ฝ่ายปกครองอำเภอท่าบ่อ ลงพื้นที่โรงเรียนบ้านอุ่มเย็น ต.น้ำโมง เพื่อตรวจสอบกรณีครูสาวโพสต์ “มาบรรจุที่โรงเรียนบ้านอุ่มเย็นพบเป็นโรงเรียนร้างมีนักเรียนทั้งโรงเรียน 4 คน” โดยจากการตรวจสอบพบว่าโรงเรียนบ้านอุ่มเย็นได้ควบรวมกับโรงเรียนบ้านทุ่มฝางได้ 17 ปี แล้วไม่มีการเรียนการสอนแต่อย่างใด ด้านผู้ใหญ่บ้าน บ้านอุ่มเย็นเตือนสติผู้โพสต์ก่อนโพสต์ยิ่งเป็นครู ต้องสอบถามข้อมูลให้ถูกต้องเพราะจะทำให้ผู้คนเข้าใจผิดได้ และเป็นสิ่งที่ไม่ควร

ฝ่ายปกครองอำเภอท่าบ่อ ลงพื้นที่โรงเรียนบ้านอุ่มเย็น ต.น้ำโมง เพื่อตรวจสอบกรณีครูสาวโพสต์ “มาบรรจุที่โรงเรียนบ้านอุ่มเย็นพบเป็นโรงเรียนร้างมีนักเรียนทั้งโรงเรียน 4 คน” โดยจากการตรวจสอบพบว่าโรงเรียนบ้านอุ่มเย็นได้ควบรวมกับโรงเรียนบ้านทุ่มฝางได้ 17 ปี แล้วไม่มีการเรียนการสอนแต่อย่างใด ด้านผู้ใหญ่บ้าน บ้านอุ่มเย็นเตือนสติผู้โพสต์ก่อนโพสต์ยิ่งเป็นครู ต้องสอบถามข้อมูลให้ถูกต้องเพราะจะทำให้ผู้คนเข้าใจผิดได้ และเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

สืบเนื่องจากมีผู้ใช้บัญชีสมาชิก TikTok@jrrsrichot ซึ่งเป็นครูบรรจุใหม่ โพสต์ภาพรงเรียนบ้านอุ่มเย็น อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยมีรายละเอียดว่า ที่ต้องมาสอนหนังสือ อึ้งมากสภาพเป็นโรงเรียนร้าง แถมมีนักเรียนแค่ 4 คน โดยครูเล่าว่า “ตอนแรกตกใจมาก!! เมื่อเห็นโรงเรียนที่ตัวเองต้องได้มาบรรจุ มาจากต่างจังหวัดหาทางเข้าโรงเรียนกว่าจะเจอ มาวันเสาร์คิดว่ามันปกติ เพราะคงไม่มีใครอยู่ แต่พอเข้ามาดูตัวอาคารคือไม่ปกติแล้ว” ภายหลังจากที่โพสต์ลงในติ๊กต๊อกพบว่ามีการแชร์ออกไปเป็นจำนวนมากสร้างความสับสนให้กับประชาชนในพื้นที่เนื่องจากโรงเรียนบ้านอุ่มเย็น ได้ยุบโรงเรียนไปควบรวมกับโรงเรียนบ้านทุ่มฝางได้เกือบ 17 ปี แล้ว

ต่อกรณีดังกล่าววันนี้ (10 มี.ค. 68) นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอท่าบ่อ นายนิเวศ ทองจรัส ปลัดอำเภอท่าบ่อ นางวัจนา ใจขาน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านอุ่มเย็น ได้ร่วมกันลงพื้นที่โรงเรียนบ้านอุ่มเย็น ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง

 

โดยจากการลงพื้นที่พบว่าโรงเรียนบ้านอุ่มเย็น เหลือสภาพโรงเรียนเพียงตัวอาคาร 2 ชั้น สภาพอาคารมีความชำรุดเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีการเรียนการสอนมานานแล้ว

นางวัจนา ใจขาน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านอุ่มเย็น กล่าวว่าโรงเรียนบ้านอุ่มเย็นไม่ได้ทำการเรียนการสอนมา 17 ปี แล้ว โดยนักเรียนในหมู่บ้านอุ่มเย็นไปเรียนที่โรงเรียนบ้านทุ่มฝางที่ห่างออกไปประมาณ 1-2 กิโลเมตร ตนแปลกใจเมื่อเห็นครูคนดังกล่าวโพสต์ลงติ๊กต๊อกว่าทำไมถึงโพสต์แบบนี้ โดยครูคนดังกล่าวยังไม่ได้มาพบกับผู้นำชุมชนในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านได้แต่แปลกใจ โดยก่อนที่จะไปควบรวมมีนักเรียนประมาณร้อยบกว่ากัน

“ตนอยากฝากครูที่โพสต์ก่อนที่จะโพสต์ทำไมไม่มาสอบถามผู้นำชุมชนในพื้นที่ก่อนเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง เมื่อโพสต์แบบนี้ทำให้ผู้คนเข้าใจผิดได้” นางวัจนา ใจขาน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านอุ่มเย็น กล่าว

นายนิเวศ ทองจรัส ปลัดอำเภอท่าบ่อ กล่าวว่า ทางอำเภอท่าบ่อโดย นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอท่าบ่อ ได้ลงพื้นที่มาเพื่อตรวจสอบข้อมูลหลายรอบแล้วตั้งแต่มีการโพสต์เรื่องนี้ และทราบว่าโรงเรียนบ้านอุ่มเย็นได้ยุบไปควบรวมกับโรงเรียนทุ่มฝางได้หลายสิบปีแล้ว การโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทางต้องระวังเพราะจะทำให้คนเข้าใจผิดหรือรับข้อมูลที่คลาดเคลื่อนได้ โดยทางอำเภอท่าบ่อ ได้ให้ผู้นำชุมชนในพื้นที่ชี้แจงกับชาวบ้านจนเป็นที่เข้าใจแล้ว

นางรจนา บุตรเทศ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 5 บ้านอุ่มเย็น และเป็น อสม. (บ้านอยู่ติดโรงเรียน) กล่าวว่า โรงเรียนบ้านอุ่มเย็นไม่มีการเรียนการสอนมาหลายสิบปีแล้ว และได้ไปควบรวมกับโรงเรียนบ้านทุ่มฝาง ส่วนครูที่โพสต์ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงโพสต์ลงแบบนั้น หากไม่ทราบก็มาถามชาวบ้านหรือผู้นำชุมชนได้ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องป้องกันการเข้าใจผิด

 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อครูสาวคนดังกล่าวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และจากการตรวจสอบบัญชีติ๊กต๊อคของครูคนดังกล่าวพบว่าได้ลบคลิปดังกล่าวออกแล้ว โดยทางสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาหนองคาย เขต 1 ได้ตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้แล้ว.

 

กลับ กลับหน้าหลัก



ติดต่อเรา

Copyright © 2016 nongkhainewsonline : ข่าวออนไลน์หนองคาย