กรณี ส.ส.เขต 2 พรรคเพื่อไทย จ.หนองคาย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ตอนนี้รถยนต์ติดแก๊สกำลังจะระเบิดที่อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย แต่ไม่มีร้อยเวรในที่เกิดเหตุ ติดต่อผู้การ นายเวร ผู้กำกับ อย่างไรได้บ้าง ปิดเครื่องทุกนาย” จนมีการแชร์การทำงานของตำรวจตามข่าวที่ได้นำเสนอไป ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามเจ้าหน้าที่ประจำจุดรับฝากรถที่เกิดเหตุก๊าซ LPG ที่เป็นเชื้อเพลิงรถแท็กซี่ที่จอดฝากไว้จุดรับฝากรถ ก่อนเจ้าของรถจะข้ามไป สปป.ลาว รั่ว ยืนยันหน่วยงานที่มาถึงจุดเกิดเหตุชุดแรกคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย และอยู่อำนวยการจนภารกิจเสร็จสิ้น ด้านผู้การตำรวจหนองคาย ชี้แจงการที่ ส.ส. ในพื้นที่จังหวัดหนองคายสะท้อนความรู้สึกออกมา ก็เป็นสิ่งที่ดี ยืนยันอีกครั้งว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้ ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ได้ล่าช้า หลังจากนี้จะปรับปรุงการทำงานให้ดี และเร็วมากยิ่งขึ้น พร้อมดูแลพี่น้องประชาชนชาวหนองคาย อย่างดีที่สุดต่อไป
กรณี ส.ส.เขต 2 พรรคเพื่อไทย จ.หนองคาย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ตอนนี้รถยนต์ติดแก๊สกำลังจะระเบิดที่อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย แต่ไม่มีร้อยเวรในที่เกิดเหตุ ติดต่อผู้การ นายเวร ผู้กำกับ อย่างไรได้บ้าง ปิดเครื่องทุกนาย” จนมีการแชร์การทำงานของตำรวจตามข่าวที่ได้นำเสนอไป ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามเจ้าหน้าที่ประจำจุดรับฝากรถที่เกิดเหตุก๊าซ LPG ที่เป็นเชื้อเพลิงรถแท็กซี่ที่จอดฝากไว้จุดรับฝากรถ ก่อนเจ้าของรถจะข้ามไป สปป.ลาว รั่ว ยืนยันหน่วยงานที่มาถึงจุดเกิดเหตุชุดแรกคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย และอยู่อำนวยการจนภารกิจเสร็จสิ้น ด้านผู้การตำรวจหนองคาย ชี้แจงการที่ ส.ส. ในพื้นที่จังหวัดหนองคายสะท้อนความรู้สึกออกมา ก็เป็นสิ่งที่ดี ยืนยันอีกครั้งว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้ ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ได้ล่าช้า หลังจากนี้จะปรับปรุงการทำงานให้ดี และเร็วมากยิ่งขึ้น พร้อมดูแลพี่น้องประชาชนชาวหนองคาย อย่างดีที่สุดต่อไป
จากกรณีที่ น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย เขต 2 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก รายงานสถานการณ์รถยนต์ติดก๊าซกำลังจะระเบิด แต่ติดต่อหน่วยงานในจังหวัดไม่ได้ โดยระบุข้อความว่า “ตอนนี้รถยนต์ติดแก๊สกำลังจะระเบิดที่อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย แต่ไม่มีร้อยเวรในที่เกิดเหตุ ติดต่อผู้การ นายเวร ผู้กำกับ อย่างไรได้บ้าง ปิดเครื่องทุกนาย”
สำหรับเรื่องนี้ พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ได้ชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมีประชาชนทั่วไป โทรไปที่ 191 หลังจากนั้นสายตรวจได้เข้าไประงับเหตุในช่วง 18.00 น. ลงพื้นที่พร้อมทำการกั้นพื้นที่ไม่ให้ประชาชนเข้ามา หลังจากนั้นกู้ภัยก็ได้เข้าช่วยระงับเหตุ จนถึงเวลา 21.00 น. เหตุการณ์ก็คลี่คลาย สงบ เรียบร้อย ไม่มีความสูญเสีย ซึ่งถือว่าตำรวจได้เข้าระงับเหตุอย่างทันท่วงที ตามยุทธวิธีที่ได้ฝึกฝนกันเอาไว้ ซึ่งเรื่องแบบนี้ทางตำรวจ พร้อมที่จะเข้าไประงับเหตุอยู่แล้ว โดยที่ไม่ต้องรอให้ใครมาสั่งการ
