เทศบาลตำบลโพนพิสัย และองค์การบริหารส่วนตำบลจุมพล จัดให้มีการนับคะแนนและประกาศผลการสำรวจเจตนารมณ์ของประชาชน โครงการรวมเทศบาลตำบลโพนพิสัย กับองค์การบริหารส่วนตำบลจุมพล และเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นเทศบาลเมืองโพนพิสัย ซึ่งผลการนับคะแนนประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย
เทศบาลตำบลโพนพิสัย และองค์การบริหารส่วนตำบลจุมพล จัดให้มีการนับคะแนนและประกาศผลการสำรวจเจตนารมณ์ของประชาชน โครงการรวมเทศบาลตำบลโพนพิสัย กับองค์การบริหารส่วนตำบลจุมพล และเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นเทศบาลเมืองโพนพิสัย ซึ่งผลการนับคะแนนประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย
วันนี้ (6 ก.ย. 67) ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอโพนพิสัย จ.หนองคาย เทศบาลตำบลโพนพิสัย และองค์การบริหารส่วนตำบลจุมพล จัดให้มีการนับคะแนนและประกาศผลการสำรวจเจตนารมณ์ของประชาชน โครงการรวมเทศบาลตำบลโพนพิสัย กับองค์การบริหารส่วนตำบลจุมพล และเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นเทศบาลเมืองโพนพิสัย ขึ้น หลังจากได้มีการดำเนินการสำรวจเจตนารมณ์ของประชาชนทั้งสองพื้นที่ให้เป็นไปตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0804.6 / ว 5916 เรื่อง ซักซ้อมแนวทางการจัดตั้ง เปลี่ยนแปลงฐานะและเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมี นพ.สรร สุนทรธนากุล นายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัย , นายสุพจน์ ฉันทพจน์ นายก อบต.จุมพล พร้อมทีมบริหารของเทศบาลตำบลโพนพิสัย , ทีมบริหารขององค์การบริหารส่วนตำบลจุมพล และประชาชนเป็นจำนวนมาก เข้าร่วมสังเกตการณ์ การนับคะแนนในครั้งนี้ ซึ่งผลการนับคะแนนประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นเทศบาลเมืองโพนพิสัย
นพ.สรร สุนทรธนากุล นายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัย กล่าวว่า การดำเนินการนับคะแนนและประกาศผลการสำรวจเจตนารมณ์ของประชาชน โครงการรวมเทศบาลตำบลโพนพิสัย กับองค์การบริหารส่วนตำบลจุมพล และเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นเทศบาลเมืองโพนพิสัย ในครั้งนี้นั้น กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ทำโครงการฯมาเป็นเวลานาน ซึ่งความคิดริเริ่มโครงการฯนี้ที่จะยกฐานะเทศบาลตำบลโพนพิสัยให้เป็นเทศบาลเมืองโพนพิสัยนี้เกิดขึ้นมานาน 10 กว่าปี เคยมีการพยายามจะทำโครงการฯนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ในช่วงนั้นมีข้อจำกัดหลายด้านทำให้ไม่ผ่าน ข้อจำกัดสำคัญครั้งก่อนคือด้วยจำนวนสมาชิกที่มีจำนวนมากเนื่องจาก ต.จุมพล เป็นตำบลขนาดใหญ่มีจำนวนหมู่บ้านถึง 26 หมู่บ้าน สมาชิกสภาฯ มีถึง 52 คน ถ้ายกฐานะเป็นเทศบาลแล้วจะเหลือเพียง 28 คน จึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การดำเนินการในครั้งก่อนมีการติดขัดในประเด็นนี้
นายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัย กล่าวต่อไปอีกว่า ผ่านมา 10 ปี โครงการฯนี้จะทำได้คือผู้บริหารของทั้ง 2 องค์กรคือเทศบาลตำบลโพนพิสัย กับองค์การบริหารส่วนตำบลจุมพล จะต้องมีวิชั่นหรือวิสัยทัศน์ตรงกันก่อน ว่าเราจะนำท้องถิ่นของเราก้าวไปสู่การพัฒนาท้องถิ่นแบบใหม่ คือแบบเทศบาลเมือง ที่มีการบริการสาธารณะแตกต่างจาก อบต. และเทศบาลตำบล โชคดีที่มีผู้บริหาร อบต. คือนายสุพจน์ ฉันทพจน์ นายก อบต.จุมพล ที่มีวิสัยทัศน์ตรงกันตน ว่าจะร่วมกันทำเทศบาลเมืองด้วยกัน นอกจากนี้ทีมบริหาร พนักงาน เจ้าหน้าที่ของ อบต.