ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย ร่วมกับ นรข.เขตหนองคาย (สถานีเรือศรีเชียงใหม่) จับกุม 2 หนุ่มไทย แอบนั่งเรือข้ามโขงกลับจากเที่ยว สปป.ลาวเข้าเมืองไทยพื้นที่ ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยไม่ผ่านช่องทางที่กฎหมายกำหนด ตรวจสอบพบมีหมายจับติดตัว เผยพื้นที่ริมแม่น้ำโขงบ้านโพนสา ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ พบมีการลักลอบทำสิ่งผิดกฎหมายบ่อยครั้งโดยเฉพาะการลักลอบนำคนต่างด้าวเข้าประเทศไทย เจ้าหน้าที่จับกุมต่อเนื่องไม่เข็ดหลาบ
ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย ร่วมกับ นรข.เขตหนองคาย (สถานีเรือศรีเชียงใหม่) จับกุม 2 หนุ่มไทย แอบนั่งเรือข้ามโขงกลับจากเที่ยว สปป.ลาวเข้าเมืองไทยพื้นที่ ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยไม่ผ่านช่องทางที่กฎหมายกำหนด ตรวจสอบพบมีหมายจับติดตัว เผยพื้นที่ริมแม่น้ำโขงบ้านโพนสา ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ พบมีการลักลอบทำสิ่งผิดกฎหมายบ่อยครั้งโดยเฉพาะการลักลอบนำคนต่างด้าวเข้าประเทศไทย เจ้าหน้าที่จับกุมต่อเนื่องไม่เข็ดหลาบ
วันนี้ (1 ธ.ค. 67) พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.จว.หนองคาย ,พ.ต.ท.ธียาฌพัตท์ รังสิพราหมณกุล รอง ผกก.ตม.จว.หนองคาย ,พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สว.ตม.จว.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ ตม.หนองคาย ร่วมกันแถลงจับกุม นายพิพรรธ ขอสงวนนามสกุล อายุ 27 ปี และ นายสุรศักดิ์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 28 ปี ทั้งสองคนเป็นชาวไทย
การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2567 เวลา 17.00 น. ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย ร่วมกับ นรข.เขตหนองคาย (สถานีเรือศรีเชียงใหม่) ออกตรวจพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดริมชายฝั่งแม่น้ำโขง ตามนโยบายของรัฐบาลที่กำชับให้เจ้าหน้าที่ร่วมกันป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติดที่ทะลักเข้ามาทางพื้นที่ชายแดน ปัญหาการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ปัญหาค้ามนุษย์ และการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ เพื่อรักษาความสงบให้แก่ประชาชนในพื้นที่
โดยได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจตามแนวชายฝั่งแม่น้ำโขง จนเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบเรือยนต์ต้องสงสัยแล่นจากฝั่ง สปป.ลาว เข้ามาเทียบท่าบริเวณบ้านโพนสา ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่จึงรอให้เรือเทียบท่าก่อนจะแสดงตัวเข้าตรวจสอบ สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นบุคคลสัญชาติไทย ชื่อ 1.นายพิพรรธ ขอสงวนนามสกุล อายุ 27 ปี และนายสุรศักดิ์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 28 ปี จึงได้ทำการควบคุมตัวมาทำการสอบสวน
จากการสอบสวนทราบว่าทั้ง 2 คนเดินทางไปเที่ยวที่ สปป.ลาว ก่อนจะว่าจ้างเรือยนต์ให้มาส่งบริเวณจุดเกิดเหตุ ไม่ได้ข้ามไป สปป.ลาว ตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด เป็นการแอบข้ามไป เมื่อเดินทางกลับมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “เป็นคนไทยไม่เดินทางเข้าหรือออกนอกราชอาณาจักร ผ่านช่องทาง ด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตสถานีหรือท้องที่ ตามที่กฎหมายกำหนด“ และ ”เป็นบุคคลซึ่งเดินทางเข้ามาหรือออกนอกราชอาณาจักร ไม่ยื่นรายการตามแบบที่กฎหมายกำหนด และผ่านการตรวจอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง“ นำตัวทั้งสองดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้เมื่อตรวจค้นประวัติการกระทำความผิด พบว่านานสุรศักดิ์ฯ เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.734/2567 ลงวันที่ 21 พ.ย.67 ในความผิด ”ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมิได้ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และสมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมทบกันและร่วมกันฟอกเงิน“ เจ้าหน้าที่จะได้ประสาน สภ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อมาอายัดตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณภักดี ผกก.ตม.จว.หนองคาย และ น.อ.วิศิษฐ์พงศ์ เจริญวิชยเดช ผบ.นรข.เขตหนองคาย กล่าวชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 หน่วย ที่ร่วมกันปราบปรามผู้ลักลอบกระทำความผิด และฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนตามแนวลำน้ำโขง หากทราบถึงพฤติกรรมการนั่งเรือน้อยลักลอบเดินทางเข้า-ออก ประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ ให้มาแจ้งเจ้าหน้าที่การข่าวของทางราชการที่ออกปฏิบัติงานในพื้นที่อยู่ตลอด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการจับกุมสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ให้สังคมชาวหนองคายเราปลอดภัยและสงบสุข น่าอยู่ต่อไป
สำหรับพื้นที่ริมฝั่งโขงโดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลโพนสา อำเภอท่าบ่อ มักเกิดการกระทำความผิดอยู่บ่อยครั้งโดยเฉพาะการลักลอบนำคนไทย คนลาว ข้ามไปมาอย่างผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังออกตรวจสอบจับกุมอย่างต่อเนื่องแต่ไม่เข็ดหลาบ จากนี้จะได้ดำเนินการต่อผู้ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการดังกล่าวอย่างเด็ดขาดตามกรอบกฎหมายที่มีอยู่ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในพื้นที่ต่อไป.