"เครือข่ายลุ่มน้ำ 7 จังหวัดภาคอีสาน” จับมือสถาบันวิชาการ หน่วยงานกรมประมง เดินหน้าฟื้นฟูพลับพลึงแม่น้ำโขง

"เครือข่ายลุ่มน้ำ 7 จังหวัดภาคอีสาน” จับมือสถาบันวิชาการ หน่วยงานกรมประมง เดินหน้าฟื้นฟูพลับพลึงแม่น้ำโขง

นักวิจัยจากกองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด กรมประมง ได้ลงพื้นที่ร่วมกับคณะอาจารย์จากศูนย์ความเป็นเลิศด้านความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่น (BRIC CMRU) ม.ราชภัฎเชียงใหม่และอาจารย์จากคณะสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย เพื่อเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชริมโขง บ้านคกไผ่ และ บ้านหาดคัมภีร์เพื่อไปทำการศึกษาวิจัยและทำการขยายพันธุ์ก่อนส่งคืนพื้นที่เพื่อช่วยรักษาระบบนิเวศน์ของแม่น้ำโขงที่เปลี่ยนไป โดยวันนี้ได้เก็บตัวอย่าง พลับพลึงธาร หญ้าหวีด สาหร่ายไก (เทา) ไปบางส่วน รวมทั้งได้สำรวจต้นไคร้น้ำทั้ง 2 พื้นที่ ท่ามกลางระดับน้ำที่ขึ้นลงรายวัน จนทำให้เป็นปัญหาสำรวจเก็บตัวอย่างเนื่องจากพืชบางส่วนเพิ่งจมน้ำไปไม่กี่วัน รวมทั้งไกที่กระจายตัวอยู่มากมายก่อนหน้านี้ก็โดนน้ำพัดพาไปจนเหลือเศษซากแค่เพียงบางส่วนที่พอนำกลับไปได้

 

ดร.อาภากร สกุลสถาพร ม.ขอนแก่น ได้พูดถึง หญ้าหวีด หรือ คริปโตโครีน เลยเอ็นซิส (Cryptocoryne loeiensis) ซึ่งเป็นพืชประจำถิ่น จ.เลย ที่มีเฉพาะพื้นที่นี้เท่านั้น โดยการเก็บตัวอย่างครั้งนี้จะนำไปขยายพันธุ์ด้วยเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อและหลังจากนั้นก็จะนำกลับคืนสู่ชุมชน และยังอยากให้ชุมชนได้เกิดความตระหนักต่อคุณค่าความพิเศษตรงนี้เกิดความรักความหวงแหนส่งผลให้ร่วมกันอนุรักษ์ต่อไป ส่วนทางด้าน อ.นิรุต เพียงพงศธร จาก ม.ราชภัฎเชียงใหม่ ได้กล่าวถึงสาหร่ายไกว่าแม้จะเกิดผลกระทบกับชาวประมง แต่ทางด้านคุณค่าก็จัดว่ามีสารอาหารโปรตีนและกากใยอาหารสูง โดยจะไปศึกษาต่อว่าสามารถนำไปเป็นอาหารสัตว์หรือปุ๋ยเพื่อส่งเสริมการเกษตรต่อไปได้หรือไม่ นักวิจัยจากหน่วยงานประมงได้ให้ความสนใจต่อพลับพลึงธารโดยเก็บข้อมูลความหนาแน่นและองค์ประกอบรอบข้างเพื่อวางแผนการฟื้นฟูต่อไป

 

สำหรับการลงพื้นที่เก็บตัวอย่างของนักวิจัยในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนลุ่มน้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสาน โดยมีตัวแทนจากปากชม และบ้านหาดคัมภีร์ ให้การต้อนรับและพาลงพื้นที่ตลอดทั้งวัน

ทั้งนี้ มติที่ประชุม เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนลุ่มน้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสาน(คสข.) ประจำวันที่ 17 ก.ย.65 เกี่ยวกับการฟื้นฟูระบบนิเวศแม่น้ำโขง ซึ่งกิจกรรมหนึ่งในนั้น คือการปลูกพืชพื้นถิ่น ที่กำลังล้มหายตายจากจากแม่น้ำโขง เช่น ต้นไคร้น้ำ ไคร้นุ่น และพลับพลึงแม่น้ำโขง ซึ่งแกนนำ คสข.จังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย ได้เตรียมการปักชำ เพาะชำ พืชดังกล่าว และมีแผนจัดแปลงเพาะปลูก และติดตามการเจริญเติบโตในภาวะน้ำโขงผันผวน ว่าจะสามารถปรับตัว อยู่รอดหรือไม่

นายชาญชัย ดาจันทร์ คสข.จังหวัดเลย และกรรมการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแก่งจันทร์ สมุนไพรพืชเศรษฐกิจหาดคัมภีร์ได้มีแผนอนุรักษ์ ฟื้นฟู เพื่อประโยชน์ต่อระบบนิเวศ การจัดการท่องเที่ยวและเชิงพานิชย์ มีการประสานงานกับสำนักงานเกษตรอำเภอปากชมตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งสมาชิกกลุ่มอยู่ระหว่างการปักชำ เพาะชำ ปรึกษาหารือสมาชิก เพื่อเตรียมแปลงเพาะปลูก พร้อมทั้งประสานกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อดำเนินการจัดกิจกรรมแปลงทดลอง นำพลับพลึงคืนสู่แม่น้ำโขง ในเดือนธันวาคม 2565 ที่จะถึง

นางอ้อมบุญ ทิพย์สุนา เลขาธิการ คสข. กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า คสข.ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการศึกษาเรื่องพืชพรรณแม่น้ำโขง ตลอดจนความหลากหลายทางชีวภาพในแม่น้ำโขง ที่ลดลงไปอย่างต่อเนื่อง มีการลงสำรวจข้อมูล พร้อมกรมประมง นักวิชาการจาก มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่นวิทยาเขตหนองคาย เช่น ไก พลับพลึงแม่น้ำโขง หญ้าหวีด ซึ่งพลับพลึงมีความร่วมมือกับกรมประมงเพื่อทำการทดลองเพาะเนื้อเยื่อ เพาะเมล็ดพันธุ์ และจะดำเนินการทำแปลงทดลอง นำพลับพลึงที่เพาะได้ กลับคืนสู่น้ำโขงในพื้นที่จังหวัดเลย และจังหวัดหนองคาย เพื่อติดตามการเจริญเติบโตอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ คสข.ได้พยายามประสานความร่วมมือกับสถาบันวิชาการในพื้นที่เพื่อเพาะขยายพันธุ์พลับพลึงแม่น้ำโขงมาอย่างต่อเนื่อง.

 

กลับ กลับหน้าหลัก



ติดต่อเรา

Copyright © 2016 nongkhainewsonline : ข่าวออนไลน์หนองคาย