หญิงสาวชาว ต.นางิ้ว อ.สังคม จ.หนองคาย ร้องสื่อภายหลังมีพนักงานผู้รับจ้างจดหน่วยวางบิลค่าไฟฟ้า หรือ ผู้รับจ้างตัด-ต่อกลับ มิเตอร์ไฟฟ้า มาหาที่บ้านขณะกำลังอาบน้ำ แจ้งให้รอที่หน้าบ้านไม่ยอมไปผวากลัวถูกล่วงละเมิดเพราะอยู่บ้านเพียงลำพัง จี้หน่วยงานที่รับผิดชอบพนักงานคนดังกล่าวตรวจสอบพฤติกรรม สุดแสบภายหลังนักข่าวโพสต์เฟซบุ๊กปัญหาข้อร้องเรียนมีชายอ้างตัวเป็นผู้บริหารโทรข่มขู่นักข่าวกลางดึกให้ลบโพสต์อ้างรู้จักนักข่าวช่อง 3 และผู้บริหารรายการโหนกระแส
หญิงสาวชาว ต.นางิ้ว อ.สังคม จ.หนองคาย ร้องสื่อภายหลังมีพนักงานผู้รับจ้างจดหน่วยวางบิลค่าไฟฟ้า หรือ ผู้รับจ้างตัด-ต่อกลับ มิเตอร์ไฟฟ้า มาหาที่บ้านขณะกำลังอาบน้ำ แจ้งให้รอที่หน้าบ้านไม่ยอมไปผวากลัวถูกล่วงละเมิดเพราะอยู่บ้านเพียงลำพัง จี้หน่วยงานที่รับผิดชอบพนักงานคนดังกล่าวตรวจสอบพฤติกรรม สุดแสบภายหลังนักข่าวโพสต์เฟซบุ๊กปัญหาข้อร้องเรียนมีชายอ้างตัวเป็นผู้บริหารโทรข่มขู่นักข่าวกลางดึกให้ลบโพสต์อ้างรู้จักนักข่าวช่อง 3 และผู้บริหารรายการโหนกระแส
วันนี้ (29 มี.ค. 67) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 190 หมู่ 8 ต.นางิ้ว อ.สังคม จ.หนองคาย เพื่อสอบถามประเด็นมี เจ้าหน้าที่ ผู้รับจ้างจดหน่วยวางบิลค่าไฟฟ้า หรือ ผู้รับจ้างตัด-ต่อกลับ มิเตอร์ไฟฟ้า เข้าไปภายในบ้านหญิงสาวที่อยู่คนเดียว โดยเจ้าของบ้านได้ขอให้ออกไปนอกบ้านแต่ไม่ยอมออกจึงได้แจ้งร้องเรียนมาที่สื่อมวลชนเพื่อให้ช่วยตรวจสอบพฤติกรรม เนื่องจากอาศัยอยู่คนเดียว สามีออกไปทำงานนอกบ้านทุกวัน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบกับผู้เสียหายคือ นางสาวพรสวรรค์ ไชยพระอิน อายุ 28 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 11.30 น. ขณะที่ตนอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำได้ยินเสียงตะโกนเรียกจากหน้าบ้าน ตนจึงนุ่งกระโจมอกพร้อมใช้ผ้าขนหนูปิดคลุมร่างเดินออกมาเพื่อดูว่าใครเป็นญาติพี่น้องหรือไม่ แต่เมื่อชำเลืองผ่านหน้าต่าง และชายคนดังกล่าวซึ่งตนไม่แน่ใจว่าเป็น เจ้าหน้าที่ ผู้รับจ้างจดหน่วยวางบิลค่าไฟฟ้า หรือ ผู้รับจ้างตัด-ต่อกลับ มิเตอร์ไฟฟ้า มองเห็นตนแล้ว ตนจึงตะโกนบอกให้ไปรอที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน แต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่ยอมไปยังคงยืนจ้องมาที่ตน ด้วยความกลัวจึงรีบปิดบ้านและหลบอยู่ภายในบ้านพร้อมทั้งใช้แอบพลิเคชั่นไลน์โทรแจ้งสามี แต่เนื่องจากสามีทำงานอยู่จึงมาที่บ้านไม่ทัน ชายคนดังกล่าวได้ขับจักรยานยนต์หนีไป
นางสาวพรสวรรค์ เล่าต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนตกใจมากเพราะอาศัยอยู่เพียงลำพัง หากเป็นเจ้าหน้าที่จริงไม่ว่าจะหน่วยงานไหนก็ตามเมื่อมาพบประชาชน หากประชาชนไม่ให้เข้าบ้านหรือให้รอในจุดที่เหมาะสมก็ควรทำตามไม่ใช่มายืนจ้องมองไม่หนีไปไหนแบบนี้ จึงอยากให้ผู้บริหารหน่วยงานมีการตรวจสอบ และตนจำหน้าได้ชัดเจน
ด้าน นายเก๋ง สินทรา ผู้สื่อข่าว ข่าวออนไลน์หนองคาย และผู้ช่วยสื่อส่วนกลางหลายสำนักข่าว เล่าว่าภายหลังผู้เสียหายได้มาร้องเรียนกับตน ตนได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อรอการตรวจสอบ แต่ช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณห้าทุ่มกว่าได้มีผู้ชายโทรศัพท์มาหาตนอ้างว่าเป็นผู้บริหารหน่วยงานของชายที่ไปที่บ้านของนางสาวพรสวรรค์ และสั่งให้ตนลบโพสต์ ซึ่งตนก็พยายามอธิบายแต่ชายคนดังกล่าวยังอ้างว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับตน พร้อมอ้างอีกว่ารู้จักนักข่าวช่อง 3 และรายการโหนกระแส แต่ตนไม่ได้สนใจเพราะตนโพสต์ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนไม่ได้พาดพิงใคร จึงอยากให้ผู้บริหาร ผู้รับจ้างจดหน่วยวางบิลค่าไฟฟ้า หรือ ผู้รับจ้างตัด-ต่อกลับ มิเตอร์ไฟฟ้า และผู้บริหารการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้ามาดูเรื่องนี้ให้ชาวบ้านด้วยเพราะถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งยังมีการโทรมาคุกคามสื่อมวลชนอีกด้วย.