“ยุทธนา ศรีตะบุตร” ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.หนองคาย หมายเลข 1 หัวหน้า “กลุ่มรักหนองคาย” ลงพื้นที่หาเสียงต่อเนื่อง มั่นใจชาวบ้านเข้าใจการเมืองท้องถิ่นแยกออกจากการเมืองระดับชาติโดยเด็ดขาด หากได้รับความไว้วางใจอีกครั้ง ก็จะเดินหน้าสานต่อนโยบายที่ได้ดำเนินการไว้ทันที
“ยุทธนา ศรีตะบุตร” ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.หนองคาย หมายเลข 1 หัวหน้า “กลุ่มรักหนองคาย” ลงพื้นที่หาเสียงต่อเนื่อง มั่นใจชาวบ้านเข้าใจการเมืองท้องถิ่นแยกออกจากการเมืองระดับชาติโดยเด็ดขาด หากได้รับความไว้วางใจอีกครั้ง ก็จะเดินหน้าสานต่อนโยบายที่ได้ดำเนินการไว้ทันที
นายยุทธนา ศรีตะบุตร ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.หนองคาย หัวหน้า “กลุ่มรักหนองคาย” บอกว่า กลุ่มตนเป็นกลุ่มการเมืองท้องถิ่น ที่เราเรียกว่า “กลุ่มรักหนองคาย” ที่เกิดจากการรวมตัวคนหนองคายที่ไม่ได้เกี่ยวพันกับพรรคการเมือง มีการรณรงค์หาเสียงมา 20 กว่าปีที่ใช้ “กลุ่มรักหนองคาย” เพราะมันเป็นการเมืองท้องถิ่น อย่างที่ตนเคยพูดเสมอว่าการเมืองท้องถิ่นเป็นการนับญาติ เป็นการเยี่ยมญาติแล้วก็ไปขอความเมตตาจากญาติพี่น้องในพื้นที่จังหวัดหนองคายเมื่อมีการเลือกตั้ง ซึ่งในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา ได้มีการชูความเป็นท้องถิ่นนิยมและมีความใกล้ชิดต่อพี่น้องประชาชน ทำให้ได้รับการรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี เนื่องจากประชาชนในจังหวัดหนองคายได้มีความเข้าใจมาหลายสมัยแล้วว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นจะแยกออกจากระดับชาติโดยเด็ดขาด มีความเข้าใจตรงกันว่าระดับชาติ จะไปว่ากันในเรื่องของนโยบายแห่งรัฐเรื่องนโยบายระดับชาติ ส่วนท้องถิ่นจะต้องทราบถึงความต้องการท้องถิ่น ซึ่งจังหวัดหนองคาย จังหวัดอุดรฯ หรือจังหวัดขอนแก่น จะมีความแตกต่างกัน เช่นหนองคายภูมิศาสตร์ติดกับแม่น้ำโขงพื้นฐานมีประเพณีศิลปวัฒนธรรม การค้าการขายติดชายแดนก็จะมีรูปแบบที่มีความแตกต่างจากจังหวัดอื่น ผู้บริหารท้องถิ่นต้องเข้าใจท้องถิ่นตรงนี้ เราถึงเรียกว่า “กลุ่มรักหนองคาย” และได้ดำเนินนโยบายเฉพาะถิ่นหนองคาย ที่ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคการเมืองระดับชาติ
นายยุทธนา กล่าวต่อไปอีกว่า ใครที่นำพรรคการเมืองมาหาเสียงนั้น ถามว่าใช้ได้หรือไม่นั้น จากประสบการณ์ทั้งหมดคือ ใช้ได้แต่ไม่ได้ทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่นความนิยมที่มีต่อพรรคการเมือง 28% ก็จะได้ประมาณครึ่งหนึ่ง คือ 14% ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 250,000 คน ก็จะได้จัดตั้งประมาณ 30,000 คะแนน แต่ว่าผู้ที่จะชนะเลือกตั้งต้องได้ประมาณ 110,000 