ญาติสาววัย 25 ชาวเมืองท่าบ่อ ขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน หลังถูกรถยนต์เฉี่ยวชนเสียชีวิตแล้วหลบหนีที่พัทยา ส่วนตำรวจเจ้าของคดีให้ญาติไปตามหากล้องวงจรปิดนำมามอบให้ตำรวจเอง วอนขอตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เร่งทำงานเพื่อประชาชน และเจ้าของรถคันที่ชนมารับผิดชอบ เพราะผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว

ญาติสาววัย 25 ชาวเมืองท่าบ่อ ขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน หลังถูกรถยนต์เฉี่ยวชนเสียชีวิตแล้วหลบหนีที่พัทยา ส่วนตำรวจเจ้าของคดีให้ญาติไปตามหากล้องวงจรปิดนำมามอบให้ตำรวจเอง วอนขอตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เร่งทำงานเพื่อประชาชน และเจ้าของรถคันที่ชนมารับผิดชอบ เพราะผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 21.45 น. ร.ต.อ.พุทธรักษ์ สอนคำหาร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกันบนนถนนทัพพระยา มุ่งหน้าเทพประสิทธิ์ บริเวณหน้าศาลจังหวัดพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและพบคนเจ็บทราบชื่อ นางสาวเจนจิรา ทูลธรรม อายุ 25 ปี ที่อยู่ 112 หมู่ 1 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบอ จ.หนองคาย และพบรถจักรยานยนต์ของคนเจ็บล้มอยู่เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าสีแดง-เทา ทะเบียน 1กฎ 4827 อุดรธานี ล้มอยู่ ต่อมา นางสาวเจนจิรา ได้เสียชีวิตลงในวันที่ 25 ธันวาคม 2566 และญาติได้นำศพมาไว้ที่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 1 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 26 ธันวาคม 2566 เพื่อทำพิธีเผาในวันที่ 29 ธันวาคม 2566

 

จากกรณีดังกล่าวได้มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อว่า “โก โก้จัง” ได้โพสต์รายละเอียดว่า “ น้องไม่ตายฟรี ช่วยแชร์ตามหารถที่ชนน้องทีครับให้มารับผิดชอบสิ่งที่ทำด้วยครับ เกิดเหตุ 22/12/66 เวลา 21.45 น. – 22.00 น. หน้าศาลพัทยา รึใครมีกล้องวงจรปิด ตามร้านอาหารรึตัวรถที่บันทึกไว้ ขอรบกวนส่งให้ทีครับ สงสารน้องใช้เส้นทางนี้เลิกงานประจำ ขอช่วยแชร์ทีครับ” พร้อมโพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ

 

โดยในวันนี้ (27 ธ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 1 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของนางสาวเจนจิรา โดยพบว่ามีญาติๆได้ช่วยกันเตรียมงานศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เพราะนางสาวเจนจิราถือเป็นเสาหลักของครอบครัว

 นางสาววรรณภา บุญจันทร์ อายุ 34 ปี ที่อยู่ 132 หมู่ 3 บ้านคุยนางขาว ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย ญาติซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนางสาวเจนจิรา บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุเกิดวันที่ 22 ธันวาคม 2566 ประมาณช่วงก่อน 4 ทุ่ม น้องเจนจิราทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่พัทยา ขณะเกิดเหตุน้องขับรถ จยย.เลิกงานกลับบ้าน โดยใช้เส้นทางที่เกิดอุบัติเหตุกลับบ้านทุกวัน หลังเกิดเหตุตนทราบเรื่องจากแม่ ซึ่งทางโรงพยาบาลชลบุรีโทรหาป้า และป้าได้แจ้งแม่ โดยรักษาตัวจนถึงวันที่ 25 ธันวาคม และน้องได้เสียชีวิตลง

ตนเห็นคลิปแล้ว เป็นรถยี่ห้อ MG สีขาว ได้พุ่งชนท้ายรถ จยย.ของน้องจนล้ม น้องกระเด็นไปอยู่ใต้ท้องรถอีกคัน ส่วนรถคันที่ชนได้ขับหลบหนีไป ตอนแรกที่ตำรวจลงบันทึกประจำวันทางญาติยังไม่ทราบว่ารถคันไหนชนน้อง ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นรถคันที่จอดอยู่และพบน้องอยู่ใต้ท้องรถเป็นคันที่ชน แต่เมื่อตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดเป็นรถยี่ห้อ MG สีขาวที่ชนก่อนขับหลบหนีไป

 

“หลังเกิดเหตุตนได้ไปติดต่อกับร้อยเวรเจ้าคดี โดยตำรวจได้ให้ตนและญาติๆไปตามหากล้องวงจรปิดเอง เมื่อได้มาแล้วให้เอามาให้ตำรวจ ซึ่งตนและญาติๆโทรหาร้อยเวรเจ้าของคดีไม่สามารถติดต่อได้เลย และเมื่อโทรติดและทางตนได้แจ้งกับร้อยเวรว่า ทางตนและญาติได้กล้องวงจรปิดแล้วตำรวจยังบอกให้นำกล้องมาพบร้อยเวร ซึ่งทางตนและญาติดำเนินการเองหมดทั้งหมด จึงอยากขอความเป็นธรรมทั้งคนที่ชนแล้วหนี และตำรวจ อยากให้ทำงานด้วย ช่วยน้องตนด้วย บริการประชาชนด้วย เพราะน้องเป็นเสาหลักของครอบครัว จึงอยากขอความเป็นธรรมให้น้องตนด้วย” นางสาววรรณภา กล่าวทั้งน้ำตา

สำหรับ นางสาวเจนจิรา มีน้องสาว 1 คน ส่วนมารดาเสียชีวิต พ่อบวชเป็นเป็นพระ เป็นเสาหลักของครอบครัวเก็บเงินสร้างบ้านที่บ้านนาโพธิ์ ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ หวังให้ญาติพี่น้องได้อยู่ร่วมกันแต่มาเกิดอุบัติเหตุถูกรถเฉี่ยวชนแล้วหลบหนีเสียชีวิต.

 

กลับ กลับหน้าหลัก



ติดต่อเรา

Copyright © 2016 nongkhainewsonline : ข่าวออนไลน์หนองคาย