เครือข่ายสื่อมวลชนจังหวัดหนองคาย พร้อมตัวแทนชาวบ้าน รวบรวมหลักฐานดำเนินคดีนายทุน และผู้ว่าจ้างถมดิน ที่นำรถบรรทุกดินวิ่งขนดินมาถมที่ทำหมู่บ้านจัดสรร และรับถมที่ ในเขต อบต.ท่าบ่อ – เทศบาลเมืองท่าบ่อ ทำถนนพังตลอดทั้งเส้นทางระยะทางรวมกว่า 5 กิโลเมตร ภายหลังสร้างปัญหาให้ชาวบ้านหนัก หลายครอบครัวย้ายบ้าน-ร้านค้าปิดตัว ถนนพัง ฝุ่นตลบ โดยก่อนหน้าได้ร้อง “บิ๊กตู่” เพื่อให้ดำเนินการแล้ว เผยเตรียมร้อง ป.ป.ช.หนองคาย เอาผิดทุกหน่วยงานที่ปล่อยปะละเลยให้นายทุนยึดถนนทางสาธารณะขนดินโดยไม่บังคับใช้กฎหมาย สื่อตรวจสอบพบไม่ขออนุญาตทำบ่อดินกับอุตสาหกรรมจังหวัดหนองคาย และไม่ขออนุญาตกับ อปท.ในพื้นที่ ชาวบ้านเผยทั้งน้ำตากว่าจะได้ถนนดีๆไร้ฝุ่นมาใช้ใช้เวลานานหลายปี พอได้ถนนนายทุนกลับมาแสวงประโยชน์นำรถบรรทุกมาวิ่งจนถนนพังเละ นายทุนรับปากว่าจะซ่อมถนนแต่ถนนที่เสียหายโครงสร้างพังหมดต้องทำใหม่เท่านั้นและใช้งบประมาณหลายล้านบาท

เครือข่ายสื่อมวลชนจังหวัดหนองคาย พร้อมตัวแทนชาวบ้าน รวบรวมหลักฐานดำเนินคดีนายทุน และผู้ว่าจ้างถมดิน ที่นำรถบรรทุกดินวิ่งขนดินมาถมที่ทำหมู่บ้านจัดสรร และรับถมที่ ในเขต อบต.ท่าบ่อ – เทศบาลเมืองท่าบ่อ ทำถนนพังตลอดทั้งเส้นทางระยะทางรวมกว่า 5 กิโลเมตร ภายหลังสร้างปัญหาให้ชาวบ้านหนัก หลายครอบครัวย้ายบ้าน-ร้านค้าปิดตัว ถนนพัง ฝุ่นตลบ โดยก่อนหน้าได้ร้อง “บิ๊กตู่” เพื่อให้ดำเนินการแล้ว เผยเตรียมร้อง ป.ป.ช.หนองคาย เอาผิดทุกหน่วยงานที่ปล่อยปะละเลยให้นายทุนยึดถนนทางสาธารณะขนดินโดยไม่บังคับใช้กฎหมาย สื่อตรวจสอบพบไม่ขออนุญาตทำบ่อดินกับอุตสาหกรรมจังหวัดหนองคาย และไม่ขออนุญาตกับ อปท.ในพื้นที่ ชาวบ้านเผยทั้งน้ำตากว่าจะได้ถนนดีๆไร้ฝุ่นมาใช้ใช้เวลานานหลายปี พอได้ถนนนายทุนกลับมาแสวงประโยชน์นำรถบรรทุกมาวิ่งจนถนนพังเละ นายทุนรับปากว่าจะซ่อมถนนแต่ถนนที่เสียหายโครงสร้างพังหมดต้องทำใหม่เท่านั้นและใช้งบประมาณหลายล้านบาท

วันนี้ (25 มิ.ย. 65) ภายหลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ บ้านนาโพธิ์ ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ และ ชาวบ้านในชุมชนนาดาว ในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ที่ต่างได้รับผลกระทบจากรถบรรทุกดิน ทั้งรถบรรทุก 10 ล้อ แม้กระทั่งรถบรรทุก 6 ล้อ ที่ต่างทำการขนดินจากบ่อดินแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านนาโพธิ์ ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ที่ขับผ่านเขตชุมชนและเส้นทางถนนสาธารณะหลายร้อยเที่ยวต่อวัน จนทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก โดยที่ผ่านมาได้มีการส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังและชัดเจน จนทำให้ชาวบ้านบางส่วนย้ายนอกจากพื้นที่ไปเพราะทนต่อฝุ่นที่ตลบอบอวลจากรถบรรทุกดินที่วิ่งตลอดเวลา อีกทั้งยังคงทำให้ถนนพังได้รับความเสียหาย รวมทั้งยังคงขับรถเร็ว ฝ่าเขตชุมชน ที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างมาก

