ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ญาติแรงงานที่เสียชีวิต 3 รายที่เป็นแม่ลูก จากตึกที่กำลังก่อสร้างถล่มจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ในช่วงบ่ายเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ผู้ว่าฯ ยืนยันจะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในขณะที่ตายายสุดเศร้าที่เสียลูกและหลาน ที่เป็นเสาหลักอย่างกะทันหัน โดยไม่ได้ทำใจไว้ก่อน ขอให้ดวงวิญญาณไปเกิดในภพภูมิที่ดีและขอให้เกิดมาเป็นลูกเป็นหลานกันอีก ซึ่งจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 3 เมษายน 2568 นี้ที่วัดในหมู่บ้าน

ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ญาติแรงงานที่เสียชีวิต 3 รายที่เป็นแม่ลูก จากตึกที่กำลังก่อสร้างถล่มจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ในช่วงบ่ายเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ผู้ว่าฯ ยืนยันจะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในขณะที่ตายายสุดเศร้าที่เสียลูกและหลาน ที่เป็นเสาหลักอย่างกะทันหัน โดยไม่ได้ทำใจไว้ก่อน ขอให้ดวงวิญญาณไปเกิดในภพภูมิที่ดีและขอให้เกิดมาเป็นลูกเป็นหลานกันอีก ซึ่งจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 3 เมษายน 2568 นี้ที่วัดในหมู่บ้าน

เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.วันนี้ (30 มี.ค. 68) นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย , ว่าที่ร้อยตรี พงษ์สิทธิ์ เปรยะโพธิเดชะ นายอำเภอเฝ้าไร่ พร้อมด้วยหลายหน่วยงานทั้ง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองคาย , สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย , เหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย , สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย , สำนักงานประกันสังคมจังหวัดหนองคาย , สำนักงานแรงงานจังหวัดหนองคาย , กำนัน , ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ มอบสิ่งของและเงินจำนวนหนึ่งให้กับญาติแรงงานที่ประสบเหตุอาคาร 30 ชั้น ที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ที่กำลังก่อสร้างด้วยงบประมาณ 2,136 ล้านบาท บนถนนกำแพงเพชร 2 ใกล้ตลาดนัดส่วนจตุจักร ที่ถล่มลงมา จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ในช่วงบ่ายเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา

 

โดยลงพื้นที่ บ้านเลขที่ 64 หมู่ 11 ต.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นบ้านของนายประเทือง มาตรา อายุ 67 ปี และนางทอง มาตรา อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นบิดา-มารดา ของนางคำแสน มาตรา อายุ 47 ปี เป็นตา-ยาย ของ นายณัฐดนัย นามบุรี อายุ 26 ปี และนางสาวสุมิตรา นามบุรี หรือน้องนุ่น อายุ 23 ปี ที่เสียชีวิตจากตึกที่กำลังก่อสร้างถล่มจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อในช่วงบ่ายเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาร่วมให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีการตั้งโลงศพเรียงจากนางคำแสน , นายณัฐดนัย และนางสาวสุมิตรา บริเวณกลางบ้าน มีพวงหรีดจากหลายภาคส่วนส่งมาร่วมแสดงความอาลัย เป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งนายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมให้กำลังใจ ยืนยันจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่

 

นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า เหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นค่าปลงศพ เงินชดเชย ซึ่งตนได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สำรวจรายละเอียดต่าง ๆ อยู่ เบื้องต้นเป็นแม่กับลูกที่เสียชีวิตและได้นำร่างกลับมาที่บ้านแล้ว แต่ในส่วนของสามี (สามีใหม่-พ่อเลี้ยง) ยังไม่พบร่างอยู่ในระหว่างการค้นหา อย่างไรก็ตามทางจังหวัดก็จะได้มีการประสานกับหน่วยงานส่วนกลาง ในส่วนที่จะได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมผู้ประสบภัย ที่ทางรัฐบาลได้ให้ความสำคัญห่วงใยดูแลในเรื่องนี้ วันนี้ทุกภาคส่วนได้มาให้กำลังใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต เหตุการณ์นี้ถือเป็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับประชาชน รัฐบาลได้มีแนวทางที่จะให้การช่วยเหลือ ให้ผ่านพ้นความเศร้าโศกเสียใจไปให้ได้ ส่วนที่จะมีแรงงานที่เสียชีวิตเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ยังอยู่ในระหว่างการค้นหา ส่วนกลางก็ได้ระดมสัพกำลังค้นหาอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นการค้นหาผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ และร่างของผู้ที่เสียชีวิตแล้ว ทางจังหวัดก็ได้รอรับรายงานเพิ่มเติม ยืนยันจะดูแลประชาชนชาวหนองคายอย่างดีที่สุด ทางรัฐบาลก็ได้ให้แนวทางในการดำเนินงานไว้แล้ว

