นายบุญปอง น้อยยะ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 202 หมู่ 1 บ้านนาน้ำพาย เล่าว่า ขณะที่อยู่ในบ้านพักเพียงคนเดียวมีลมพัดกระโชกแรง ไม่ถึง 5 นาที แรงลมก็พัดเอาหลังคาบ้านปลิวไปทั้งหลังและไปตกห่างจากตัวบ้านไกลกว่า 50 เมตร จากนั้นมีฝนตกตามลงมาด้วย กลัวจะได้รับอันตรายจึงกอดเสาบ้านเอาไว้ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาจนทำให้ทรัพย์สินสิ่งของต่างๆ ภายในบ้านเปียกน้ำฝนได้รับความเสียหาย แต่ยังโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

นายโชคเจริญ ใจเบา ราษฏรบ้านโนนสดใส หมู่ 9 ต.หนองนาง 1 ในชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนพัดถล่มในครั้งนี้ เล่าว่า ตนเองอยู่ที่นี่มา 30 ปีเพิ่งเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ก่อนหน้านี้เคยเจอแต่เพื่อนบ้านที่โดนพายุพัดกระหน่ำและหลังคาบ้านปลิวออก สำหรับในครั้งนี้ของตน หลังคาบ้านถูกแรงลมพัดปลิวหายไปกับสายลม โดยระหว่างเกิดเหตุเกิดมีลมพัดกระหน่ำมารุนแรงและมีฝนตกลงมา สักพักลมหมุนรุนแรงพัดเอาหลังคาบ้านของตนพังเสียหายหมด นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนของเพื่อนบ้านอีกในหมู่บ้านเดียวกันได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ทางอำเภอท่าบ่อได้มอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้านและผู้ที่เกี่ยวข้องออกสำรวจความเสียหายเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือชาวบ้านในเบื้องต้นแล้ว.