คะแนน ฉะนั้นตัวผู้สมัครก็ต้องไปหาคะแนนเพิ่มอีกประมาณ 80,000 คะแนน นี่คือรูปลักษณ์การเลือกตั้งของจังหวัดหนองคายที่ผ่านมาทุกครั้งของการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่ง “กลุ่มรักหนองคาย” ที่เราชนะการเลือกตั้งมาทั้งหมด 4 ครั้งเป็นเวลากว่า 20 ปี เราก็ใช้วิธีการเช่นนี้คือจะต้องยึดถิ่น นโยบายตรงต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนเราถึงเรียกกลุ่มเราว่า “กลุ่มรักหนองคาย”
ในส่วนที่ “กลุ่มรักหนองคาย” ไม่ยึดติดกับพรรคการเมืองระดับชาติจะทำให้เสียเปรียบคู่แข่งที่ยึดติดกับพรรคการเมืองระดับชาติหรือไม่นั้น หัวหน้า “กลุ่มรักหนองคาย” บอกว่า ไม่เสียเปรียบ ซึ่งจากการที่ตนเป็นนายก อบจ.มานาน ตนรู้จักพรรคการเมืองหลายพรรค และมีความคุ้นเคยกับผู้ใหญ่ในพรรค ซึ่งผู้ใหญ่เป็นผู้บริหารระดับชาติที่เป็นรัฐมนตรีเกินครึ่ง ครม. ที่ตนรู้จัก เหตุที่รู้จักเกิดจากเวลามาหนองคายตนก็ได้มีการไปดูแล อย่างกรณี พล.อ.ประวิตร ที่มาจังหวัดหนองคายบ่อย เช่นช่วงที่น้ำท่วม ก็เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่มาหนองคาย ที่มาเยี่ยมชาวจังหวัดหนองคาย และมาทำกิจกรรมพรรคในพื้นที่จังหวัดหนองคาย จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าตนได้ไปต้อนรับและได้รู้จักเป็นการส่วนตัว รวมไปถึงอีกหลายพรรคการเมืองที่ตนคุ้นเคย นี่คือสิ่งที่ “กลุ่มรักหนองคาย” ที่ได้ยึดมั่นมาว่าคำว่าท้องถิ่นเราจะยึดมั่นเฉพาะเรื่องถิ่น ไม่เช่นนั้นแล้วนโยบายมันจะไม่ชัดเจน ดูได้จากนโยบายของ “กลุ่มหนองคาย” ชัดเจนที่สุด ตรงต่อความประสงค์ตั้งแต่เรื่องอาชีพ เรื่องการศึกษา เรื่องประเพณี เรื่องการยึดโยงการพัฒนาของรัฐบาล เช่นรถไฟความเร็วสูงมา เราก็จะผลิตสินค้า เอาสินค้าจากประชาชนไปขายนักท่องเที่ยว หรือแม้แต่กระทั่งประเพณีอย่างที่เห็น เช่นบุญประเพณีแข่งเรือ บุญบั้งไฟ เช่นนี้ที่ท้องถิ่นจะต้องยึดโยง
นายยุทธนา กล่าวต่อไปอีกว่า สิ่งที่ท้องถิ่นสมัยใหม่ต้องทำ คือการไปสู่นานาชาติ อย่างกรณีที่ตนนำโดรนมาแสดงในงาน 30 ปีของครบรอบสะพานไทย-ลาว จังหวัดหนองคาย เป็นการบินโดรน ที่นำพญานาคที่เป็นความเชื่อของคนหนองคายมาผูกร้อยประวัติแล้วก็ไปแสดงโดยโดรนขึ้นท้องฟ้าให้ประชาชนได้ชม ซึ่งเห็นได้ว่าท้องถิ่นเราก็สามารถโกอินเตอร์ได้ในการเรื่องของเทคโนโลยี
ในส่วนที่คู่แข่งจะมีตัวแทนพรรค (ทักษิน) มาช่วยหาเสียงนั้น นายยุทธนา บอกว่า อย่างที่ตนเรียนแล้วว่า คนหนองคายมีความเข้าใจการเลือกตั้งท้องถิ่นมาเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ว่าเลือกตั้งท้องถิ่น เขาจะนับญาติ เยี่ยมญาติ รวมญาติ การเมืองระดับชาติก็ว่ากันไปยกตัวอย่างเช่นมีนโยบายจะทำคาสิโน หรือจะไปทำอะไรก็เป็นเรื่องระดับชาติ แต่ท้องถิ่นไม่ใช่ ดูง่าย ๆ อย่างช่วงที่เกิดโควิด-19 ระบาด ตนก็ไม่เห็นว่ามีหัวหน้าพรรคการเมืองมาเดินแจกแมส แจกเจลให้กับพี่น้องประชาชน ตอนน้ำท่วมหัวหน้าพรรคการเมืองก็มี พล.