หายนะแม่น้ำโขง เขื่อนเรียงคิวเปิดตัว กับความจริงใจต่อการแก้ปัญหาของรัฐบาลประเทศลุ่มแม่น้ำโขง เผยประเทศไทยมีไฟฟ้าในระบบเหลือใช้ปริมาณมาก แล้วจะทำลายแม่น้ำโขง เพื่อผลิตไฟฟ้าไปเพื่ออะไร

เฟซบุ๊ก Pai Deetes ได้โพสต์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์แม่น้ำโขง และการสร้างเขื่อนไว้อย่างน่าสนใจดังนี้

สถานการณ์ #แม่น้ำโขง ณ ต้นปี 2020  และแผนที่ อัปเดท มกราคม 2563 ค่ะ

[1] "เขื่อนขั้นบันได ตอนบนในจีน" Lancang cascade เริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี 1996 ที่มณฑลยูนนาน โดยบริษัทไฮโดรลานชาง ลูกของบริษัท Huaneng หนึ่งในห้ารัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของจีน ที่ได้รับสิทธิสัมปทานแม่น้ำโขงในจีน เพื่อผลิตไฟฟ้าขาย จนบัดนี้สร้างไปแล้ว 11 เขื่อน ยังเดินหน้าแบบไม่หยุด

"เขื่อนจิงหง" Jinghong dam ที่เมืองเชียงรุ้ง สิบสองปันนา คือเขื่อนตอนล่างสุด/ใกล้ไทยมากที่สุด ราว 340 กม. จากสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน มีข่าวมาอีกว่าจีนจะเดินหน้าโครงการเขื่อนกาหลันป้า Galanba ที่ท้ายน้ำโขงลงมาเกือบๆ สุดชายแดนจีน เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนว่าเขื่อนในจีนสามารถควบคุมระดับน้ำ ทำเอาน้ำโขงท้ายน้ำ ที่พรมแดนไทยลาว ผันผวน-ขึ้นลง ไปตามการใช้งานของเขื่อน อาทิ ผลิตไฟฟ้า เดินเรือ ระเบิดแก่ง/ปรับปรุงร่องน้ำ หรือซ่อมอุปกรณ์เขื่อนอย่างที่เกิดขึ้นในเวลานี้

เป็นเวลาเกือบยี่สิบห้าปีแล้ว ที่แม่น้ำโขง "บริเวณพรมแดนไทยลาวตอนบน" คือ จ.เชียงราย ตรงข้ามแขวงบ่อแก้วของลาว เผชิญกับระดับน้ำโขงที่ขึ้น-ลง ไม่เป็นไปตามฤดูกาล หมายถึงการสูญเสียทางนิเวศ น้ำโขงที่ท่วมในหน้าแล้ง แปลว่า หาดทราย อันเป็นที่วางไข่ของนกอพยพ ก็โดนท่วม ปลาอพยพก็ต้องสับสน คนหาปลาจับปลาได้น้อยลง เกษตรริมน้ำเสียหาย ฯลฯ

[2] โครงการระเบิดแก่งแม่น้ำโขง หรือโครงการปรับปรุงร่องน้ำเพื่อการเดินเรือพาณิชย์แม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง ที่เกิดจากข้อตกลงการเดินเรือเสรี ระหว่างจีน พม่า ลาว ไทย จุดมุ่งหมายคือทำแม่น้ำโขง ให้เดินเรือพาณิชย์ขนาด 500 DWT ได้ตลอดทั้งปี จากท่าเรือซือเหมา ผ่านพรมแดนไทยลาว (97 กม.) ลงไปจนถึงเมืองหลวงพระบาง รวมระยะทางราว 886 กม. ทุกวันนี้โครงการยังเดินหน้า ล่าสุดเมื่อเดือนธนวาคม 2562 มีการปิดการเดินเรือ เพื่อทำการระเบิดแก่งในจีน   ที่ถูกคัดค้านมากๆ เป็นเพราะผลกระทบจากการทำลายเกาะแก่ง และระบบนิเวศอันเปราะบางของแม่น้ำโขง และทำให้แม่น้ำโขงอันสลับซับซ้อน กลายเป็นเพียงซุปเปอร์ไฮเวย์ของเรือใหญ่เท่านั้น (ยังไม่รวมเรื่องความมั่นคง ชายแดน และการเข้าถึงพื้นที่โดยง่ายโดยมหาอำนาจ)

