กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 (สองห้า) สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดกำลังพลและยานพาหนะพร้อมเครื่องจักรกล เร่งฟื้นฟูซ่อมปรับปรุงถนนทางขึ้นวัดผาตากเสื้อ จุดที่ตั้งสกายวอล์ค จุดชมวิวกระจกใสแห่งแรกของไทย ที่ทำให้มองวิวมุมสูงของแม่น้ำโขงสองประเทศไทย-ลาว ได้อย่างสวยงาม ที่ถนนทรุดตัวพังเสียหาย จากเหตุน้ำป่าไหลหลากเนื่องจากฝนตกหนักในห้วงที่ผ่านมา
กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 (สองห้า) สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดกำลังพลและยานพาหนะพร้อมเครื่องจักรกล เร่งฟื้นฟูซ่อมปรับปรุงถนนทางขึ้นวัดผาตากเสื้อ จุดที่ตั้งสกายวอล์ค จุดชมวิวกระจกใสแห่งแรกของไทย ที่ทำให้มองวิวมุมสูงของแม่น้ำโขงสองประเทศไทย-ลาว ได้อย่างสวยงาม ที่ถนนทรุดตัวพังเสียหาย จากเหตุน้ำป่าไหลหลากเนื่องจากฝนตกหนักในห้วงที่ผ่านมา
วันนี้ (29 กันยายน พ.ศ. 2567) กองบัญชาการกองทัพไทย โดย พันเอกอธิเมศร์ ศรุติเจริญวงศ์ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 (สองห้า) สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 (สองห้า) จำนวน 5 นาย พร้อมเครื่องจักรกลและยานพาหนะ จำนวน 5 คัน ให้การสนับสนุนช่วยเหลือวัดผาตากเสื้อ อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย จุดที่ตั้งสกายวอล์ค จุดชมวิวกระจกใสแห่งแรกของไทย ที่ทำให้มองวิวมุมสูงของแม่น้ำโขงสองประเทศไทย-ลาว ได้อย่างสวยงาม
โดยเข้าดำเนินการฟื้นฟูซ่อมปรับปรุงเส้นทางขึ้นวัดผาตากเสื้อ บริเวณจุดที่เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำป่าไหลหลาก เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 เนื่องจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้ดินสไลด์ทับเส้นทาง และถนนทรุดพังเสียหาย 1 ช่องจราจร เป็นระยะทาง 20 เมตร ทำให้พระสงฆ์และสามเณรเดินทางลงมาจากวัด เพื่อมารับบิณฑบาตในช่วงเช้าได้ลำความลำบากในการใช้เส้นทาง ประกอบกับประชาชนที่จะเดินทางขึ้นมาทำบุญและเยี่ยมชมสกายวอล์ค จุดชมวิวมุมสูงสองประเทศไทย-ลาว ต้องสัญจรไปมาลำบากเนื่องจากต้องใช้ทางเบี่ยงที่เป็นทางลูกรัง และมีความลาดชัน ซึ่งเป็นอันตรายกับผู้ที่จะเดินทางมา ซึ่งในขณะนี้ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 (สองห้า) สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กำลังเร่งดำเนินการฟื้นฟูซ่อมแซมเส้นทางอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น โดยคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการซ่อมปรับปรุงถนนให้ใช้เส้นทางได้ชั่วคราว ประมาณ 5-7 วัน หากไม่มีฝนตกในพื้นที่ ก่อนจะส่งมอบพื้นที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ซ่อมแซมปรับปรุงเส้นทางให้มั่นคงแข็งแรงในระยะยาวต่อไป.