การจับกุมในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้กำหนดนโยบายป้องกันปราบปรามยาเสพติดและมีการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้นโยบาย "Seal Stop Safe"และตำรวจภูธรจังหวัดหนองคายได้ตระหนักและถือปฏิบัติตามแนวนโยบายดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ โดยจัดชุดปฏิบัติการออกเอกซเรย์พื้นที่ สืบสวนหาข่าวตามมาตรการโดยต่อเนื่อง เพื่อสกัดกั้น ควบคุม การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ รวมทั้งตัดตอนการแพร่ระบาดไปยัง พื้นที่ภายนอกอื่น ๆ นั้น

จากการสืบสวนหาข่าว ของชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามยาเสพติดของ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย โดยการนำและ สั่งการของ พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ บุญเสริม ผกก.สืบสวน ภ.จว.หนองคาย , พ.ต.ท.พชร กฤษณะกาฬ รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.หนองคาย ซึ่งทราบจากสายข่าว ว่า มีผู้ค้ายาเสพติด ชาว สปป.ลาว มักจะลักลอบนำยาเสพติด มาส่งมอบแก่ผู้ค้ายาเสพติดชาวไทย(นักบิน) และผู้ค้าชาวไทยจะนำยาเสพติดดังกล่าว กระจายออกจำหน่ายวางตามจุดต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่อำเภอเมืองหนองคายและพื้นที่ใกล้เคียงนั้น ชุดปฏิบัติการของ กก.สืบสวน ภ.จว.หนองคาย ได้ทำการติดตามพฤติการณ์ดังกล่าวและสืบสวนหาข่าว จนแน่ชัดว่า จะมีนักบินชาวไทยนำยาเสพติดมาส่งในพื้นที่ พิกัดบ้านดอนชูด ต.วัดธาตุ อ.เมืองหนองคาย ดังนั้น ในวันที่ 3 มิ.ย.2566 ในเวลา 09.00 น. จึงได้วางกำลัง ชุดปฏิบัติการฯ ตามเส้นทางถนนบ้านดอนชูดถึงบ้างเชียงอาด ต.วัดธาตุ อ.เมืองหนองคาย กระทั่งเวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ ๆ ได้สังเกตเห็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กน 3547 อุดรธานี ขับขี่มาบนถนนดังกล่าว ๆ ลักษณะท่าที่มีพิรุธ จึงได้แสดงตัวให้สัญญาณหยุดรถ เพื่อขอทำการตรวจสอบ เมื่อผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พยายามขับขี่รถยนต์หลบหนี และไถลชนต้นไม้ ส่งผลให้รถยนต์เสียหลักลงบริเวณข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าทำการควบคุมตัว ชาย 2 คน จากการตรวจสอบทราบว่า 1 ใน 2 คนนั้น คือนายทนงศักดิ์ แก้วเชียงหวาง หรือฉายา "แรมนาพู่" ซึ่งเป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีและหนองคาย รวมทั้งเป็นผู้ต้องหาหลบหนีตามหมายจับของศาลจังหวัดในข้อหา จำหน่ายยาเสพติดและศาลจังหวัดอุดรธานี ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ซึ่งตำรวจหลายหน่วยต้องการตัว และพบยาบ้าบรรจุในกระเป๋าเดินทาง จำนวน 60,000 เม็ด วางอยู่ในบริเวณเบาะหลังในรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมอาวุธปืนพกสั้นจำนวน 2 กระบอก จึงทำการซักถามขยาผล จนทราบว่า นายทนงศักดิ์ ได้ทำการเก็บยาบ้าอีกจำนวนหนึ่งไว้ในบ้านเช่าของตนใกล้ตลาดแจ้งสว่าง ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่จึงได้ เข้าตรวจสอบ พบยาบ้าในห้องเช่าดังกล่าว จำนวน 226,000 เม็ด สารเสพติด HAPPY WATER ชนิดผงจำนวน 25 ซอง จึงได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด มูลค่ารวม 1,050,000 บาท พร้อมแจ้งข้อหา 'ร่วมกัน จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า และแฮปปี้วอเตอร์) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจ่ายในกลุ่มประชาชน เป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และเป็นการกระทำโดยมีอาวุธปืน , เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต มีและพกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน , พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในทางหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร" และนำส่ง พงส.สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป.