฯในการติดต่อกัน ก็ได้รับการประสานจากทุกอำเภอ ในการออกพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจในครั้งนี้ ในส่วนของเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย ได้ออกไปเยี่ยมครอบครัวของแรงงานฯที่ อ.รัตนวาปี เพื่อเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของแรงงานฯที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ในส่วนของตนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเพื่อเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของแรงงานฯ ในพื้นที่ ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก ซึ่งมีแรงงานไปทำงานที่อิสราเอล จำนวน 46 ราย โดยตนได้เยี่ยมให้กำลังใจ จำนวน 3 ครอบครัว ซึ่งทั้ง 3 ครอบครัวสามารถติดต่อกันได้ พบว่าทุกคนยังปลอดภัย และยังต้องการอยู่ที่อิสราเอลเพื่อทำงานต่อ ยังไม่มีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับ
ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวต่อไปว่า ต้องขอขอบคุณรัฐบาล นายกรัฐมนตรี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันสร้างความสุข ความมั่นใจให้กับครอบครัวของแรงงานฯ ซึ่งตนก็ได้พบปะ พูดคุยกับครอบครัวของแรงงานฯ ให้รู้ว่า ทางรัฐบาล ทางนายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ จึงได้มอบหมายให้ทางจังหวัด ทางอำเภอ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ซึ่งจะได้ออกตรวจเยี่ยมครอบครัวแรงงานในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ส่วนแรงงาน 1 รายที่มีความประสงค์เดินทางกลับประเทศ (15 คนแรก) ที่จะเดินทางกลับถึงไทยในวันพรุ่งนี้ (12 ตุลาคม 66) ทางจังหวัดหนองคาย โดยสำนักงานจัดหางานจังหวัดหนองคาย และสำนักงานแรงงานจังหวัดหนองคาย ก็ได้จัดรถตู้ สนับสนุนรับครอบครัวของแรงงานที่เดินทางกลับรอบแรก ไปรับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ.