สำหรับการดำเนินงานของศูนย์คัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย นั้น สถานการณ์ปี 2566 ด่านพรมแดนหนองคาย มีบุคคลเดินทางเข้า-ออก จำนวน 4,550,868 ราย ยานพาหนะ จำนวน 612,155 คัน ส่วนสถานการณ์ปี 2567 ด่านพรมแดนหนองคาย มีบุคคลเดินทางเข้า-ออก แล้ว จำนวน 2,558,280 ราย ยานพาหนะ จำนวน 396,982 คัน โดยได้มีการชี้แจงกระบวนการคัดกรองผู้เสียหาตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ , เจ้าหน้าที่ ตม. ทำความเข้าใจในการคัดกรองและช่วยเหลือผู้เสียงหาร ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ , มีการติดป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน “ระวังการถูกหลอก เพื่อหาประโยชน์จากการค้ามนุษย์” , สุ่มตรวจและคัดกรองเด็กและเยาวชน สอบถามและสังเกตเพื่อหาข้อบ่งชี้ฯ , จัดเจ้าหน้าที่ประจำห้องคัดกรองเพื่อตรวจสอบ ตามมาตรา 12 พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ หรือสุ่มเสี่ยงตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ หากพบข้อบ่งชี้เป็นผู้เสียหายได้จัดห้องพักเด็กและเยาวชนเพื่อเตรียมการสัมภาษณ์ ก่อนจะประสาน พม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ

สถิติการคัดกรองนั้น ในปี 2566 คนต่างชาติเดินทางเข้า 1,528,988 คน บุคคลที่เข้ารับการคัดกรองฯ จำนวน 48,787 ราย ปฏิเสธตาม ม.12 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จำนวน 978 ราย และปฏิเสธสุ่มเสี่ยงค้ามนุษย์ จำนวน 520 ราย รวมปฏิเสธ 1,498 ราย ส่วนในปี 2567 คนต่างชาติเดินทางเข้า 1,005,389 คน บุคคลที่เข้ารับการคัดกรองฯ จำนวน 38,735 ราย ปฏิเสธตาม ม.12 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จำนวน 515 ราย และปฏิเสธสุ่มเสี่ยงค้ามนุษย์ จำนวน 795 ราย รวมปฏิเสธ 1,310 ราย

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข รรท.รอง ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ ตม.ได้มีให้มีการคำแนะนำ ผู้ที่จะเดินทางออกนอกประเทศ  จากเดิมที่มีการคัดกรองเฉพาะผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศ และให้มีการติดป้ายประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่จะผ่านเข้า-ออก ประเทศไทยได้รับทราบด้วย ในส่วนที่มีบางรายมีความตั้งใจออกไปก่ออาชญากรรมข้ามชาติในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการสมัครใจไป ซึ่งประเทศไทยไม่สามารถเอาผิดในฐานความผิดอะไร เพราะมีการเข้ามาถูกต้อง จึงต้องใช้การประชาสัมพันธ์เพื่อให้เขาได้รับทราบว่า เขาอาจสุ่มเสี่ยงที่จะถูกหลอกลวง ในการบังคับค้าแรงงาน หรือการค้ามนุษย์ มีบางรายเข้าใจ ขอกลับเลย ไม่ไปต่อ จึงขอให้เจ้าหน้าที่มีการเก็บสถิติในส่วนนี้ด้วย ถือเป็นการป้องกันปัญหาที่จะตามมา.