ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย (ตม.หนองคาย) ทลายแก๊งค้ายาข้ามชาติ ที่ลักลอบขนยาเสพติดข้ามแม่น้ำโขงเข้าประเทศไทย ยึดเฮโรอีน ได้เกือบ 20 กิโลกรัม ขยายผลพบว่าทำมาแล้วหลายครั้ง และยังได้ร่วมกับ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม,กก.สส.บก.ตม.4,และ สภ.ศรีสงคราม ทลายร้านคาราโอเกะแฝงค้ากามเด็กหญิงลาว แจ้งข้อหาค้ามนุษย์

ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย (ตม.หนองคาย) ทลายแก๊งค้ายาข้ามชาติ ที่ลักลอบขนยาเสพติดข้ามแม่น้ำโขงเข้าประเทศไทย ยึดเฮโรอีน ได้เกือบ 20 กิโลกรัม ขยายผลพบว่าทำมาแล้วหลายครั้ง และยังได้ร่วมกับ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม,กก.สส.บก.ตม.4,และ สภ.ศรีสงคราม ทลายร้านคาราโอเกะแฝงค้ากามเด็กหญิงลาว แจ้งข้อหาค้ามนุษย์

วันนี้ (18 ก.ย. 67) ที่ห้องประชุมมิตรภาพ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.จว.หนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวประชาสัมพันธ์ผลการจับกุมคดีสำคัญของหน่วยงานในสังกัดกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 จำนวน 2 คดี คือการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ ได้ผู้ต้องหา 5 ราย และเฮโรอีนน้ำหนัก 19.80 กก. และผลการจับกุมคดีค้ามนุษย์ ที่จับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 2 ราย เป็นผู้จัดหาเด็กสาวมาขายบริการ และเป็นเจ้าของร้าน

 

ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข รรท.รอง ผบ.ตร./หน.ศปอส.ตร.ได้กำชับและมอบหมายให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สกัดกั้น ตรวจสอบการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ยาเสพติด และกลุ่มแก๊งปล่อยเงินกู้อัตราดอกเบี้ยเกินกำหนด ตามนโยบายรัฐบาล

พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.,ได้สั่งการมอบหมายให้ พล.ต.ต.ภานุมาศ บุญญลักษณ์,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิยะอนันต์  โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.4 ได้กำชับหัวหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศให้ดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

สำหรับการตรวจยึดเฮโรอีน ได้เกือบ 20 กก. ในครั้งนี้ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.จว.หนองคาย สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนปราบปราบ ตม.จว.หนองคาย เร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดตามสั่งการของผู้บังคับบัญชา ได้ประสานข้อมูลกับ บช.ปส. ทราบว่ามีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในประเทศตามแนวชายแดนแม่น้ำโขงพื้นที่ จ.หนองคาย จึงได้เฝ้าสืบสวนติดตามมาโดยตลอด ต่อมาวันที่ 4 ก.ย. 2567 รับแจ้งจากสายลับเป็นที่แน่นอนว่า นางยง สัญชาติไทย ร่วมกับ นางวัน สัญชาติลาว จะลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศทางช่องทางธรรมชาติชายแดนริมแม่น้ำโขงพื้นที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยนางยง ติดต่อว่าจ้างนายแป๊ะ สัญชาติไทย ให้นำเรือไปรับตนกับนางวัน ลักลอบข้ามฝั่งแม่น้ำโขง และให้จัดหารถพาไปส่งที่ สถานีขนส่ง จ.หนองคาย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นและวางแผนเข้าจับกุม

