ที่ดินหนองคาย ไขข้อข้องใจกรณีการขอดูดทรายที่บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ ซึ่ง กพด.กลาง อนุญาตให้ดูดทรายถูกกฎหมาย เพียง 2 แห่ง เท่านั้น ด้านชาวบ้านหวั่นผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ภายหลังวันที่ 29 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งถึงความกังวลใจของประชาชนในพื้นที่ บ.หม้อ หมู่ 8 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ ถึงกรณีผู้ประกอบการท่าทราย (ดูดทราย) ได้นำเครื่องจักรเข้ามาปรับพื้นที่เพื่อเตรียมดูดทรายในพื้นที่บริเวณบ้านหม้อนั้น
ล่าสุด วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบ นายจรัญ จิตใส นักวิชาการที่ดินชำนาญการ สำนักงานที่ดินจังหวัดหนองคาย เพื่อสอบถามรายละเอียดถึงกรณีข้อกังวลใจของชาวบ้าน จากกรณีได้มีชาวบ้านบางส่วน ที่ได้รับผลกระทบจากการทำประชาคมขออนุญาตดูดทราย ได้ทำหนังสือส่งถึงนายอำเภอศรีเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 เกี่ยวกับการทำประชาคมที่ทำการผู้ใหญ่บ้านบ้านหม้อ หมู่ 8 ต.บ้านหม้อ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนเมษายน 2561 ของ เอกชน 2 ราย พร้อมแนบรายชื่อผู้ที่คัดค้านไม่เห็นด้วยกับการอนุญาตดูดทรายในพื้นที่ แต่จนถึงขณะนี้กลับไม่มีการดำเนินการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกับเร่งรัดให้มีการประชาคม เหมือนเอื้อประโยชน์ให้นายทุนโดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ที่สำคัญชาวบ้านต่างตกใจเมื่อทราบว่าในพื้นที่ได้มีการขออนุญาตทำท่าทรายถึง 4 แห่ง ซึ่งชาวบ้านต่างเกรงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เพราะท่าทรายอยู่ใกล้วัด รวมทั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลบ้านหม้อ จึงอยากทราบว่าจะมีการเปิดท่าทรายในพื้นที่ 4 บริษัทใช่หรือไม่ และการทำประชาคมให้เปิดท่าทรายได้รับฟังเสียงส่วนน้อยบ้างหรือไม่
สำหรับข้อข้องใจดังกล่าว นายจรัญ จิตใส นักวิชาการที่ดินชำนาญการ สำนักงานที่ดินจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า “คณะกรรมการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทราย” หรือ “กพด” กลาง ได้อนุญาตให้พื้นที่ บ.หม้อ ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย สามารถดูดทรายได้เพียง 2 บริษัท (2 ท่า) ซึ่งก็ได้มีการขออนุญาตมาตั้งแต่ปี 2561 ส่วนที่ชาวบ้านเป็นข้อกังวลนั้น อีก 1 บริษัททางคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด ได้ส่งข้อมูลทั้งผลดี ผลเสีย เสียงสนับสนุน เสียงคัดค้านของประชาชน ส่งไปยัง “กพด” กลาง เพื่อพิจารณา และอีก 1 บริษัทก็กำลังทำการยื่นหนังสือมาขออนุญาต ยังไม่มีการพิจารณาทั้งระดับอำเภอ จังหวัดแต่อย่างใด ทั้งนี้ ทางคณะอนุกรรมการระดับจังหวัดได้ร่วมกันพิจารณารอบด้านตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม ชุมชน และต้องดำเนินการตามที่เอกชนยื่นเรื่องหนังสือขออนุญาตด้วยเช่นเดียวกัน
“ในส่วนตัวแล้ว ตนคิดว่าจังหวัดหนองคาย และประเทศไทยกำลังเจริญเติบโตในด้านธุรกิจการก่อสร้าง ทรายจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญในภาคธุรกิจดังกล่าว เพราะถ้าไม่ดูดทรายที่ประเทศไทย เราก็จะต้องนำเข้าทรายจากประเทศลาว ซึ่งจะเป็นต้นทุนที่สูง เกิดปัญหาตื้นเขินของร่องน้ำแบ่งปันเขตแดน” อย่างไรก็ตามทางคณะอนุกรรมการระดับจังหวัดก็ได้ร่วมกันพิจารณาในหลายด้านแล้ว จึงได้ส่งให้คณะกรรมการระดับประเทศพิจารณาอนุญาตให้ดูดทราย ดังนั้นประชาชน และชุมชนก็จะต้องร่วมกันสะท้อนปัญหาร่วมกันด้วย
ด้านชาวบ้านในพื้นที่บ้านหม้อ หมู่ 8 และ ใน อ.ศรีเชียงใหม่ ต่างบอกตรงกันว่าที่ผ่านมาท่าทรายในพื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่ได้สร้างผลกระทบต่อชุมชนมาอย่างยาวนานหลายปี แต่ไม่เคยได้รับการแก้ไข เมื่อร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆก็ไม่ได้ให้ความสนใจ อีกทั้งจุดที่ทำการดูดทรายก็ห่างจากวัดอรัญบรรพ (วัดหลวงปู่เหรียญ) ไม่ไกลรถขนทรายที่วิ่งเข้าออกอยู่ตลอดเวลาจะสร้างปัญหาให้กับทางวัดอย่างแน่นอน ไม่รวมเมื่อวิ่งผ่านชุมชน จึงอยากให้ผู้ใหญ่ทั้งของจังหวัดหนองคาย และระดับประเทศลงมาดูปัญหาข้อเท็จจริงตรงนี้ด้วยไม่ใช่อ้างความเจริญจนลืมชาวบ้านและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่.