ที่เกิดเหตุพบศพชายทราบชื่อภายหลังคือ นายเทพวรรณ สายสมร หรือหน่อย อายุ 53 ปี ชาวบ้านสามัคคี ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย สภาพศพนอนหงายอยู่กลางถนน มีเลือดไหลออกที่ปากและจมูกเป็นจำนวนมาก ใกล้กันพบหมวก และรถจักรยานสีแดงจอดตั้งขาตั้งอยู่

จากการชันสูตรพลิกศพ พบว่ามีรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนบริเวณลำตัว 3 รอย ที่ไหล่ซ้าย 1 รอย และแขนซ้ายอีก 1 รอย แต่ไม่พบปลอกกระสุน พบเพียงหัวกระสุนในกระเป๋าสะพายของผู้ตาย ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นหัวกระสุนที่ยิงในครั้งนี้หรือไม่

นายฉวี หินกาล ที่บ้านอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ บอกว่า ตนซักผ้าอยู่หลังบ้าน ได้ยินเสียงดังติดต่อกัน 3 – 4 ครั้งตนไม่แน่ใจเพราะไม่ได้สนใจ แต่คิดว่าเป็นเสียงเด็กเล่นประทัด จนกระทั่งมีคนตะโกนว่ามีคนถูกยิง ซึ่งตนก็ไม่เห็นคนยิง ได้ยินแต่เสียงเท่านั้น คนที่ตายก็เป็นคนในชุมชนเดียวกัน แต่ตนก็ไม่ได้สนใจ ต่างคนต่างทำมาหากินไม่ได้ไปสุงสิงพูดคุยกัน

ทางด้านนางนิรชาน นาคเสน อดีตประธานชุมชนสามัคคี บอกว่า ผู้ตายเป็นผู้ป่วยจิตเวช ญาติพาไปรักษาตัวหลายครั้ง พอไปรักษาก็ทำตัวดีจนได้กลับบ้าน เมื่อกลับมาก็มีอาการคลุ้มคลั่งเหมือนเดิม ช่วงที่อาการกำเริบก็จะเอะอะโวยวาย ด่าคนไปทั่ว โดยเฉพาะญาติพี่น้องจนหลายคนเอือมระอา

เช่นเดียวกับชาวบ้านในชุมชนสามัคคี บอกว่า นาน ๆ ผู้ตายจะออกมาอาละวาด โดยเฉพาะวันพระ ซึ่งส่วนใหญ่ก็อาละวาดในบ้านของผู้ตายเองไม่ได้ออกมาอาละวาดนอกบ้าน ส่วนที่คนตายพกมีดไว้กับตัวถึง 2 ด้ามนั้น ตนก็เคยเห็นถือออกมาโชว์อยู่ แต่ไม่เคยเห็นใช้ทำร้ายใคร ชาวบ้านชินกับพฤติกรรมแล้ว

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (17 ต.ค. 68) ที่ห้องประชุมกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พล.ต.ต.อัทธชนม์ ช่วงงาม ผบก.ภ.จว.หนองคาย , พ.ต.อ.จิรวิทย์ ปานยิ้ม ผกก.สภ.เมืองหนองคาย ได้ทำการสอบถามผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ คือนายอภิชาติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นหลานของผู้ตาย และนายวินัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี หลานเขยของผู้ตาย ทั้งสองคนเป็นชาวบ้านสามัคคี ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ร่วมกันสืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมตัวนายอภิชาติ ได้ที่ใกล้ ๆ บ้าน และติดตามจับกุมตัวนายวินัย ได้ที่ใกล้ ๆ บึงหนองคาย ต.วัดธาตุ อ.เมืองหนองคาย เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. พร้อมอาวุธมีดดายหญ้าที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนอาวุธปืนที่เป็นปืนไทยประดิษฐ์นั้นยังงมไม่พบ ซึ่งผู้ต้องหาบอกว่าได้ทิ้งลงไม่น้ำโขงใกล้กระชังปลาในเขตตำบลหาดคำ อ.เมืองหนองคาย

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ผู้ต้องหาทั้งสองคนตัดสินใจลงมือก่อเหตุครั้งนี้ เนื่องจากผู้ตายมักจะเอะอะโวยวาย รวมทั้งบางครั้งทำลายข้าวของและทำร้ายญาติพี่น้อง จึงได้เกิดความเก็บกดสะสมเรื่อยมา จนประทั่งเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ขณะที่นายอภิชาติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นหลานของผู้ตาย ไปขายของอยู่ที่ตลาด ลูกสาวที่อยู่ที่บ้านใกล้กันกับบ้านที่ผู้ตายอาศัยอยู่ได้โทรมาบอกว่าผู้ตายได้ใช้มีดมาทุบห้องขู่จะทำร้ายลูกสาวที่อยู่ในห้องคนเดียว หลังกลับมาสอบถามผู้ตายยังท้าทายให้ตามมา และขู่จะไปดักทำร้ายภรรยาของผู้ก่อเหตุ (หลาน) และยังได้ไปทะเลาะท้าทายกับนายวินัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี หลานเขยของผู้ตายที่กำลังดายหญ้าอยู่หลังบ้าน ก่อนจะปั่นรถจักรยานออกจากบ้าน ผู้ก่อเหตุจึงได้ขับรถจักรยานยนต์ตามออกมา พบผู้ตายจอดรถอยู่ที่เกิดเหตุ แล้วทะเลาะท้าทายอีกรอบ หลายเขยที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากลับหลานจึงได้ลงไปใช้มีดายหญ้าฟัน ก่อนหลานชายจะยิงซ้ำ แล้วพากันหลบหนีไป จนถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมไว้ได้

สอบถามญาติของผู้ก่อเหตุ บอกว่า ผู้ตายจะชอบระรานและข่มเหงญาติพี่น้อง โดยเฉพาะคนแก่และเด็ก แม่ที่ตาบอดป่วยติดเตียงผู้ตายยังเอาผ้าพันมือแล้วชกทำร้าย วันนี้ก็เกิดเหตุการณ์นี้กับแม่ของผู้ตายอีก และยังมีการท้าทายญาติพี่น้องอีก แต่ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ฟังญาติพี่น้องเล่าให้ฟังอีกที

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดและปืนในที่สาธารณะ พร้อมส่งตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.