นายประเทืองและนางทอง มาตรา ที่เป็นบิดา-มารดาและเป็นตา-ยาย ของผู้ที่เสียชีวิต เล่าว่า ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าลูกและหลานเสียชีวิตจากเหตุการณ์ตึกถล่ม นอนดูข่าวเหมือนปกติทั่วไป ซึ่งตายังบอกว่าแรงงานพม่าตายอีกแล้ว ไม่คิดว่าจะมีลูกหลานของตนรวมอยู่ด้วย จนกระทั่งหลังวันที่เกิดเหตุได้โทรหาหลานชาย โทรหากี่ครั้งก็ไม่ติด มีแต่ฝากข้อความ ปกติโทรหาไม่เกิน 2 ครั้งก็จะรับ พร้อมบอกว่าทำไมโทรมาบ่อยจัง ตนจึงได้โทรหาลูกสาวที่เป็นแม่แทน โทรติดแต่ไม่มีใครพูด ตนไม่รู้ว่าลูกและหลานไปทำงานอยู่ที่เกิดเหตุ เพราะไม่มีใครบอก ปกติจะทำงานอยู่ที่ภูเก็ต และนครปฐม จุดที่ตึกถล่มนี้พึ่งเข้าไปทำ ซึ่งลูกสาวและหลานชายไปทำงานด้วยกันนานแล้ว คือประมาณ 2 ปี ส่วนหลานสาว (น้องนุ่น) พึ่งลงไปเมื่อวันพุธ วันศุกร์ก็เกิดเหตุฯ ปกติจะไปช่วงปิดเทอมทุกครั้ง พึ่งไปทำวันแรกก็เกิดเหตุฯเลย หลานสาวจบ สาขาสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย สอบขึ้นบัญชีที่จังหวัดเลยแล้ว ถ้าได้ทำงานก็จะทำงานที่จังหวัดเลยประมาณ 1 ปี จึงจะย้ายไปที่อื่นได้ ไกลสุดที่จะย้ายไปคือที่จังหวัดขอนแก่น แต่ยังเรียกไม่ถึง จึงไปลงไปทำงานกับแม่แล้วก็มาเกิดเหตุฯ หลานชายคนโต พี่ชายของน้องนุ่น โทรมาบอกว่าดีใจจะได้ไปรับปริญญาน้อง แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปรับวันไหน ปิดเทอมก็จะลงไปทำงานตลอดเสร็จแล้วค่อยมาหายาย

นายประเทืองและนางทอง เล่าต่อไปอีกว่า ตนมีลูก 3 คน คนที่เสียชีวิตเป็นลูกสาวคนโต คนที่ 2 ก็เป็นลูกสาว ที่กำลังเดินเรื่อง ส่วนคนที่ 3 เป็นลูกชาย ตอนนี้ทำงานอยู่ไต้หวัน ส่วนหลานที่เกิดจากลูกคนโตที่เสียชีวิตมี 3 คน เช่นกัน คนโตเป็นผู้ชาย ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดไม่ทำงานกับแม่ ส่วนคนที่ 2 เป็นผู้ชายทำงานกับแม่มานานแล้ว และคนที่ 3 คือน้องนุ่น หลังเกิดเหตุฯรู้ว่าลูกสาวและหลานเสียชีวิต ก็คิดมาก กินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับ เพราะลูกที่เสียชีวิตถือเป็นเสาหลักของครอบครัว ส่งเงินมาให้ใช้จ่าย เป็นผู้ที่ดูแลคนในบ้าน เป็นคนที่เลี้ยงพ่อ-แม่ ซึ่งไปทำงานเป็นเวลามากกว่า 20 ปี เป็นงานก่อสร้าง ไปกับสามีใหม่ที่เป็นผู้รับเหมา ไปทำงานหลายจังหวัดแล้วแต่จะได้งานที่ไหน

นายประเทืองและนางทอง ได้ฝากถึงดวงวิญญาณลูกหลานว่า ขอให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี เมื่อถึงเวลาก็ต้องได้ไป ทำอย่างไรก็หยุดไม่ได้ ตนพยายามคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็อดคิดไม่ได้ เพราะเกิดขึ้นกะทันหัน และยังเกิดหลายคนพร้อมกัน แม่ลูกมีกัน 4 คน ไปพร้อมกัน 3 คน เหลือเพียงหลานชายคนโตเพียงคนเดียว โดยเฉพาะน้องนุ่นขอให้ไปดีมีความสุข ได้กลับมาเกิดเร็ว ๆ มาเป็นหลานตาเหมือนเดิม น้องเป็นคนบอกง่าย ขยัน และเรียนเก่ง ครูที่โรงเรียนยังชมอยู่เสมอ ขอให้หลานอย่างมีห่วง ตา-ยาย มีคนคอยดูแลอยู่แล้ว

สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้นนั้น นายณัฐดนัย นามบุรี อายุ 26 ปี (เสียชีวิต) ทายาทมีสิทธิได้รับ ค่าทำศพ 50,000 บาท ตามมาตรา 33 ค่าทดแทนกรณีตาย 18(4) ในอัตราร้อยละ 70 ของค่าจ้าง เป็นระยะเวลา 10 ปี จำนวนเงิน 1,135,680บาท และเงินบำเหน็จชราภาพจากกองทุนประกันสังคม จำนวนเงิน 12,066.78 บาท (ยังไม่รวมดอกผล) , นางคำแสน (แม่) นายจ้างยังไม่แจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน เช่นเดียวกับนางสาวสุมิตรา ซึ่งจะได้ช่วยเหลือในช่องทางอื่น ๆ ต่อไป โดยจะมีพิธีณาปนกิจ ในวันที่ 3 เมษายน 2568 ณ วัดป่าธรรมคุณ หมู่ 11 บ้านภูเงิน ต.เฝ้าไร่ อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย.

 

กลับ กลับหน้าหลัก



ติดต่อเรา

Copyright © 2016 nongkhainewsonline : ข่าวออนไลน์หนองคาย