ส่วนประเด็นเรื่องการติดต่อผู้การหนองคายไม่ได้ ทาง พล.ต.ต.พิรัชย์ ชี้แจงว่า เบอร์ที่ ส.ส.ชนกโทรไปนั้น เป็นเบอร์เดิมของตัวเองที่ได้ทำการระงับการใช้งานไปแล้ว เนื่องจากโดนมิจฉาชีพออนไลน์เอาเบอร์นี้ไปแอบอ้างสั่งซื้ออาวุธปืน ที่ อ.ศรีเชียงใหม่ จนต้องระงับเบอร์ไป โดยตัวเองได้เปลี่ยนเบอร์ใหม่ ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งความจริงแล้ว ส.ส.ชนก มีไลน์ของตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้โทรมาทางไลน์ ทำให้ตัวเองไม่ทราบเรื่อง ยืนยันว่า ถ้า ส.ส.ชนก โทรมาที่เบอร์ปัจจุบัน ยังไงตัวเองก็รับสาย เพราะทุกวันนี้ก็คอยรับสายทุกคนๆ ตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว เพราะผู้ใต้บังคับบัญชา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกัน โทรมารายงานเรื่องต่างๆตลอดเวลา
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นผู้การหนองคาย ไม่ได้เสียขวัญกำลังใจแต่อย่างใด มองว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ มันเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันได้ แต่ทางฝั่ง ส.ส.อาจจะเกิดอารมณ์หงุดหงิดนิดหน่อย ยอมรับว่ารู้สึกเป็นห่วงตำรวจสายตรวจที่เข้าไประงับเหตุ เนื่องจากทุกคนทำงานอย่างดีที่สุดแล้ว แต่กลับมีการโพสต์ในลักษณะว่าไม่ช่วยเหลือประชาชน จึงเป็นห่วงความรู้สึกตำรวจสายตรวจ
พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย กล่าวอีกว่า การที่ ส.ส. ในพื้นที่จังหวัดหนองคายสะท้อนความรู้สึกออกมา ก็เป็นสิ่งที่ดี ยืนยันอีกครั้งว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้ ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ได้ล่าช้า หลังจากนี้จะปรับปรุงการทำงานให้ดี และเร็วมากยิ่งขึ้น พร้อมดูแลพี่น้องประชาชนชาวหนองคาย อย่างดีที่สุดต่อไป
ในส่วนของสถานีตำรวจภูธรหนองคาย โดย พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย ได้ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 เวลา 18.00 น. สภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งเหตุรถแท็กซี่เขียวเหลือง ทะเบียน 1 มค 5948 กรุงเทพมหานคร ซึ่งรถคันดังกล่าวติดตั้งแก๊ส LPG มีนายจีระ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี เป็นเจ้าของรถ ในวันนี้ช่วงเช้านำรถคันดังกล่าวมาฝากไว้ที่ลานรับฝากรถประสิทธิโชค จากนั้นเดินทางออกนอกประเทศไปยัง สปป.ลาว ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งเมื่อเวลา 18.03 น. เกิดแก๊สรั่ว เหตุเกิดที่ลานรับฝากรถประสิทธิโชค ตลาดท่าอุดม ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย
ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองหนองคาย ได้แจ้งให้สายตรวจเขตงานที่รับผิดชอบเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกันนี้ได้ประสานงานให้หน่วยกู้ภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุน
