เปิดใจลูกหนี้ใน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย หมุนเงินไม่ทัน จึงกู้ยืมเงินจากนายทุนนอกระบบ ต้องจ่ายชำระรายวัน แต่สุดท้ายเงินไม่พอจ่าย ถูกเจ้าหนี้ตามทวงข่มขู่ จึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ตามจับเจ้าหนี้ ยอมรับกู้เงินจริงแต่การทวงหนี้มาตั้งแต่ ตี 5 และมาทุกช่วงเวลามันเกินไปและช่วงนี้เป็นช่วงระบาดของโควิด-19 ไม่รู้คนพวกนี้ไปไหนมาบ้าง สื่อเตรียมเปิดเส้นทางจ่ายส่วยให้คนมีสีของนายทุนเงินกู้ พบเคลียร์พื้นที่เดินสะดวก
เปิดใจลูกหนี้ใน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย หมุนเงินไม่ทัน จึงกู้ยืมเงินจากนายทุนนอกระบบ ต้องจ่ายชำระรายวัน แต่สุดท้ายเงินไม่พอจ่าย ถูกเจ้าหนี้ตามทวงข่มขู่ จึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ตามจับเจ้าหนี้ ยอมรับกู้เงินจริงแต่การทวงหนี้มาตั้งแต่ ตี 5 และมาทุกช่วงเวลามันเกินไปและช่วงนี้เป็นช่วงระบาดของโควิด-19 ไม่รู้คนพวกนี้ไปไหนมาบ้าง สื่อเตรียมเปิดเส้นทางจ่ายส่วยให้คนมีสีของนายทุนเงินกู้ พบเคลียร์พื้นที่เดินสะดวก
วันที่ 13 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่บ้านกองนาง ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากนายศักดิ์ชาย พีระวรรณ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 295 หมู่ 10 ตงกองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เมื่อไปถึงพบนายศักดิ์ชาย พร้อมด้วยญาติพี่น้องจำนวนหนึ่งรอพบผู้สื่อข่าว
นายศักดิ์ชาย เล่าความเดือดร้อนให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2564 ตนได้ไปแจ้งความเป็นหลักฐานไว้ที่ สภ.ท่าบ่อ ภายหลังถูกกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบเข้ามาข่มขู่คนในครอบครัว ภายหลังจากที่แฟนของตนไปกู้เงินกับนายทุนเงินกู้นอกระบบมา 10,000 บาท
คนที่กู้เงินเป็นแฟนผมและคนรอบข้างที่รู้จักกัน นายทุนเงินกู้ที่มาตามเก็บเงินหากไม่เจออีกคนก็มาตามหาอีกคนทำให้พัวพันกันไปหมด ไม่แน่ใจว่ามีอาวุธไหมแต่ตนมั่นใจว่าน่าจะมี แต่การเดินทางมาที่บ้านทุกช่วงเวลาทำให้คนในครอบครัวเกิดความหวาดกลัวไม่เป็นอันทำมาหากิน อยากให้หน่วยงานต่างๆช่วยมาดูแลพี่น้องประชาชนด้วย ตนเข้าใจว่าแต่ละคนมีความเดือดร้อนไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงโควิดหาเงินยากจึงต้องกู้ยืม แต่อยากให้หน่วยงานต่างๆมากำกับดูแลคนที่ปล่อยเงินกู้ด้วย ที่ผ่านมาได้คุกคามข่มขู่ลูกหนี้มาโดยตลอด ตนมั่นใจว่ามีคนเดือดร้อนแบบตนหลายคนแต่ไม่กล้าพูด ตนจึงต้องออกมาพูดเพื่อให้หน่วยงานต่างๆมาดูแล “ตอนนี้ครอบครัวเกิดความหวาดระแวงโดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่ที่อยู่บ้าน ตอนนี้ทุกคนพากันหวาดกลัวหมด กลุ่มคนพวกนี้มาทวงหนี้ตั้งแต่ตี 5 มาจอดรถรอพร้อมตะโกนด่าทอสารพัดแบบนี้ก็ได้ใช่ไหม อีกทั้งคนเหล่านี้ไม่รู้ไปที่ไหนมาบ้างยิ่งเป็นช่วงโควิด-19 ทำให้ทุกคนหวาดกลัวกันไปหมด”
นายศักดิ์ชาย บอกอีกว่า “ไม่มีเงินจ่ายก็ถูกตามทวงหนี้แทบทุกนาทีจนทำงานไม่ได้ หากไม่รับสายก็จะเข้ามากดดันที่บ้าน หนักสุดสามวันที่ผ่านมา มีคนเข้ามานั่งรอที่บ้าน ข่มขู่คุกคามตัวเองและครอบครัว โดยบอกว่าเป็นแก๊งใหญ่มีพรรคพวกมาก หากไม่จ่ายหนี้จะทำให้อยู่บ้านไม่ได้ คิดว่าเงินไม่หมื่นเดียวเดี๋ยวก็หาคืนได้ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นครับ มันจ่ายรายวัน บางวันถ้าเราหาไม่ทันเขาก็โทรทวงเรา เราก็ไม่อยากให้มีปัญหากับครอบครัว ไม่อยากให้มีปัญหากับงาน เราไม่ใช่ไม่จ่าย แต่การทวงหนี้ไม่ควรทำแบบนี้” นายศักดิ์ชาย กล่าว
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อความในไลน์ของนายศักดิ์ชายพบว่ามีข้อความจากนายทุนเงินกู้ส่งมาข่มขู่คุกคามหลายครั้งจนทำให้เจ้าตัวตัดสินใจไปแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ
สำหรับนายทุนเงินกู้นอกระบบ จากการตรวจสอบของสื่อมวลชนพบว่าเข้ามาหากินในพื้นที่จังหวัดหนองคายหลายแก๊ง โดยก่อนปล่อยกู้ในแต่ละพื้นที่จะเข้าไปเคลียร์กับคนมีสีในพื้นที่เพื่อเปิดทางสะดวกในการปล่อยกู้ เมื่อลูกหนี้จ่ายช้าก็จะใช้วิธีคุกคามทุกรูปแบบโดยไม่เกรงกลัวกำหมายบ้านเมือง ทำให้ลูกหนี้หลายคนต้องย้ายที่อยู่หรือหนีออกจากบ้านไปเลย เมื่อไปแจ้งความคดีส่วนใหญ่จะไม่คืบหน้าหรือไม่มีการดำเนินการใดๆ โดยสื่อมวลชนเตรียมเปิดเผยเส้นทางการจ่ายส่วยให้กับคนมีสีเหล่านี้ พร้อมกับรายชื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบต่อไป.
