จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนกลับมายังด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย โดย พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคายได้ทำการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองคน

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่รับมอบในครั้งนี้คือนายอภิวัฒน์ หรือเหน่ง ตันเจริญ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 98 ถนนเจษฎาวิถี ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็นว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธ และกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำ หรือได้กระทำตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำ หรือได้กระทำตามหน้าที่ ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับคดีนี้คือเมื่อ วันที่ 22 ตุลาคม 2567 เวลาประมาณ 22.35 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สายไหม ได้เข้าจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดในพื้นที่ และ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 คน ส่วนนายอภิวัฒน์ หรือเหน่ง ตันเจริญ ได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเปิดทางหลบหนีและสามารถหลบหนีออกจากที่เกิดไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่ง ศาลอาญามีนบุรี ได้ออกหมายจับ นายอภิวัฒน์ฯ หรือเหน่ง และเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่าได้หลบหนีข้ามไปยังประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จึงได้ประสานขอความร่วมมือในการจับกุมไปยังกองบัญชาการป้องกันความสงบนครหลวงเวียงจันทน์ เป็นที่มาของยุทธการไล่ล่าแก๊งค้ายาข้ามประเทศ

อีกคนคือนายสัตจะยา หรือโบ๊ท เพ็งนวล อายุ ปี อยู่บ้านเลขที่ 361/6 หมู่ 6 ตำบลลำนารายณ์ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี โดยกล่าวหาว่า สนับสนุนหรือช่วยเหลือ ผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป และร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเตามีน) ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2566

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2566 เวลาประมาณ 12.00 น. สภ.ชัยบาลดาล จังหวัดลพบุรี ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 184,800 เม็ด และยาบ้าเปียกน้ำ น้ำหนักรวม 3,958 กรัม อาวุธปืนพกสั้น .38 ยี่ห้อ Glock 1 กระบอก ไม่มีเครื่องหมายทะเบียน พร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 47 นัด จากนั้นเจ้าหน้าที่ บก.ปปส.ภ.ด ร่วมสอบสวนขยายผลเพื่อขออนุมัติจับกุมบุคคลผู้สั่งการและร่วมกระทำความผิดในคดีนี้ คือ นายสัตจะยา หรือโบ๊ทเพ็งนวล ซึ่งต่อมาทราบว่าได้หลบหนีไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พลตำรวจตรี พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย จึงได้ประสานขอความร่วมมือไปยังกองบัญชาการป้องกันความสงบนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหานำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายประเทศไทย

ต่อมาทางสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 2 รายได้แล้ว จึงได้นำตัวมาส่งมอบให้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

นายอภิวัฒน์ หรือเหน่ง ตันเจริญ หนึ่งในผู้ต้องหา ได้กล่าวขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตนยิงเพื่อเปิดทางหลบหนี ว่าไม่ได้ตั้งใจ ไม่มีเจตนาที่จะยิง เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบและสถานการณ์บังคับ

หลังจากดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่จังหวัดหนองคายแล้ว ก็จะได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้กับ สภ.พื้นที่ที่เกิดเหตุเพื่อนำไปดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป