นายดนัย ไชยคินี นายกเทศบาลตำบลนางัว กล่าวว่าตนขอชื่นชม นายนพรัช ธรรมเรืองฤทธิ์ ที่เป็นลูกหลานชาวอำเภอน้ำโสม ที่ได้ไปศึกษาเล่าเรียนด้านภาพยนตร์จนสำเร็จการศึกษา และได้นำวิชาความรู้ที่ไปศึกษาเล่าเรียนมาเผยแพร่ให้ชาวอำเภอน้ำโสมได้เห็นความงดงามของภาพยนตร์ สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กและเยาวชนในอำเภอน้ำโสมได้ก้าวตามรุ่นพี่ในแบบอย่างที่ดี ทำให้ชาวอำเภอน้ำโสมได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ สำนึกรักศิลปวัฒนธรรม ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านสื่อภาพยนตร์ เป็นการประชาสัมพันธ์สิ่งที่ดีงามให้สาธารณะชนได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งถือเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของอำเภอน้ำโสมอีกทางหนึ่งด้วย

นายนพรัช ธรรมเรืองฤทธิ์ กล่าวว่า ตนสำเร็จการศึกษาสูตรนิเทศศาตรบัณฑิต สาขาวิชาการภาพยนตร์ดิจิทัล วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และรักและชอบงานศิลปะ ด้านภาพยนตร์ อีกทั้งได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว จนสำเร็จการศึกษา โดยในครั้งนี้ได้นำผลงานหนังสั้นหลายเรื่องทั้งของเพื่อน เพื่อนนักศึกษามาฉายในครั้งนี้ด้วย มีความหลากหลายในการนำเสนอบทภาพยนตร์ จากมุมมองของคนรุ่นใหม่สะท้อนเรื่องราวชีวิต (ดราม่า) ,แอ็คชั่น ,แง่คิด ,ความรัก ,ความประทับใจ, เสียดสี,วิถีของสังคม

โดยเฉพาะหนังสั้นเรื่อง “เพชรน้ำโสม” โดยเป็นการนำเสนอเรื่องราวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น “หมอลำ” โดยสะท้อนให้เห็นถึง “คิง” เด็กหนุ่มรุ่นใหม่ที่มีใจรักบทเพลงลูกทุ่งหมอลำ รับบทโดย น้องแน็ท ศิริพงษ์ ศรีสุขา ผู้ชนะจาก รายการ The Voice Kids Thailand คนที่ 5 มี นายไพบูลย์ ธรรมเรืองฤทธิ์ (ครูเบิ้ม เติมศิลป์) รับบทหัวหน้าวงดนตรีหมอลำผู้ที่จะนำพาลูกวงฝ่าฟันอุปสรรค ในยุคสมัยใหม่ ได้หรือไม่อย่างไร คำตอบอยู่ในหนังเรื่องนี้ นอกจากนี้เรื่องโปรดักชั่นหรือภาพรวมของหนังยังสะท้อนให้เห็นบรรยากาศภูมิประเทศที่สวยงามเช่นภูเขา ป่าไม้ สายน้ำ รวมถึงวิถีชีวิตของชุมชน ท้องถิ่นที่ห่างไกลตึกรามบ้านช่องอีกด้วย ซึ่งเป็นวิถีที่สงบ เรียบง่าย “ตนภูมิใจที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักก็ขอฝากผลงานและติดตามชมผลงานในโอกาสต่อไปด้วยนะครับ” นายนพรัช ธรรมเรืองฤทธิ์ กล่าว

สำหรับ นายนพรัช ธรรมเรืองฤทธิ์ มีผลงานที่ได้รับรางวัลอาทิ ปี 2561 หนังสั้น “ของดีบ้านฉัน” รางวัลชนะเลิศประเภทนักศึกษา จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ ช่องโมโน 29 ,ปี 2561 หนังสั้นรางวัลชนะเลิศ “เชียงคานยังเหมือนเดิม” (ตลาดต้องชม) ประเภทประชาชนทั่วไป จัดโดย กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ,รางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1 ภาพยนตร์สั้น :The Vacation Time รักนี้ที่อุดร โดย หอการค้าจังหวัดอุดรธานี และอีกหลายรางวัลทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ

ด้านนายไพบูลย์ ธรรมเรืองฤทธิ์ (ครูเบิ้ม เติมศิลป์) กล่าวว่าถูมิใจที่ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมนี้ และได้ร่วมแสดงภาพยนตร์ “เพชรน้ำโสม” ในบทหัวหน้าวงหมอลำเป็นบทบาทที่ท้าทาย มาดขรึม จริงจัง มีจิตใจรักสมาชิกในวงหมอลำถือเป็นเรื่องยากในการตีบทเพราะเราไม่ใช่นักแสดงอาชีพแต่ก็ทำดีที่สุดแล้ว “ก็อยากให้ภาครัฐหรือผู้ใจดีในบ้านเมืองเราสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยของเราให้พัฒนาขึ้นคงเป็นเรื่องที่ดีครับ”  นายไพบูลย์ ธรรมเรืองฤทธิ์ (ครูเบิ้ม เติมศิลป์) กล่าว

นายไพบูลย์ ธรรมเรืองฤทธิ์ (ครูเบิ้ม เติมศิลป์) กล่าวต่อว่า กิจกรรมในครั้งนี้มีการจัดฉายหนังกางแปลงขึ้นในรูปแบบย้อนยุค มีชาวบ้านได้ทำโรงทานมาร่วมในกิจกรรม อาทิ ข้าวเกรียบ (ข้าวโป่ง) ,แกงเส้น,กาแฟโบราณ,น้ำแข็งใส ฯลฯ ในบริเวณงานประดับไปด้วยรถแห่หนังโฆษณาย้อนยุค มีจักรยาน สามล้อ จักรยานยนต์ ย้อนยุค มีเครื่องฉายหนังโบราณแบบแผ่นฟิล์มมาจัดแสดงให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับชม

นายประชา ธรรมเรืองฤทธิ์ ในฐานะผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์และประสานงานการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาร่วมงานและสนับสนุนโรงทานทำให้งานลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งกิจกรรมดีๆแบบนี้จะต้องมีอีกอย่างแน่นอน เพื่อส่งเสริมภาพยนตร์ไทย และส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอน้ำโสม.