กกล.สุรศักดิ์มนตรี โดยกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) ตรวจยึดยาบ้า 788,000 เม็ด ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่บ้านแดนเมือง หมู่ 3 ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ก่อนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน สารภาพมากับเพื่อนรุ่นพี่ที่รู้จักกันรวม 5 คน เพื่อรับยาที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ขนขึ้นรถที่หลบหนีพร้อมรุ่นพี่ไปแล้วประมาณ 3 กระสอบคาดเป็นยาบ้าประมาณ 1.2 ล้าน เจ้าหน้าที่เร่งขยายผลติดตาม

กกล.สุรศักดิ์มนตรี โดยกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) ตรวจยึดยาบ้า 788,000 เม็ด ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่บ้านแดนเมือง หมู่ 3 ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ก่อนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน สารภาพมากับเพื่อนรุ่นพี่ที่รู้จักกันรวม 5 คน เพื่อรับยาที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ขนขึ้นรถที่หลบหนีพร้อมรุ่นพี่ไปแล้วประมาณ 3 กระสอบคาดเป็นยาบ้าประมาณ 1.2 ล้าน เจ้าหน้าที่เร่งขยายผลติดตาม

เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. วันนี้ (7 ม.ค. 68) ที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 บ้านวัดหลวง ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย พล.ต.สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี , .อ.อินทราวุธ ทองคำ ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ,พ.ต.วิทยา สิงห์อร ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 , นายถาวร สังขะมาน นายอำเภอโพนพิสัย , พ.ต.อ.จามร อันดี รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายเกษมสัณห์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ เบส อายุ 18 ปี ชาว ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พร้อมยาบ้าจำนวนประมาณ 788,000 เม็ด ที่ กกล.สุรศักดิ์มนตรี โดยกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 จังหวัดหนองคาย บรูณาการกับหลายหน่วยงานตรวจยึดและจับกุมได้ ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่บ้านแดนเมือง หมู่ 3 ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เมื่อเวลาประมาณ 04.40 น. ของวันนี้ (7 ม.ค. 68)

 

การจับกุมและตรวจยึดยาเสพติดครั้งนี้ กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) โดยการนำของพันตรี วิทยา สิงห์อร ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 ที่จัดกำลังพลเฝ้าตรวจ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่บ้านแดนเมือง หมู่ 3 ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น. เจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นเรือกีบติดเครื่องยนต์ 1 ลำ แล่นมาจากริมฝั่งแม่น้ำโขงฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมีสิ่งของบรรทุกมาเต็มลำเรือ ก่อนเข้ามาจอดที่ริมฝั่งโขงฝั่งไทย ห่างจากจุดที่เจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่ประมาณ 400 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้เคลื่อนกำลังไปยังจุดดังกล่าว และได้พบชาย 2 คนกำลังหามกระเป๋าและกระสอบอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงหันหน้าจะเดินขึ้นไปบนตลิ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว ชายทั้ง 2 คนได้ทิ้งกระเป๋าและกระสอบที่หามก่อนอาศัยความมืดและพงหญ้าวิ่งหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพื้นที่พบกระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่ 1 ใบและกระสอบปุ๋ย 1 กระสอบ

จากนั้นก็ได้ประสานฝ่ายปกครองอำเภอโพนพิสัย,หน่วยเรือโพนพิสัย ,ตำรวจน้ำหนองคาย, ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 7 ร้อย.ฉก.ตชด.245 ร่วมดำเนินการตรวจสอบ  เมื่อเปิดภายในกระเป๋าเดินทาง พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายใน จึงได้ร่วมกันตรวจยึดนำของกลางกลับมาตรวจสอบอย่างละเอียดที่และทำบันทึกการจับกุม ที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 บ้านวัดหลวง ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย จากการตรวจสอบพบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 788,000 เม็ด

ต่อมาเวลาประมาณ 06.30 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งพบชายต้องสงสัยเดินจากพงหญ้าริมฝั่งแม่น้ำโขงขึ้นมาที่ถนนริมตลิ่งในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ จนกระทั่งเวลาประมาณ 07.30 น. ได้พบชายคนดังกล่าวทราบชื่อภายหลังคือนายเกษมสัณห์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ เบส อายุ 18 ปี ชาว ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี กำลังเดินอยู่ริมถนนสาย 212 หนองคาย บึงกาฬ บริเวณบ้านแดนเมือง ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ห่างจากจุดที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดกระเป๋าประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่จึงเข้าสอบถาม ซึ่งนายเกษมสัณห์ ก็สารภาพว่าเป็น 1 ใน 2 คนที่หามกระเป๋าและกระสอบ ที่มียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวกลับมาที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104

 

จากการสอบถามเบื้องต้นนายเกษมสัณห์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ ทำให้ทราบว่านายเกษมสัณห์ ได้นั่งรถกระบะจากจังหวัดอุดรฯ มากับเพื่อนรุ่นพี่ที่รู้จักกันรวม 5 คน เพื่อรับยาที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง เมื่อมาถึงจุดที่นัดหมายก็ได้ลงไปช่วยกันขนกระเป๋าและกระสอบที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงที่มีทั้งหมดประมาณ 5 กระสอบ โดยรุ่นพี่ได้ขนขึ้นไปแล้วประมาณ 3 กระสอบ ตนกับรุ่นพี่อีกคนกำลังช่วยกันขนที่เหลือที่เป็นกระเป๋า 1 ใบและกระสอบ 1 กระสอบไปขึ้นรถที่จอดอยู่ถนนริมตลิ่ง แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบเสียก่อน จึงได้ทิ้งกระเป๋าและกระสอบหลบหนีไปซ่อนที่พงหญ้า จนกระทั่งสว่าง เมื่อไม่เห็นเจ้าหน้าที่แล้วจึงได้ออกจากที่หลบซ่อนขึ้นมาที่ถนนเพื่อหาทางกลับ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน ส่วนเรื่องค่าจ้างหรือใครเป็นคนว่าจ้าง และจะต้องนำไปส่งที่ไหนนั้นนายเกษมสัณห์ ไม่รู้ มีแต่รุ่นพี่ที่หลบหนีไปได้เท่านั้นที่รู้เรื่องทั้งหมดซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวน สภ.โพนพิสัย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะเร่งติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

 

กลับ กลับหน้าหลัก



ติดต่อเรา

Copyright © 2016 nongkhainewsonline : ข่าวออนไลน์หนองคาย