หลังจากขบวนแห่มาสิ้นสุดที่วัดไทยและได้แห่รอบพระอุโบสถของวัดไทยจำนวน 3 รอบแล้ว พี สะเดิด พร้อมชาวอำเภอโพนพิสัยก็ได้ร่วมกันอัญเชิญพระอุปคุต ริมฝั่งแม่น้ำโขง ขึ้นมายังบริเวณพิธีที่ลานนาคาเบิกฟ้า ต่อมาในช่วงเย็นก็ได้มีการแสดง รำบูชาพญานาค , การแสดงโขน จากนั้นนายถาวร สังขะมาน นายอำเภอโพนพิสัย ก็เป็นประธานจุดธูปเทียนไหว้พระรัตนตรัย , นายแพทย์สรร สุนทรธนากุล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโพนพิสัย จัดเทียนน้ำมนต์ , พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ , หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม แสดงธรรมเทศนา , พระราชรัตนาลงกรณ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองคาย จัดธูปเทียนเครื่องบวงสรวงพญานาค จากนั้นก็เริ่มการเทศน์มหาชาติ กัณฑ์ที่ 1 จนถึงกัณฑ์ที่  13 ที่สิ้นสุดในช่วงเช้าของวันที่ 22 มีนาคม 66

พี สะเดิด บอกว่า งานที่จัดครั้งนี้เป็นงานบุญใหญ่ เป็นการสืบสานประเพณีโบราณลุ่มน้ำโขง คืองานบุญผะเหวดเทศน์มหาชาติ 3 ภพ น้อมเคารพบูชาคาถาพัน ด้วยบัว 1,000 ดอก ซึ่งการเทศน์มหาชาติมีทั้งหมด 13 กัณฑ์ ครั้งนี้ตนอยากจัดขึ้นเพราะตนเป็นพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง เกิดมาครั้งหนึ่งก็อยากจัดพิธีบูชาพระพุทธเจ้า คืองานบุญผะเหวดที่จริง ๆ แล้วมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตามหมู่บ้าน ตามอำเภอต่าง ๆ หลายที่ก็ยังมีการจัดงานนี้อยู่ ส่วนที่มาจัดที่อำเภอโพนพิสัยในครั้งนี้ เนื่องจากตนเห็นว่า เมืองโพนพิสัยเป็นเมืองที่น่าอยู่และอยู่ติดกับแม่น้ำโขง ซึ่งประเพณีเหล่านี้ก็มีการจัดต่อเนื่องเรื่อย ๆ มา แต่ครั้งนี้มาจัดในตัวอำเภอ เพื่อเป็นการรวมใจพี่น้องชาวพุทธในจังหวัดหนองคาย และพี่น้องที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ร่วมทำบุญ ได้มาทำบุญร่วมกัน ร่วมกันปฏิบัติศีล ปฏิบัติดีและมีพระพุทธเจ้าเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ในหนึ่งวันของแต่ละปี และอยากจะสืบทอดประเพณีโบราณ ซึ่งการเทศน์มหาชาติครั้งนี้เป็นการเทศน์แบบโบราณ อักษรโบราณ พระที่มาเทศน์ก็มีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับอักษรโบราณและมีสำเนียงแบบพื้นบ้านจริง ๆ จึงเป็นการสืบทอดแบบโบราณจริง ๆ

พี สะเดิด กล่าวต่อไปอีกว่า การเทศน์มหาชาติยังเป็นการรำลึกภพชาติหนึ่ง ของพุทธเจ้า ที่เป็นพระเวชสันดร มีเรื่องราวที่มีความน่าสนใจมาก ๆ ที่สำคัญงานวันนี้ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ คือการแห่ผะเหวดหรือพระเวชสันดรก็ได้นำช้างจริง ๆ มาร่วมขบวนแห่ถึง 2 เชือก โดยมีดาราที่ชอบปฏิบัติธรรม ทั้งน้องเฟรมและน้องเปรี้ยวเอเอฟมาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย รวมไปถึงพี่น้องประชาชน ผู้เฒ่าผู้แก่ ลูกหลาน นักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ ก็ได้มาร่วมขบวนแห่ ทั้งเดินและรำแบบโบราณ ร่วมกันแห่ผ้าผะเหวด ซึ่งผ้าผะเหวดที่นำมาแห่ครั้งนี้เป็นเรื่องราวของ 13 กัณฑ์ เป็นผ้าโบราณตั้งแต่สมัยร้อยปีที่แล้ว ที่ผ้ามีการเขียนภาพมาเป็นร้อยปี มีการนำมาปัดฝุ่นแล้วนำมาแห่ผ้าผะเหวด เป็นความพิเศษมาก ๆ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ตนจัดขึ้น มีทุกภาคส่วนมาร่วมงานนี้ ที่ปรึกษาก็เป็นพระราชรัตนาลงกรณ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองคาย หรือเจ้าคุณน้อย ที่ให้ความเมตตาตนมาโดยตลอด มีโรงทานหลากหลายและพี่น้องประชาชนก็มีความตื่นตัวกับการจัดบุญผะเหวดเทศมหาชาติในครั้งนี้ ส่วนในปีหน้าหรือปีต่อไปค่อยว่ากันอีกที ถ้ามีกำลังแรงมากพอก็อยากจะเชิญชวนให้หลาย ๆ ภาคส่วนมาร่วมจัดกิจกรรมฯแบบในครั้งนี้

ท้ายสุดพี สะเดิด ได้ขอให้ผู้ที่มาร่วมอนุโมถนาบุญครั้งนี้ มีความสุข ความเจริญ สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีความสุขในการใช้ชีวิตทั้งสายกลางและสายธรรม ขอให้มีความสุขมาก ๆ.