อ.ประวิตร มาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้ว่าพรรคการเมืองระดับชาติไม่ดี แต่เป็นการแยกหน้าที่ในการบริหาร รัฐบาลก็บริหารระดับชาติไป ส่วนพวกตนจะดูเรื่องการเจ็บป่วย ประเพณีศิลปวัฒนธรรม ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างเฉียบพลัน ซึ่งเป็นเรื่องของท้องถิ่น
สำหรับนโยบายในการหาเสียงหากได้รับการไว้วางใจอีกครั้งสามารถดำเนินนโยบายได้ทันทีนั้น นายยุทธนา บอกว่า มีหลายนโยบายเช่น เรื่องของผู้สูงอายุซึ่งจะเป็นสังคมผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่บ้านติดเตียง ก็จะเอาเครื่องมือแพทย์เข้ามาช่วย เช่นวอล์คเกอร์ วีลแชร์ หรือเตียงลม สิ่งเหล่านี้จะเข้ามามาช่วยดูแลคนกลุ่มนี้ หรือแม้แต่การดูแล 1669 เป็นเรื่องเร่งด่วนมากเพราะว่า 1 นาทีมีค่าสำหรับชีวิตคนเวลามี 1669 แล้วก็สามารถที่จะมาช่วยคนไปที่โรงพยาบาลได้อย่างทันท่วงที หรือแม้แต่ที่ตนเรียนข้างต้นเรื่องรถไฟความเร็วสูงมาถึงหนองคาย ตนก็จะเชื่อมต่อได้เลยเพราะตนได้มีกลุ่มอาชีพทั่วทั้งจังหวัดหนองคายกว่า 400 กลุ่มและพัฒนาไปเรื่อย ๆ แล้วก็สร้างสินค้าตามมา แล้วก็รับสินค้าจากประชาชน โดย อบจ.จะทำศูนย์จำหน่ายสินค้าใหญ่ที่สุด แล้วก็จัดรถรางไปรับนักท่องเที่ยวที่ลงรถไฟความเร็วสูงให้มาซื้อสินค้าจากบ้านเราไปฝากญาติพี่น้องเขา ประชาชนก็จะได้ผลิตสินค้า จะได้ขายสินค้าอย่างเต็มกำลัง หรือแม้แต่ในเรื่องของที่เราจะเชื่อมต่อเรื่องการศึกษา ประเพณีศิลปวัฒนธรรม ก็สามารถปฏิบัติได้เลย เพราะนโยบายที่ตนได้เรียนต่อประชาชนชาวจังหวัดหนองคาย สามารถปฏิบัติได้เลยโดยไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ เพราะตนได้เป็นนายก อบจ.หนองคาย มานานได้มีความเข้าใจในข้อนี้แล้ว และจะได้ยึดต่อนโยบาย ทำต่อได้เลย
ท้ายสุด นายยุทธนา ศรีตะบุตร ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.หนองคาย หัวหน้า “กลุ่มรักหนองคาย” ได้ฝากถึงประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวจังหวัดหนองคายว่า “กลุ่มรักหนองคาย” ได้ใช้สโลแกนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ที่ทำมาเรามีผลงานเป็นที่ประจักษ์ให้เห็นแล้ว แล้วเราก็จะทำต่อ 3 ด้านก็คือการสร้างโอกาสเรื่องรถไฟความเร็วสูงเขตเศรษฐกิจพิเศษ สร้างโอกาสในทุก ๆ ด้านแก่พี่น้องประชาชน เพื่อพี่น้องประชาชนได้รับโอกาสจากการเมืองท้องถิ่นอย่างแท้จริง “กลุ่มรักหนองคาย” ก็จะเชื่อมนโยบายที่ประกาศไว้ ก่อให้เกิดความเป็นจริง เพื่อเป้าหมายสูงสุดนั่นคือการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับคนจังหวัดหนองคายต่อไป.