นายศิริพงษ์ เฉียบแหลม เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่าขณะที่ตนอยู่ที่บ้านได้มีญาติโทรศัพท์มาบอกว่ามีคนจะนำน้ำมันดีเซลราคาถูกมาจำหน่ายให้จำนวน 200 ลิตร ในราคา 9,000 บาท ตนเห็นว่าเป็นราคาที่ถูกจึงได้เดินทางออกจากบ้านไปที่บ้านญาติเพื่อพบกับผู้ที่จะนำน้ำมันมาขาย

เมื่อไปถึงตนได้ต่อรองจาก 9,000 บาท เหลือ 8,000 บาท ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะพาตนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ตนจำรุ่นและยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียนไม่ได้ไปในพื้นที่ หมู่ 4 ต.บ้านว่าน ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะบอกให้ตนรออยู่ริมถนนสายบ้านว่าน-แสนสุข ตนรออยู่ประมาณ 10 นาทีชายคนดังกล่าวได้ขับรถมาบอกว่าเถ้าแก่ให้จ่ายเงินก่อนถึงจะเอาน้ำมันออกมาได้ ตนจึงยื่นเงินให้จำนวน 8,000 บาท จากนั้นชายคนดังกล่าวก็หายไปเลย ตนรออยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง จึงรีบโทรศัพท์บอกญาติให้มารับและออกตามหาชายคนดังกล่าวไปที่จุดที่พักคนงานก่อสร้างทางถนนสายท่าบ่อ-บ้านผือ ซึ่งคนงานบอกว่าไม่รู้จักชายคนดังกล่าวและไม่มีการขายนั้นราคาถูกแต่อย่างใด ตนจึงคิดว่าถูกหลอกอย่างแน่นอน จึงไปขอดูกล้องวงจรปิดที่ อบต.บ้านว่าน เพื่อขอเป็นหลักฐานไปแจ้งความ

“ขณะที่ตนนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ไปกับชายคนดังกล่าวตนเหมือนไม่รู้สึกตัว ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ได้ถามแม้กระทั่งชื่อ และเขาพูดอะไรตนก็เชื่อหมดและยื่นเงินให้ทันทีโดยไม่เอะใจว่าจะถูกหลอก” นายศิริพงษ์บอกเจ้าหน้าที่

ด้าน นายภูมิพัฒน์ ทะยาน ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอท่าบ่อ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าบ่อ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวตรงกันว่าพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้ายน่าจะเป็นคนร้ายรายเดียวกับที่ก่อเหตุหลอก นายกณวรรธน์ อรรคราช อายุ 36 ปี ชายใบ้ ราษฏร หมู่ 8 ต.หนองนาง อ.ท่าบ่อ โดยหลอกพาไปซื้อน้ำมันราคาถูก สุดท้ายชักมีดจี้ชิงเงิน 12,000 หลบหนี เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 6 สิงหาคม 2564 และรถที่ก่อเหตุเมื่อตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของ อบต.บ้านว่าน ก็เป็นรถยี่ห้อเดียวกันคือคนขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีเทา-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมหลักฐานทั้งจากกล้องวงจรปิด และพฤติกรรมการก่อเหตุให้ชัดเจนเพื่อเร่งติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.