นายเมธี งามศิริ อายุ 42 ปี จากวิศวกรโรงงาน ได้กลับมาเป็นเจ้าของมั่งมีพันธุ์ปลา เลขที่ 282 หมู่ 2 บ้านกองนาง ตำบลกองนาง อ.ท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย บอกว่าตลาดขายลูกพันธุ์ปลาปีนี้คึกคักกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากเริ่มมีฝนตั้งแต่ต้นปี ทำให้เริ่มขายดีตั้งแต่ต้นปีเช่นกัน เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกันยายนนี้เลย ซึ่งลูกค้าที่มีซื้อลูกพันธุ์ปลาจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ๆ แรกเป็นลูกค้าคนไทย ทั้งในจังหวัดหนองคายเองและจังหวัดใกล้เคียง ส่วนลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งคือลูกค้าจาก สปป.ลาว ที่แยกเป็นซื้อไปขายต่อและซื้อไปเลี้ยงเอง

เจ้าของมั่งมีพันธุ์ปลา กล่าวต่อไปอีกว่า กลุ่มลูกค้าคนไทยจะนิยมซื้อลูกพันธุ์ปลาดุกบิ๊กอุย ปลาหมอชุมพร ปลาตะเพียน(ที่ต้องมีตลอด) ปลานิล ปลาไน ปลายี่สก นวลจันทร์ โดยเฉพาะปลาตะเพียน ปลาดุกบิ๊กอุย และปลาหมอชุมพร จะขายดีเป็นพิเศษ คิดเป็นสัดส่วนเกินครึ่งของการขายลูกพันธุ์ปลาชนิดอื่น ๆ ส่วนลูกค้าจาก สปป.ลาว จะนิยมซื้อลูกพันธุ์ปลาดุกรัสเซีย ปลาตะเพียน ปลากดเหลือง ปลากดคัง ปลาแรดหรือที่ สปป.ลาวเรียก ปลาเม่น ปลาค้าว รวมถึงปลาแปลก ๆ ปลาสวยงาม รวมแล้วมากกว่า 30 ชนิด

สำหรับลูกพันธุ์ปลาที่มีขนาดพอเหมาะที่จะนำมาขายนั้น เจ้าของมั่งมีพันธุ์ปลา บอกว่า ต้องมีขนาดที่โตพอสมควร เมื่อนำไปปล่อยแล้วจึงจะมีโอกาสรอดสูง เช่นปลาดุกบิ๊กอุย ก็ต้องมีขนาด 3 – 4 พร้อมปล่อยเลี้ยงได้เลย ส่วนลูกพันธุ์ปลาที่มีราคาแพงที่สุดก็จะเป็นลูกพันธุ์ปลาบึก มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 20 บาทจนถึง 80 บาท / ตัว ขึ้นอยู่กับขนาด รองลงมาก็จะเป็นลูกพันธุ์ปลากดคัง ราคม 5 – 8 บาท / ตัว ขึ้นอยู่กับขนาดเช่นกัน

เจ้าของมั่งมีพันธุ์ปลา กล่าวต่อไปอีกว่า กลุ่มลูกค้าคนไทยส่วนใหญ่จะซื้อลูกพันธุ์ปลาครั้งละ 3 – 5 พันบาท/คน สูงสุดก็ซื้อสูงถึงครั้งละหมื่นกว่าบาท ส่วนลูกค้า สปป.ลาว จะซื้อครั้งละ 2 – 3 หมื่นตัว ช่วงนี้ 2 – 3 วันก็จะสั่งซื้อเข้ามาเพื่อจะได้เตรียมลูกพันธุ์ปลาไว้ให้ ซึ่งช่วงนี้จะขายลูกพันธุ์ปลาได้เฉลี่ยประมาณ 3 หมื่นตัว/วัน

สำหรับช่องทางในการสั่งซื้อลูกพันธุ์ปลานั้น ลูกค้าสามารถติดต่อกับผู้ขายได้หลายช่องทาง เช่นค้นหาผ่านกูเกิลโดยพิมพ์ลูกพันธุ์ปลาหนองคาย ก็จะมีรายชื่อให้ติดต่อหลายฟาร์ม ส่วนของตนนั้นเข้าไปในกลูเกิ้ลหรือเฟซบุ๊ก พิมพ์คำว่า มั่งมีพันธุ์ปลา หรือทางโทรศัพท์หมายเลข 092-2038577 ส่วนไอดีไลน์ run2802 โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการลูกพันธุ์ปลาจำนวนมาก ต้องติดต่อจองล่วงหน้า.