ต่อมาเวลา 18.14 น. ร.ต.ท.ศุภฤกษ์ วังคะฮาด ร้อยเวร 2-0 พร้อมด้วย ส.ต.อ.ราชฤทธิ์ อักษรกลาง และ ส.ต.อ.ยุทธชัย พันธ์คลัง สายตรวจ สภ.เมืองหนองคาย เดินทางถึงที่เกิดเหตุ ได้อำนวยความสะดวกและรักษาสถานที่เกิดเหตุ ช่วยเหลือเจ้าพนักงานดับเพลิงและอยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ ผกก.สภ.เมืองหนองคาย ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุให้ดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณที่เกิดเหตุจนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น เวลา 21.53 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ให้กลับคืนได้ปกติ และรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
สภ.เมืองหนองคาย ขอเรียนว่าข่าวที่ปรากฏในสื่อสารมวลชนข้างต้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด จึงขอเรียนชี้แจงข้อมูลมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน
โดยในวันนี้ 7 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงอย่างละเอียด และได้สอบถาม นายพนมไพร คำสีดา อายุ 28 ปี ผู้ดูแลที่ฝากจอดรถจุดเกิดเหตุ เล่าว่า รถแท็กซี่คันนี้จะมาใช้บริการฝากจอดเดือนละ 1 ถึง 2 ครั้ง มาแทบจะทุกเดือน โดยจะจอดไว้คราวละ 2-3 วัน ก่อนเกิดเหตุช่วงประมาณ 06.00 น. (ของวันที่ 5 ต.ค.67) เจ้าของรถได้นำรถมาฝากไว้และได้เดินทางไปที่ สปป.ลาว จากนั้นเวลา 16.00 น. ตนพากันเตะบอลเล่น และได้กลิ่นก๊าซลอยมา แต่ไม่รู้ว่ามาจากไหน จนบอลกลิ้งไปใกล้รถแท็กซี่คันนี้จึงได้กลิ่นก๊าซรุนแรง มั่นใจว่ากลิ่นก๊าซออกมาจากรถแท็กซี่คันนี้อย่างแน่นอน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ก็มาถึงที่เกิดเหตุก่อนทุกหน่วยงาน และได้กั้นพื้นที่จุดเกิดเหตุไว้ในทันที โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าต้องรอให้ผู้ที่เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ ตำรวจทำได้เพียงดูแลพื้นที่เกิดเหตุ จากนั้นก็ได้มีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤติ อบจ.หนองคาย) มาช่วยเหลือดังกล่าว
ด้าน นายจรัส สุตสิทธิ์ ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤติ อบจ.หนองคาย / พนักงานวิทยุประศูนย์รับแจ้งเหตุ 1669 บอกว่า ได้รับแจ้งว่ารถแท็กซี่มาก๊าซรั่ว ผู้ประกอบการอยากให้หาวิธีการปิดถังก๊าซให้ เมื่อมาถึงก็ได้ตรวจสอบก่อนว่าเป็นก๊าซชนิดใด พอได้กลิ่นก็ทราบแล้วว่าเป็นก๊าซ LPG (ก๊าซหุงต้ม) และได้ตรวจสอบดูสติ๊กเกอร์ที่ติดไว้บริเวณฝากระโปรงรถก็ระบุไว้ว่าเป็นก๊าซ LPG ความยากของการจะปิดนั้นคือการเข้าถึงถังก๊าซเพื่อปิดวาวถังนั้นได้ยาก สอบถามโดยรอบก็ไม่พบเจ้าของรถ จึงได้ใช้น้ำฉีดหล่อเลี้ยงไว้ก่อนเพื่อป้องกันการลุกไหม้หรือการระเบิด พร้อมกันคนออกจากพื้นที่เพื่อให้มีความปลอดภัยมากที่สุด และขอให้งดการที่จะทำให้เกิดประกายไฟ ต้องใช้เวลานานพอสมควรจึงสามารถเปิดรถได้ โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มีความชำนาญเป็นคนเปิดรถ หลังเปิดรถได้ก็ทำการปิดวาวถังก๊าซและใช้น้ำฉีดเลี้ยงต่ออีกระยะหนึ่งจนมั่นใจว่ามีความปลอดภัย เนื่องจากหลังปิดวาวถังก๊าซแล้วยังพบว่ามีไอก๊าซอยู่ ซึ่งคุณสมบัติของก๊าซ LPG จะหนักกว่าอากาศ คือจะลอยอยู่เหนือพื้น.