บิ๊กโจ๊ก รับ 2 ผู้ต้องหาคดีปล้นฆ่าพ่อค้ารถหลุดจำนำที่จังหวัดขอนแก่น จากทางการลาว หลังก่อเหตุแล้วหลบหนีข้ามประเทศไปยัง สปป.ลาว จึงได้มีการประสานทางการลาวเพื่อขอความร่วมมือในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จนสามารถติดตามจับกุมได้ และนำตัวมาส่งมอบให้ที่ จ.หนองคาย

บิ๊กโจ๊ก รับ 2 ผู้ต้องหาคดีปล้นฆ่าพ่อค้ารถหลุดจำนำที่จังหวัดขอนแก่น จากทางการลาว หลังก่อเหตุแล้วหลบหนีข้ามประเทศไปยัง สปป.ลาว จึงได้มีการประสานทางการลาวเพื่อขอความร่วมมือในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จนสามารถติดตามจับกุมได้ และนำตัวมาส่งมอบให้ที่ จ.หนองคาย

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (30 พ.ย. 65) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย พลจัตวาแก่นจัน พมมะจัก รองหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องกันประเทศ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ สปป.ลาว ได้นำตัวนายพันธรัตน์ หรือโก้ หาญสุริย์ และนายจิราวุฒิ หรือเบนซ์ ทองสืบสาย 2 ผู้ต้องหามาส่งมอบให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย

 

จากกรณีเมื่อวันที่ 9 ต.ค.65 เวลาประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด ภ.จว.ขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือ นายพนม ทิพย์รัตนมงคล อายุ 40 ปี สภาพศพอยู่ลักษณะนอนหงาย ในมือข้างซ้ายกำสร้อยคอรูปพรรณน้ำหนัก 1 บาท มือขวากำพระเลี่ยมทอง มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณด้านหลังทะลุหน้าอก 1 แผล และพบรอยกระสุนปืนบริเวณโคนอวัยวะเพศ  2 แผล เหตุเกิดที่บริเวณทางเข้าสนามบินขอนแก่น ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น

จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ดำเนินการควบคุมการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้มาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คนร้ายมีการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ มโนทัย ผกก.สภ.บ้านเป็ด ให้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในครั้งนี้ให้ได้

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 8 ต.ค.65 นายพนมฯ ผู้เสียชีวิต ได้มีการเสนอขายรถกระบะยี่ห้ออีซุซุ ดีแม็ก สีขาว ทะเบียน 1ขบ 2903 กทม. ซึ่งเป็นรถหลุดจำนำ ให้กับนายพันธรัตน์ หรือโก้ หาญสุริย์ โดยได้มีการตกลงกันว่า จะมีการโอนเงินค่ามัดจำก่อน 19,000 บาท แล้วจะมีการจ่ายเงินที่เหลือตอนที่มีการนัดรับรถจริง ต่อมาในวันเดียวกัน ได้มีการนัดส่งมอบรถดังกล่าวที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท. อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด โดยนายพนมฯ ได้พาเพื่อนไปด้วย 2 คน ส่วนในฝั่งนายพันธรัตน์ฯ ได้ไปกับนายจิราวุฒิ หรือเบนซ์ ทองสืบสาย แต่เมื่อพบกันแล้ว ทางนายพันธรัตน์ฯ อ้างว่าอ้างว่า เงินสดที่เตรียมมาไม่พอจ่าย โดยจะมีเงินโอนจากลาวมาในเช้าวันรุ่งขึ้น จึงเลื่อนการนัดรับรถออกไปและแยกย้ายกันกลับ ต่อมาเช้าวันที่ 9 ต.ค.65 เวลาประมาณ 05.00 น. นายพันธรัตน์ฯ ได้นัดให้นายพนมฯ ขับรถคันดังกล่าวมาส่งมอบให้ที่บริเวณทางเข้าสนามบินขอนแก่นที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบว่า ทางฝั่งนายพันธรัตน์ฯ มากัน 5 คน โดยขับรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาว มาด้วย ได้มีการลงไปพูดคุยกัน จากนั้นนายพันธรัตน์ฯ ได้ชักอาวุธปืนออกมา นายพนมฯ พยายามวิ่งหนี แต่ถูกนายพันธรัตน์ฯ ยิง 3 นัด จนล้มลงและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ขับรถกระบะที่นานพนมฯ นำมาหลบหนีไปทั้งหมด

หลังทราบข้อมูลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นายพันธรัตน์ หรือโก้ หาญสุริย์ อายุ 18 ปี , นายจิราวุฒิ หรือเบนซ์ ทองสืบสาย อายุ 26 ปี , นายธนพล หรือเอ็กซ์ วงษ์สมบูรณ์ อายุ 22 ปี , นายเกียรติศักดิ์ หรือบาส จรัสกาย อายุ 26 ปี และนายอภิชาติ หรือฟิว ถะเกิงสุข อายุ 22 ปี โดยจะดำเนินคดีในฐานความผิด “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ ใช้ปืนยิงเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุสมควร และร่วมกันมี ใช้อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนโดยมิได้รับอนุญาต” โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมนายธนพล , นายเกียรติศักดิ์ ปี และนายอภิชาต ได้เรียบร้อย ในส่วนของนายพันธรัตน์ และนายจิราวุฒิ เจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่า ได้หลบหนีข้ามพรมแดนไปยัง สปป.ลาว จึงได้ประสานทางการลาวเพื่อขอความร่วมมือในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จนสามารถติดตามจับกุมได้ และนำตัวมาส่งมอบให้ในครั้งนี้ ซึ่งจะได้ส่งตัวผู้ต้องหาไปให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านเปิด ภ.จว.ขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่าต้องขอบคุณพลจัตวาแก่นจัน พมมะจัก รองหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องกันประเทศ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สปป.ลาว ที่ได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายและได้นำตัวมาส่งมอบให้ดำเนินคดีตามกฎหมายไทย ขณะนี้ความร่วมมือระหว่างไทยกับ สปป.ลาว มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันอย่างใกล้ชิด ไม่ได้เฉพาะเรื่องนี้เรื่องเดียว จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลในส่วนของอาชญากรที่ข้ามไป-มาระหว่างไทยกับ สปป.ลาว จะต้องไม่มีที่อยู่ โดยเฉพาะในเรื่องของยาเสพติด ที่ท่าน ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำ รวมไปถึง ผบ.ตร.ของ สปป.ลาว เราจะเดินหน้าร่วมกันอย่างไร้พรมแดน อย่างใกล้ชิด วันนี้ก็ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 รายก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

พลจัตวาแก่นจัน พมมะจัก รองหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องเทศ กล่าวว่า ทางกรมใหญ่ตำรวจ ของ สปป.ลาว ก็ยินดีให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย ปัญหาอาชญากรรมเป็นสิ่งที่เกิดความยุ่งยากในการพัฒนาและการดำรงชีวิตของประชาชนทั้งลาวและไทย ดังนั้นการแก้ไขปัญหาก็คือการคืนความสุข คืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับประชาชน การร่วมมือระหว่างกันจึงเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่จะทำให้ทั้งสองประเทศไม่มีที่หลบซ่อนของอาชญากรรม.

 

กลับ กลับหน้าหลัก



ติดต่อเรา

Copyright © 2016 nongkhainewsonline : ข่าวออนไลน์หนองคาย