เจ้าอาวาสวัดยอดแก้ว อ.เมืองหนองคาย ที่โซเชียลระบุว่ามีเณรแต่งกายเป็นหญิงออกไปเที่ยวช่วงกลางคืนจนเกิดกระแส “กลางวันทรงศรี ส่วนกลางคืนทรงหญิง” ยืนยันเคยอยู่ที่วัดหลายปี แต่ลาสิกขาไปกว่า 3 ปีแล้ว ขณะนี้ทำงานและยังพาคณะมาทำบุญที่วัดเป็นประจำทุกปี ส่วนที่โพสต์โทรสอบถามแล้ว คิดถึงสมัยที่เคยอยู่ที่วัดช่วงที่บวชเรียน ไม่คิดว่าจะมีเรื่องบานปลายใหญ่โตแบบนี้

เจ้าอาวาสวัดยอดแก้ว อ.เมืองหนองคาย ที่โซเชียลระบุว่ามีเณรแต่งกายเป็นหญิงออกไปเที่ยวช่วงกลางคืนจนเกิดกระแส “กลางวันทรงศรี ส่วนกลางคืนทรงหญิง” ยืนยันเคยอยู่ที่วัดหลายปี แต่ลาสิกขาไปกว่า 3 ปีแล้ว ขณะนี้ทำงานและยังพาคณะมาทำบุญที่วัดเป็นประจำทุกปี ส่วนที่โพสต์โทรสอบถามแล้ว คิดถึงสมัยที่เคยอยู่ที่วัดช่วงที่บวชเรียน ไม่คิดว่าจะมีเรื่องบานปลายใหญ่โตแบบนี้

จากกรณีที่ผู้ที่ใช้ชื่อ แม่ทัพลิง อินร่างทรง ได้โพสต์ “กลางวันทรงศรี ส่วนกลางคืนทรงหญิง ถถถ วัดยอดแก้ว อ เมือง จ หนองคาย ส่งเข้าประกวดนะจะ ตกดึกออกไปกะเพื่อนที่เป็นพระด้วยกัน....” จนมีการแชร์ต่อกันในโลกโซเชียล และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

 

พระมหาพฤทร์พิรุฬห์ เจ้าอาวาสวัดยอดแก้ว
 
พระมหาพฤทร์พิรุฬห์ เจ้าอาวาสวัดยอดแก้ว ที่อยู่ชุมชนยอดแก้ว ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ได้ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ทั้ง 2 รูปได้ลาสิกขาออกจากวัดนานหลายปีแล้ว ช่วงที่มาอยู่ที่วัดเป็นช่วงที่มาศึกษาเล่าเรียนในฝ่ายทางปริยัติธรรม พอเรียนจบก็ลาสิกขาไปหางานทำกัน ซึ่งเขาน่าจะเอารูปลงเฟส สังเกตได้ว่าผมเริ่มยาวแล้ว อาจจะลงเปรียบเทียบกันก็ไม่รู้ไม่ทราบสาเหตุที่เอารูปลงเหมือนกัน แต่ข้อเท็จจริงคือที่วัดไม่ได้มีพระไม่มีเณรในรูปนั้นแล้ว ช่วงแรกที่มาอยู่นั้นเป็นสามเณร ลาสิกขาไปแล้วประมาณ 3 ปี ช่วงที่เรียนใช้เวลา 4 ปี หลังเรียนจบก็อยู่ที่วัดมาต่อแล้วประมาณ 3 ปี รวมแล้วอยู่ที่วัดประมาณ 8 ปี ขณะนี้ที่วัดมีพระและสามเณร จำนวน 7 รูป ได้มีการดูแลกันฉันท์พี่น้อง ครูบาอาจารย์ คอยปรนนิบัติ อุปัฏฐาก และทำอาหารเอง เนื่องจากช่วงนี้โควิด-19 กำลังระบาด จึงไม่ได้ออกรับบิณฑบาต กักตัวกันอยู่ในวัดป้องกันรักษาตัวเอง ญาติโยมที่ศรัทธาก็ได้ซื้ออาหารมาให้กับทางวัดไว้ ทางวัดก็จะทำฉันกันเฉพาะเพล มีการดูแลกันอย่างใกล้ชิด ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน พอเห็นข่าวที่แชร์กันอยู่ในโซเชียลก็ตกใจ จึงได้โทรสอบถามเขา ซึ่งเขาบอกว่าเอารูปลงเล่นเฉย ๆ ก็มีคนแชร์ต่อ ๆ กันไป จนกลายเป็นปัญหา ที่ผ่านมาทั้ง 2 คนก็ทำผ้าป่า กฐินมาที่วัดเป็นประจำ เนื่องจากเห็นว่าเคยมาอยู่ มากินนอนที่วัดแห่งนี้ จึงได้ทำผ้าป่า ทำกฐินมาสมทบเป็นประจำทุกปีที่เคยขาดตั้งแต่ทั้งสองคนได้ลาสิกขาไป
 
 
 

เจ้าอาวาสวัดยอดแก้ว กล่าวต่อไปอีก จากที่สอบถามทั้งสองคนบอกที่รูปมาโพสต์เพราะคิดถึงวันวานที่เคยอยู่ที่วัด แต่กลายเป็นประเด็นที่ทำให้เสียหาย เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะเป็นประเด็นที่ร้ายแรงขนาดนี้

ทางด้านนางวารุณี บุญเยี่ยม อายุ 72 ปี โยมที่มาดูแลวัดอยู่เป็นประจำ บอกว่า ตนเข้ามาดูแลที่วัดเป็นประจำ และตนก็เป็น อสม.ด้วย เข้ามาดูแลวัดเป็นประจำทุกวัน ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ ซึ่งตนก็เคยเห็นเณรที่อยู่ในรูปแต่นานหลายปีแล้ว พอสิกขาไปแล้วก็ไม่เห็นอีก.

 

กลับ กลับหน้าหลัก



ติดต่อเรา

Copyright © 2016 nongkhainewsonline : ข่าวออนไลน์หนองคาย