โดยก่อนที่ นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ประธานในพิธีจะเชิญพานพุ่มประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ข้าราชการพลเรือน ตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกสกุลสิงหเสนีและสายสัมพันธ์ องค์กรการกุศล องค์กรภาคเอกชน และหน่วยงานต่าง ๆ ได้ประกอบพิธีวางพวงมาลัยสักการะเบื้องหน้าอนุสาวรีย์เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และหลวงพิพิธ (ม่วง สิงหเสนี) ตามลำดับ

เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)  อัครมหาเสนาบดีสมุหนายก ขุนศึกคู่พระทัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้สนองพระเดชพระคุณ ด้วยความจงรักภักดี มีความซื่อสัตย์ สุจริต เที่ยงธรรม และปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี และเป็นปูชนียบุคคลที่สำคัญของชาติ ส่วนหลวงพิพิธ (ม่วง สิงหเสนี) ผู้เป็นน้องชาย นั้น เป็นผู้หนึ่งที่กล้าหาญ ใช้ชีวิตปกป้องพี่ชายผู้เป็นแม่ทัพ ถึงตัวตาย ถวายเป็นราชพลีเพื่อแผ่นดิน ดังพระราชปรารภพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ในพระราชหัตถเลขา ถึง พระบุรีนวราษฐ์ (ชวน สิงหเสนี) พระราชทานนามสกุล ตอนหนึ่งว่า ต้นโคตรของเจ้า ได้เป็นผู้หนึ่ง ซึ่งได้ช่วยรักษา พระบรมเดชานุภาพของพระเจ้าแผ่นดินไทยให้ดำรงมาได้ และบริเวณตำบลค่ายบกหวานแห่งนี้ เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์  ที่จารึกปรากฏนามของทั้งสอง ในตำนานของชาติไทยมาจนถึงปัจจุบัน.