อุทาหรณ์ เด็กชายวัย 10 ปี ชาว ต.เซิม อ.โพนพิสัย จุดประทัดเล่น พลาดระเบิดใส่มือเจ็บหนัก ด้าน นายกสมาคมหนองคายการกุศล หรือกู้ภัยประจักษ์ ประชาสัมพันธ์เตือนผู้ปกครองอย่าให้เด็กเล่นประทัดเพราะเสี่ยงอันตรายอาจพิการหรือเสียชีวิตได้

อุทาหรณ์ เด็กชายวัย 10 ปี ชาว ต.เซิม อ.โพนพิสัย จุดประทัดเล่น พลาดระเบิดใส่มือเจ็บหนัก ด้าน นายกสมาคมหนองคายการกุศล หรือกู้ภัยประจักษ์ ประชาสัมพันธ์เตือนผู้ปกครองอย่าให้เด็กเล่นประทัดเพราะเสี่ยงอันตรายอาจพิการหรือเสียชีวิตได้

นายชาญวิทย์ ปุณญานันท์ นายกสมาคมหนองคายการกุศล หรือกู้ภัยประจักษ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 4 ต.ค. 2568 หน่วยกู้ภัยประจักษ์จุดอำเภอโพนพิสัย และ หน่วยกู้ชีพองค์การบริหารส่วนตำบลเซิม ได้รับแจ้งเหตุเด็กถูกประทัดระเบิดใส่มือ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นเด็กชายวัย 10 ปี นั่งอยู่ในอาการเจ็บปวด สภาพมือข้างขวาถูกแรงระเบิด เป็นแผลลึก หน้าผากแตก มีเลือดไหลจำนวนมาก ทราบชื่อเด็กชายเอ นามสมมุติ (ด.ช.สิทธิพงษ์ คงมั่น อายุ 10 ปี)  เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลโพนพิสัยเพื่อรักษาต่อ

จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า เห็นเด็กที่ได้รับบาดเจ็บนำประทัดออกมาจุดเล่น โดยได้ร้องเตือนหลายครั้งให้ระวังมันระเบิดใส่มือ แต่จังหวะนั้นประทัดเกิดระเบิดขึ้นในมือโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

 

นายชาญวิทย์ ปุณญานันท์ นายกสมาคมหนองคายการกุศล หรือกู้ภัยประจักษ์ ได้ฝากประชาสัมพันธ์ว่า ในช่วงนี้เป็นเทศกาลออกพรรษา ซึ่งเด็กๆมักนิยมนำประทัดมาจุดเล่น และเป็นช่วงปิดเทอม ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดไม่ให้เล่นประทัด จุดพลุ ดินปืน เพราะเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงอันตรายแก่ตัวเด็กเองและผู้อื่น ซึ่งการเล่นประทัดไม่ระวังนอกจากจะทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายแล้ว ผู้ที่เล่นประทัดเองก็ได้รับอันตรายจากสารเคมีหลายชนิด และอาจได้รับบาดเจ็บจนถึงขั้นสูญเสียอวัยวะ รวมถึงอาจก่อให้เกิดอัคคีภัยด้วย

โดยความร้อนของประทัดสามารถทำให้ผิวหนังไหม้ได้ หากมีการสัมผัสหรือสูดดมเอาสารเคมีที่อยู่ในรูปของเหลว ผง ไอระเหย และควันพิษ เข้าสู่ร่างกาย อาทิ สารโปแตสเซียมเปอร์คลอเรต สารซัลเฟอร์หรือกำมะถัน สารโปตัสเซียมไนเตรต สารแบเรียมไนเตรต เข้าสู่ร่างกาย   จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง หู ตา จมูก ระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะสารแบเรียมไนเตรต มีพิษมากอาจทำลายตับ ม้าม และยังทำให้เกิดอัมพาตที่แขน ขา และบางรายเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ความดังของเสียงประทัดก่อให้เกิดระดับเสียงกระแทกสูงกว่า 130 เดซิเบล เอ มีผลทำให้เกิดอาการหูตึงชั่วคราว แต่หากได้ยินติดต่อกันเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดอาการหูตึงถาวร

หากเกิดเหตุฉุกเฉินให้รีบโทรแจ้งสายด่วน 1669 (หน่วยฉุกเฉินทางการแพทย์) ซึ่งจะมีทีมแพทย์ฉุกเฉิน และทีมกู้ชีพคอยให้ความช่วยเหลือและให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมงนายชาญวิทย์ ปุณญานันท์ นายกสมาคมหนองคายการกุศล หรือกู้ภัยประจักษ์ กล่าว.

 

กลับ กลับหน้าหลัก



ติดต่อเรา

Copyright © 2016 nongkhainewsonline : ข่าวออนไลน์หนองคาย