หลังรับแจ้งจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 65 บริเวณถนนจากชุมชนนาดาว เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ไปจนถึงบ้านนาโพธิ์ ต.ท่าบ่อ โดยพบว่ามีรถบรรทุกดินในประเภทต่างๆทำการวิ่งขนดินตลอดทุกนาทีทั้งเข้าและออก โดยไม่มีการปิดผ้าใบคลุมรถ ทั้งยังคงบรรทุกดินที่คาดว่าน่าจะเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งยังคงขับรถเร็วในเขตชุมชนอย่างมาก โดยรถบรรทุกดินส่วนใหญ่นั้นวิ่งขนดินมาจากบ่อดินแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านนาโพธิ์ ต.ท่าบ่อ มาตามเส้นทางสาธารณะ โดยนำดินไปถมที่เพื่อทำหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง รวมทั้งรับถมที่ในพื้นที่ใกล้เคียง

 

ชาวบ้านนาโพธิ์ รายหนึ่งให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่าตลอดระเวลา 2 เดือนที่ผ่านมานี้ รถบรรทุกดินทุกประเภทต่างพากันวิ่งขนดิน จากบ่อดินในพื้นที่บ้านนาโพธิ์ มาในเส้นทางถนนสาธารณะที่ประชาชนใช้สัญจรทั้งวัน โดยไม่คำนึงความปลอดภัยของประชาชนและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่แต่อย่างใด พอเข้าเขตชุมชนก็ขับรถเร็วคล้ายกับจะแข่งกัน อีกทั้งในการบรรทุกดินนั้นก็มีการปิดคลุมใดเท่า ดินที่เลยขอบกระบะมาก็ตกหล่นลงถนนเป็นทางยาว ถนนบางจุดชำรุดเสียหายอย่างหนัก และที่สำคัญฝุ่นจากการวิ่งรถบรรทุกทุกประเภทและตลอดเวลาทำให้ฝุ่นตลบอบอวนไปทั่วทั้งบริเวณไปหมด “ร้านขายของของชาวบ้านต้องปิดตัวลงไปแล้วเพราะทำธุรกิจไม่ได้ จากการที่รถบรรทุกดินที่วิ่งแบบไม่เกรงกลัวกฎหมายและไม่เห็นใจผู้อื่นแบบนี้ ชาวบ้านหลายคนย้ายบ้านออกไป ฝุ่นเกาะทั้งบ้านตลอดทั้งวันทั้งคืน จนไม่มีใครกล้าที่จะเปิดประตูหรือหน้าต่าง บางครอบครัวย้ายบ้านไปแล้ว ซึ่งถ้าหากเป็นแบบนี้อยู่โดยที่อำเภอท่าบ่อ หรือระดับจังหวัดหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ทำอะไร หรือทำเป็นมองไม่เห็นชาวบ้านในพื้นที่จะอยู่กันอย่างไร”

ชาวบ้านในชุมชนนาดาวอีกรายให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า รถบรรทุกดินที่ใช้ถนนเส้นทางนี้วิ่งกันทุกวัน ทั้งรถ 10 ล้อแม้กระทั่งรถ 6 ล้อก็พากันวิ่งขนดินกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่คำนึงถึงชาวชุมชนกันเลยว่าเค้าจะอยู่อย่างไร ทุกวันต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่น PM 2.5 และฝุ่นจากรถบรรทุกที่สิ่งไปมากันอย่างบ้าระห่ำ ลูก เล็ก เด็กแดง และคนในชุมชนต้องระวังรถบรรทุกที่ขับฝ่าชุมชนที่ล้วนจะขับกันอย่างรวดเร็ว ถนนที่ใช้สัญจรก็พังเสียหาย มีกองดินพะเนินเทินทึก ตลอดทั้งเส้นทาง ซึ่งผู้ประกอบการเองก็ควรที่จะคำนึงถึงใจเค้าใจเราด้วย ไม่ใช่ว่าจะทำธุรกิจและอิงธุรกิจของตนเองเพียงอย่างเดียวต้องมองไปถึงประชาชนในพื้นที่ด้วย

“ เราแจ้งไปหลายหน่วยงานแล้วเรื่องก็เงียบ อยากให้ท่านผู้ว่าฯ,หรือแม้กระทั่ง ท่านนายกรัฐมนตรี หรือแม้เจ้ากระทรวงที่รับผิดชอบ มายืนอยู่ที่จุดที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนนี้เพียง 5 นาที ก็จะรู้ว่า ฝุ่นตลบอบอวลเพียงใด รถบรรทุกวิ่งได้อย่างไร 5 นาทีต่อคัน ถนนพัง ฝุ่นเกลื่อนถนน หลังคาเรือน กระจก ผ้า ก็ยังซักไม่ได้ รถบรรทุกน้ำมาฉีดลงพื้น หรือการกำหนดรอบวิ่ง หรือการเยียวยาประชาชนหลายร้อยคนก็ไม่มี จนวันนี้ไม่รู้ว่าชาวบ้านจะพึ่งใครได้ จึงตัดสินใจรวมตัวกันร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อเป็นกระบอกเสียงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาคลายความทุกข์ให้กับประชาชนอย่างชัดเจนและจริงจังเสียที”