ขณะ เจ้าหน้าที่ซุ่มเฝ้าดูพบนายแป๊ะ ยืนสั่งการให้สัญญาณอยู่ริมแม่น้ำโขงฝั่งไทยบริเวณจุดจอดเรือหลังวัดกุมภประดิษฐ์ ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ พบเรือหางยาวมีนายด้วน สัญชาติไทย เป็นคนขับ รับนางยงและนางวัน พร้อมสัมภาระขับแล่นจากฝั่ง สปป.ลาว ข้ามมาฝั่งไทย เมื่อถึงฝั่งไทย นายแป๊ะสั่งให้นางยงและนางวันยกกระเป๋าสัมภาระจำนวน 4 ใบ ไปขึ้นรถสามล้อที่มีนางเอิบ สัญชาติไทย (ผู้ต้องหาที่ 5) จอดรออยู่ จากนั้นนางเอิบขับรถสามล้อพานางยงและนางวัน มุ่งหน้าเข้าเมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าดูพฤติกรรมและติดตามมาเมื่อถึงที่เกิดเหตุจึงแสดงตัวสั่งให้หยุดรถและเข้าตรวจสอบ พบกระเป๋าสัมภาระจำนวน 4 ใบ ภายในมีกล่องโฟมล้างหน้า ยี่ห้อ WARANYA B5 บรรจุมาเต็มทุกกระเป๋า ตรวจสอบเบื้องต้นวัสดุภายในหลอดมีลักษณะเป็นเกล็ดผง เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวผู้ถูกจับทั้ง 5 ราย พร้อมกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดมาที่ ตม.จว.หนองคาย เพื่อตรวจสอบตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จาก จ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดหนองคาย พบว่าเป็นสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) จำนวนทั้งสิ้น 180 กล่อง รวมน้ำหนักประมาณ 19.80 กก. เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เข้ามาในราชอาณาจักร” ให้ผู้ถูกจับทั้งหมดทราบ นำตัวพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสืบสวนขยายผลทราบว่านางยง จะลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศ จากนั้นจะซุกซ่อนยาเสพติดส่งพัสดุไปยังประเทศออสเตรเลีย เคยทำมาแล้วประมาณ 6 ครั้ง ซึ่งยาเสพติดที่ยึดได้ในครั้งนี้มีมูลค่าประมาณ 19.8 ล้านบาท ถ้าลักลอบส่งไปถึงประเทศปลายทางได้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า หรือประมาณ 198 ล้านบาท คาดว่าหากขบวนการดังกล่าวไม่ถูกจับกุมเสียก่อนก็จะแอบซุกซ่อนยาเสพติดดังกล่าวส่งพัสดุไปยังประเทศออสเตรเลียอีกครั้งอย่างแน่นอน ในส่วนของผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ส่วนการจับกุมคดีค้ามนุษย์ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.จว.หนองคาย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนปราบปราบ ตม.จว.หนองคาย เร่งรัดสืบสวนหาข่าวขบวนการเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ จนทราบว่ามีเด็กหญิงถูกล่อลวงมาทำงานในร้านคาราโอเกะในพื้นที่จังหวัดหนองคายซึ่งอาจมีการแสวงหาประโยชน์จากการขายบริการทางเพศแอบแฝง อันเข้าข่ายการกระทำผิดค้ามนุษย์ พบว่าเป็นเด็กหญิงลาวอายุประมาณ 13 ปี ลักลอบทำงานอยู่ที่คาราโอเกะแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.หนองคาย จึงเข้าตรวจสอบแต่ไม่พบตัวเด็กหญิงลาว จากนั้นได้สืบสวนหาข่าวเพิ่มเติมจนทราบว่าเด็กหญิงลาวดังกล่าวย้ายไปทำงานอยู่ที่ร้านคาราโอเกะในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ส.ค.67 ตม.จว.หนองคาย ร่วมกับ ตม.จว.นครพนม,กก.สส.บก.ตม.4 และ สภ.ศรีสงคราม เข้าตรวจสอบร้านคาราโอเกะเป้าหมาย พบนายเหน่ง อายุ 51 ปี สัญชาติไทย เป็นเจ้าของร้าน มีเจ๊เล็ก ภรรยาชาวลาว เป็นผู้ดูแล และพบลูกจ้างหญิงลาว จำนวน 7 ราย  ซึ่งไม่มีใบอนุญาตทำงาน  ทั้งนี้มีจำนวน 2 ราย อายุไม่เกิน 18 ปี คือ ด.ญ.ป๊อบ อายุ 13 ปี และ ด.ญ.ตุ๊ก อายุ 17 ปี ชาวลาว เจ้าหน้าที่ได้สัมภาษณ์และคัดกรองเบื้องต้นและประสาน พมจ.นครพนม ร่วมคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ จากนั้นส่งตัวเด็กหญิงทั้งสองเข้าสู่กลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) เพื่อคัดแยกเหยื่อฯร่วมกับทีมสหวิชาชีพ  เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวนายเหน่ง เจ้าของร้าน ในข้อหา “รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตฯ” และ “ให้ที่พักพิงคนต่างด้าวฯ” นำส่ง พงส.สภ.ศรีสงคราม ดำเนินคดีตามกฎหมาย 

ตม.จว.หนองคาย ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมพบว่านายเหน่งได้ร่วมกับเจ้เล็ก ได้จัดให้เด็กหญิงชาวลาวอายุต่ำกว่า 18 ปี คอยบริการแขกที่มาเที่ยวในลักษณะนั่งดริ๊งค์ ได้ค่าจ้างจากการนั่งดริ้งค์แบ่งส่วนหนึ่งให้กับทางร้านและเด็กได้อีกส่วน ทั้งยังมีการเสนอขายบริการทางเพศ ตามรีสอร์ท ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงโดยเจ้าของร้านทั้งสองคนได้รับผลประโยชน์จากการกระทำดังกล่าว อันเป็นการค้ามนุษย์โดยการแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ต่อมา ตม.จว.หนองคาย ได้รวบรวมพยานหลักฐานเข้าร้องทุกข์ต่อ พงส.สภ.ศรีสงคราม เพื่อดำเนินคดีกับนายจ้างทั้งสองราย โดยศาลจังหวัดนครพนมได้อนุมัติหมายจับนายเหน่งและเจ้เล็ก ในข้อหา “ร่วมกันค้ามนุษย์” ต่อมาวันที่ 10 ก.ย.67 ตม.จว.หนองคาย ร่วมกับสภ.ศรีสงคราม, กก.สส.บก.ตม.4 และ ตม.จว.นครพนม จับตัวนายเหน่ง และเจ๊เล็ก ตามหมายจับข้างต้นได้ที่บริเวณหน้าบ้านพัก ควบคุมตัว นำส่งพงส.สภ.ศรีสงคราม ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

 

กลับ กลับหน้าหลัก



ติดต่อเรา

Copyright © 2016 nongkhainewsonline : ข่าวออนไลน์หนองคาย