เทศบาลเมืองท่าบ่อ เปิดโครงการฝึกอบรมกีฬาพื้นบ้าน เสริมสร้างความรู้แก่ชุมชน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย
เทศบาลเมืองท่าบ่อ เปิดโครงการฝึกอบรมกีฬาพื้นบ้าน เสริมสร้างความรู้แก่ชุมชน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย
วันนี้ (14 ก.ย. 66) ณ อาคารวัฒนธรรม เทศบาลเมืองท่าบ่อ นางรวงทอง พลธิราช วัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมกีฬาพื้นบ้าน เสริมสร้างความรู้แก่ชุมชน โดยมี นายกิตติศักดิ์ วรรณวิเชษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ กล่าวรายงาน
นางรวงทอง พลธิราช วัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ปัจจุบันมีคนจำนวนน้อยมากที่ให้ความสนใจ ในเรื่องการละเล่นพื้นบ้านของเด็กไทย นับวันองค์ความรู้ เกี่ยวกับการละเล่นพื้นบ้านของเด็กไทยจะค่อยๆ สูญหายไป เนื่องจากขาดการอนุรักษ์และพัฒนา ประกอบกับ ของเล่นปัจจุบัน ของเด็กไทยได้กลายเป็นของเล่นสำเร็จรูปที่นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาประดิษฐ์ ทำจากพลาสติก โลหะหรือไม้ที่มีสีสันสวยงาม สะดวกในการซื้อหามาเล่น รูปแบบของเล่นเป็นการเล่น คอมพิวเตอร์ เกมกด หรือการใช้เวลาส่วนใหญ่กับการดูโทรทัศน์ สมาร์ทโฟน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้การเล่น และของเล่นพื้นบ้านได้สูญหาย ขาดการสืบทอดสานต่อ ดังนั้น การฝึกอบรมกีฬาพื้นบ้าน เสริมสร้างความรู้แก่ชุมชน จึงมีความจำเป็น
ขอชื่นชม นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ได้ให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมกีฬาพื้นบ้าน เสริมสร้างความรู้แก่ชุมชน และขอขอบคุณ นักเรียนโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าบ่อ (ท.1) และ วิทยากรจากมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตอุดรธานี ที่ได้เสียสละเวลามาบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการละเล่นกีฬาพื้นบ้าน พร้อมสาธิตวิธีการเล่นให้ กับนักเรียน และขอให้การฝึกอบรมในครั้งนี้ สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ทุกประการ
นายกิตติศักดิ์ วรรณวิเชษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ กล่าวว่าการเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกายเป็นของสำคัญคู่กับมนุษยชาติแต่ดึกดำบรรพ์สมัยโบราณ มีรูปแบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยากซับซ้อน อุปกรณ์การเล่นเป็นวัสดุที่หาง่ายและเป็นวัสดุในท้องถิ่นเอง และการเล่นกีฬาในสมัยโบราณ จะเล่นในเทศกาลสำคัญต่างๆ เช่น งานสงกรานต์ งานปีใหม่ บุญบ้องไฟ สถานที่สำหรับเล่นจะเล่นตามลานวัด ด้วยเหตุนี้การกีฬาสมัยก่อนจึงเล่นกันได้ทั่วถึงและเล่นเพื่อความสามัคคีของหมู่คณะอย่างแท้จริง ปัจจุบัน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ ได้เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้อิทธิพลของกีฬาต่างประเทศเข้ามาครอบงำ การกีฬาของไทยแท้แต่โบราณ ก็ค่อยๆ ซบเซาลงไปและไม่ได้รับการฟื้นฟูเผยแพร่ไปยังเด็กเยาวชนรุ่นหลัง การเล่นกีฬาไทยโบราณจึงค่อยเสื่อมสลายไป เทศบาลเมืองท่าบ่อ จึงได้จัดทำโครงการฝึกอบรมกีฬาพื้นบ้าน เสริมสร้างความรู้แก่ชุมชนให้คงอยู่คู่กับชาวอำเภอท่าบ่อ ต่อไป โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
1. เพื่อส่งเสริมความรู้การละเล่นกีฬาพื้นบ้าน ให้แก่ประชาชน เด็กและเยาวชน
2. เพื่อให้ประชาชน เด็กและเยาวชนสามารถนำไปเล่นได้อย่างถูกวิธี
3. เพื่อให้ประชาชน เด็กและเยาวชน รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
4. เพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสานการละเล่นกีฬาพื้นบ้านให้คงอยู่คู่กับชาวอำเภอท่าบ่อ
การจัดกิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วย การบรรยายเกี่ยวกับอบรมกีฬาพื้นบ้านที่เคยเป็นที่นิยมเล่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือขาโถกเถก หมากกุ๊บกั๊บ และหมากทิง การสาธิตการละเล่นกีฬาพื้นบ้าน ประกอบด้วย ขาโถกเถก หมากกุ๊บกั๊บ และหมากทิง
การจัดงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากนักเรียนโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าบ่อ (ท.1) ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 50 คน วิทยากรจากมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตอุดรธานี ที่ได้เสียสละเวลามาบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการละเล่นกีฬาพื้นบ้าน พร้อมสาธิตวิธีการเล่น และขอขอบคุณวัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย ให้การสนับสนุนงบประมาณโครงการฝึกอบรมกีฬาพื้นบ้าน เสริมสร้างความรู้แก่ชุมชน ประจำปี 2566 จำนวน 30,000 บาท.