ชาวบ้านยังบอกอีกว่า ชาวบ้านเข้าใจว่าการทำธุรกิจในระยะนี้เป็นอย่างไร ผู้ประกอบการขายดินหรือบรรทุกดิน ล้วนต่างๆต้องการทำธุรกิจของตนเอง แต่ก็ควรคำนึงถึงชาวบ้านตาดำๆบ้าง ถนนสาธารณะเส้นเล็กๆแต่กลับนำรถมาวิ่งเป็นร้อยๆเที่ยวต่อวัน สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนทุกรูปแบบอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งชาวบ้านก็ได้แต่ทำใจมาตลอดแต่วันนี้ทนไม่ได้จริงๆ จึงร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อต้องการการได้รับการแก้ไขอย่างชัดเจนเพราะร้านค้า ร้านอาหาร และชาวบ้านเริ่มย้ายออกจากพื้นที่ไปบางส่วนแล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ได้มีการลงลายมือชื่อ เพื่อที่จะร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมเพื่อวิงวอนให้ ผวจ.หนองคาย และท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาให้กัประชาชนในพื้นที่ เพราะชาวบ้านก็ไม่รู้ว่าการกระทำเช่นนี้นั้นคนที่ทำได้นั้นมีอิทธิพลหรือไม่แต่ทำแบบนี้ได้ก็คงไม่ธรรมดาจริงๆ    

ทั้งนี้จากการตรวจสอบการขออนุญาตทำบ่อดินไปที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดหนองคาย พบว่าไม่มีการขออนุญาตตามระเบียบทางราชการ และเมื่อสอบถามไปที่ อบต.ท่าบ่อ ก็พบว่าไม่มีการมาขออนุญาตขุดดินแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.ท.วิริยภาพ วิริยะวังพรม รอง ผกก.ป.สภ.ท่าบ่อ เปิดเผยว่าต่อกรณีดังกล่าวเมื่อตำรวจทราบเรื่องได้เข้าดำเนินการประสานให้ผู้รับเหมาเข้าพบเพื่อขอตรวจดูเอกสารการขออนุญาตตามขั้นตอนกฎหมายอย่างละเอียด หากพบว่าไม่ได้ขออนุญาตตามขั้นตอนกฎหมายก็จะดำเนินการทางกฎหมายทุกข้อหาที่เกี่ยวข้องแน่นอน โดยการนำรถบรรทุกมาวิ่งแล้วสร้างปัญหาให้กับชุมชน สิ่งแวดล้อม หากตำรวจพบก็จะจับกุมดำเนินคดีทุกรายอยู่แล้ว

 

ต่อกรณีนี้ล่าสุดวันนี้ (25 มิ.ย. 65) ตัวแทนเครือข่ายสื่อมวลชน พร้อมตัวแทนชาวบ้าน ได้ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีนายทุน ที่นำรถบรรทุกดินวิ่งขนดินมาถมที่ทำหมู่บ้านจัดสรร และรับถมที่วิ่งทั้งวันในเขต อบต.ท่าบ่อ – เทศบาลเมืองท่าบ่อ โดยพบว่ารถบรรทุกทำถนนพังตลอดทั้งเส้นทางระยะทางรวมกว่า 5 กิโลเมตร

ชาวบ้านรายหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวทั้งนำตาว่า เดิมถนนสายนี้เป็นทางลูกรัง แต่ชาวบ้านได้ร้องขอให้หน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่ทำถนนลาดยางจนกระทั่งได้ถนน คสล.มาเชื่อมระหว่างชุมชนนาดาว เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ กับบ้านนาโพธิ์ ต.ท่าบ่อ แต่เมื่อมีรถบรรทุกขนดินนำรถมาวิ่งทำให้ถนนพังเสียหาย โดยชาวบ้านได้รับแจ้งว่าผู้รับเหมาจะมาซ่อมถนน ซึ่งชาวบ้านมองว่าถนนที่พังเสียหายมันพังถึงโครงสร้างต้องรื้อทำใหม่เท่านั้นซึ่งผู้รับเหมาไม่น่าจะรับผิดชอบตรงนี้ จึงรวมตัวกันร้องสื่อมวลชนเพื่อให้ช่วยเป็นกระบอกเสียง และจะร่วมกับสื่อมวลชนดำเนินคดีทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งนายทุน ผู้ที่ว่าจ้างให้ไปถมที่

ทั้งนี้จะได้รวบรวมหลักฐานภาพถ่าย คลิป การกระทำผิดกฎหมายทุกอย่างเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี และนำหลักฐานเข้าร้องที่ ป.ป.ช.หนองคาย เพื่อให้ดำเนินการกับทุกหน่วยงานที่ปล่อยปะละเลย ไม่ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับนายทุนอย่างเด็ดขาด ปล่อยให้ยึดถนนสาธารณะวิ่งขนดิน ทำถนนพังเสียหายตลอดเส้นทาง รวมทั้งการทำบ่อดินที่ไม่ได้ขออนุญาตตามขั้นตอนกฎหมาย.

 

กลับ กลับหน้าหลัก



ติดต่อเรา

Copyright © 2016 nongkhainewsonline : ข่าวออนไลน์หนองคาย