[3] โครงการเขื่อนแม่น้ำโขงตอนล่าง เวลานี้ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและผลิตไฟฟ้าแล้ว 2 เขื่อน คือเขื่อนดอนสะโฮง Don Sahong dam และเขื่อนไซยะบุรี Xayaburi dam

 

สำหรับประชาชนชาวไทยที่อาศัยริมแม่น้ำโขง บริเวณพรมแดนไทยลาวตอนล่าง ที่ภาคอีสานของไทย ครึ่งปีที่ผ่านมาถือว่าเห็นกันเป็นรูปธรรม สำหรับผลกระทบและความเปลี่ยนแปลง/วิบัติ ของแม่น้ำโขงท้ายน้ำจากเขื่อนไซยะบุรี นับตั้งแต่มีการทดลองผลิตไฟฟ้าในเดือนกรฎาคม 2562 เป็นต้นมา โดยเฉพาะน้ำโขงทะลดระดับอย่างรวดเร็ว-ตะกอนหายไป เกิดผลกระทบต่อพันธุ์ปลา การประมง แหล่งน้ำในการเกษตร แหล่งน้ำประปา เศรษฐกิจท้องถิ่น ฯลฯ  เหมือนว่ายังเจ็บไม่พอ ยังมีโครงการที่ถูกดันอย่างหนักในเวลานี้ คือ โครงการเขื่อนหลวงพระบาง Luang Prabang project ที่ตั้งอยู่ ณ แม่น้ำโขงเหนือจาก "ถ้ำติ่ง- ปากอู" แหล่งท่องเที่ยวและแหล่งประวัติศาสตร์ของเมืองหลวงพระบางเพียงไม่กี่กิโลเมตร ที่น่าสนใจสำหรับโครงการนี้ คือ มาแรงแซงโค้งอีก 2 โครงการที่เสนอมาก่อนหน้า คือโครงการเขื่อนปากแบง และโครงการเขื่อนปากลาย

น่าสนใจคือ ในเวทีให้ข้อมูลโครงการ ที่นครพนม ทางการลาวกล่าวดังปรากฎในรายงานข่าว ว่า "ที่ผ่านมาเขื่อนไซยะบุรี อาจมีผลกระทบให้เห็นชัดเจนเรื่องการขึ้นลงของระดับน้ำ กรณีเขื่อนหลวงพระบางจึงอาจต้องมีการปรับรูปแบบเพื่อให้ลดผลกระทบ ..ผลกระทบอาจไม่มากเท่าเขื่อนไซยะบุรี" เท่าที่จำได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ทางการลาวยอมรับว่าเขื่อนไซยะบุรีมีผลกระทบ

ที่น่าตั้งคำถาม คือจะสร้างเขื่อนไปทำไมอีก ? ในเมื่อประเทศไทยมีไฟฟ้าในระบบเหลือใช้เป็นปริมาณมาก แล้วจะทำลายแม่น้ำโขง เพื่อผลิตไฟฟ้า ไปเพื่ออะไร ?

 

วิกฤติแม่น้ำโขงที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องยอมรับ และหาทางออก เจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อการจัดการแม่น้ำโขงที่รับผิดชอบและเป็นธรรม เขื่อนสร้างแล้ว กำลังความเสียหายแล้ว จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปอีก ให้พังไปยิ่งกว่านี้อีกหรือจะรีบแก้ไข-หาผู้รับผิดชอบ ?

คำถามมีเพียงแค่ว่า - - ผู้มีอำนาจจะมองเห็นความทุกข์ยากของชาวบ้าน เห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติ หรือเพียงมองเห็นผลกำไรของอุตสาหกรรมพลังงานและก่อสร้าง ?

 

ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก Pai Deetes

ภาพประกอบข่าวจากกลุ่มไลน์คนฮักแม่น้ำโขง

 

กลับ กลับหน้าหลัก



ติดต่อเรา

Copyright © 2016 nongkhainewsonline : ข่าวออนไลน์หนองคาย