จุมพล ก็มีความคิดเห็นในการรวมตัวกันเป็นเทศบาลเมืองเช่นเดียวกัน จึงได้เริ่มโครงการฯนี้ด้วยกัน ซึ่งตามกฎหมายก็ต้องเริ่มจากจุดนี้ ว่า ท้องถิ่นใด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด จะดำเนินการรวบรวมหรือเปลี่ยนแปลงแนวเขต หรือเปลี่ยนแปลงฐานะ ท้องถิ่นนั้นจะต้องเป็นผู้ดำเนินการ และตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ประกาศฉบับใหม่ การดำเนินการตามแนวทาง คือตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 เป็นต้นมา การดำเนินการที่จะต้องทำคือการสำรวจเจตนารมณ์ของประชาชน ซึ่งวิธีการสำรวจเจตนารมณ์ของประชาชนนั้นสามารถทำได้ในวิธีการใดวิธีการหนึ่งหรือหลายวิธีก็ได้ เช่น วิธีทำประชาคม หรือทำแบบสอบถาม หรือให้ลงมติผ่านแอปพลิเคชัน ทางสื่อก็ได้ ซึ่งของเราเลือก 2 วิธี คือสำรวจเจตนารมณ์ประชาชนโดยประชุมประชาคม และใช้แบบสำรวจสอบถาม ซึ่งในระเบียบระบุว่าให้นำทุกวิธีมานับรวมกัน และมีเงื่อนไขว่า ผู้มีสิทธิหนึ่งคนสามารถลงมติได้เพียง 1 อย่างเท่านั้น และมีเงื่อนไขสุดท้ายว่า จะต้องมีการสำรวจเจตนารมณ์ฯให้ครอบคลุมเกินกว่าร้อยละ 20 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ฉะนั้นการนับคะแนนในวันนี้ จะต้องให้ผ่านกฎระเบียบต่าง ๆ ทั้งหมด
นายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัย กล่าวต่อไปอีกว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่ง อาจจะไม่ดำเนินการเหมือนที่เราดำเนินการอยู่ในครั้งนี้ อาจจะแค่สำรวจตามระเบียบ ผ่านสภาฯแล้วส่งได้เลย แต่ที่เราดำเนินการในวันนี้เพื่อต้องการประกาศให้ประชาชนได้ทราบ เพื่อแสดงถึงความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ แสดงถึงวิชั่นและเจตนารมณ์ที่ดีของผู้บริหารท้องถิ่นทั้งสองแห่ง ที่อยากให้ประชาชนรู้ว่าเราทำด้วยความจริงใจ ซึ่งตามขั้นตอน หากดำเนินการสำรวจแล้วเสร็จก็จะไปผ่านขั้นตอนของสภาฯทั้ง 2 สภา คือสภาเทศบาลตำบลโพนพิสัย และสภาของ อบต.จุมพล ก่อน เมื่อผ่านสภาฯแล้ว ก็จะเชิญนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ติดกัน ที่มีทั้งหมด 7 แห่งรวมเทศบาลตำบลโพนพิสัย และ อบต.จุมพล แล้ว มาร่วมลงนามรับรองแนวเขตใหม่ ในที่นี้จะใช้แนวเขตของ ต.จุมพล เป็นแนวเขตตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย ที่ประกาศเป็นตำบล ของกรมการปกครอง เมื่อดำเนินการเสร็จทุกอย่างแล้วก็จะส่งเรื่องไปยังจังหวัดหนองคายให้พิจารณา จังหวัดหนองคายก็จะส่งต่อไปยังกรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ก่อนวันที่ 29 กันยายน ที่จะถึงนี้จึงจะทันเวลาที่กำหนด จากนั้นกระทรวงมหาดไทยก็จะทำการพิจารณา จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งว่าผ่านหรือไม่ ถ้าผ่านแล้วจะมีผลเมื่อไหร่ ซึ่งเจตนารมณ์ของทั้ง 2 ท้องถิ่นที่ได้ทำเรื่องเข้าไป ให้มีผลตามเจตนารมณ์ของประชาชนและของท้องถิ่นทั้ง 2 แห่ง อยากให้มีผลในช่วงที่สมาชิกฯ ครบวาระ คือวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568
ในส่วนที่บอกว่าโครงการฯนี้ผู้ดำเนินโครงการฯเป็นผู้ที่เสียสละนั้น นายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัย บอกว่า โครงการฯนี้เป็นโครงการที่ประชาชนได้ประโยชน์ พื้นที่ได้ประโยชน์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ยกฐานะได้ประโยชน์ แต่ผู้ที่เสียประโยชน์คือผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับนักการเมืองท้องถิ่น เนื่องจากจำนวนสมาชิกจะลดลง จากเดิม อบต. มีจำนวนสมาชิกฯ 26 คน เทศบาลฯ มี 12 คน รวมสมาชิกทั้ง 2 แห่ง 38 คน ก็จะเหลือแค่ 18 คน ส่วนนายกฯ ที่เดิมมี 2 คน ก็จะเหลือเพียงเดียวเท่านั้น นี่คือความเสียสละที่เรากล้าหาญที่จะทำโครงการฯนี้.