ทุเรียนหมอนทอง ดินลุ่มน้ำโขง ที่บ้านไทยพัฒนา ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ให้ผลผลิตดี รสชาติดี เนื้อแน่นไม่อมน้ำ กลิ่นไม่ฉุนมาก รับประทานแล้วไม่มีอาการร้อนใน ถูกแห่ซื้อแห่จองกันถึงสวนจนไม่พอขาย เหมาะสำหรับผู้ที่อยากรับประทานทุเรียน แต่ไม่ชอบกลิ่นทุเรียนที่ฉุน

ทุเรียนหมอนทอง ดินลุ่มน้ำโขง ที่บ้านไทยพัฒนา ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ให้ผลผลิตดี รสชาติดี เนื้อแน่นไม่อมน้ำ กลิ่นไม่ฉุนมาก รับประทานแล้วไม่มีอาการร้อนใน ถูกแห่ซื้อแห่จองกันถึงสวนจนไม่พอขาย เหมาะสำหรับผู้ที่อยากรับประทานทุเรียน แต่ไม่ชอบกลิ่นทุเรียนที่ฉุน

นายอำพร วงรินยอง กำนันตำบลผาตั้ง ,นายอดุล บุญเต็ม สารวัตรกำนันตำบลผาตั้ง นำผู้สื่อข่าวเยี่ยมชม “สวนศิลป์ ถิ่นนาคา” ของ นายบุญมา ชื่นตา อายุ 72 ปี และนางสมชื่น ชื่นตา อายุ 65 ปี สองสามีภรรยาเกษตรกรชาวสวน บ้านไทยพัฒนา ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ที่มีการปลูกไม้ผลหลากหลายชนิด บนเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ ซึ่งไม้ผลที่ขึ้นชื่อของ“สวนศิลป์ ถิ่นนาคา” คือทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ที่ปลูกในดินลุ่มน้ำโขง มาเป็นเวลากว่า 18 ปี มีต้นทุเรียนที่ให้ผลผลิตแล้วกว่า 20 ต้น ที่ให้ผลผลิตต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 10 ปีแล้ว ซึ่งทุเรียนฯที่ปลูกภายในสวนแห่งนี้ ถ้ามองที่ลักษณะภายนอกก็เหมือนทุเรียนหมอนทองทั่วไป แต่ที่แตกต่างจากทุเรียนที่อื่นคือ รสชาติดี เนื้อแน่น ที่สำคัญและเป็นลักษณะพิเศษคือกลิ่นไม่ฉุน เหมาะสำหรับผู้ที่อยากรับประทานทุเรียน แต่ไม่ชอบกลิ่นทุเรียนที่ฉุน ผู้ที่อยากจะลิ้มรสทุเรียน ดินลุ่มน้ำโขงที่ “สวนศิลป์ ถิ่นนาคา” แห่งนี้ ต้องจองล่วงหน้าหลายเดือนก่อนทุเรียนจะแก่จนเก็บผลผลิตได้ หากจองช้าอาจจะพลาดหวังได้

 

นางสมชื่น เจ้าของ “สวนศิลป์ ถิ่นนาคา” เล่าถึงความเป็นมาเกี่ยวกับการปลูกทุเรียน ว่าตนเคยไปทำงานในสวนกาแฟ ที่จังหวัดระนอง พร้อมกับกำนันอำพร จึงได้นำประสบการณ์ที่เห็นชาวสวนทุเรียนในภาคใต้ ปลูกสร้างรายได้ และมาทราบว่าในพื้นที่ ต.บ้านม่วง อ.สังคม มีคนปลูกทุเรียนสำเร็จ จึงได้นำพันธุ์ทะเรียนมาปลูกที่สวนของตน เมื่อ 18 ปี ที่ผ่านมา โดยในพื้นที่ 40 ไร่ ได้นำต้นพันธุ์ทุเรียนหมอนทองมาจาก จ.ชุมพร จำนวน 130 ต้น ปลูกสลับกับไม้ผลและพืชสวนชนิดต่าง ๆ ทั้ง เงาะ,สะตอ,ละมุด,มะม่วง,มะนาว,ลองกอง และลิ้นจี่ เป็นต้น

นางสมชื่น เล่าให้ฟังต่อไปอีกว่า เมื่อปลูกทุเรียนเข้าสู่ปีที่ 6 ทุเรียนก็เริ่มให้ผลผลิต จำนวน 20 ต้น ในปีต่อ ๆ มาก็มีจำนวนต้นทุเรียนที่ปลูกให้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยให้ผลผลิตอย่างต่อเนื่อง มา 10 ปีแล้ว ปีนี้ทุเรียนได้ผลผลิตไม่มากเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย แต่ก็มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมารับซื้อถึงสวน โดยตนปล่อยให้เดินชมสวน เก็บผลไม้กินตามใจ ซึ่งตอนนี้ทุเรียนไม่พอขายเพราะมีคนเข้ามาซื้อเป็นจำนวนมากและต้องรอให้ทุเรียนอีกหลายต้นสุกถึงจะเก็บขายได้อีกรอบ โดยผู้ที่มาซื้อทุเรียนที่สวนของตนบอกว่า รับประทานแล้วติดใจในรสชาติที่อร่อย เนื้อแน่นไม่อมน้ำ สีเหลือง กลิ่นไม่ฉุนจนเกินไป และรับประทานแล้วไม่มีอาการร้อนใน โดยตนไม่รับจอง อยากซื้อต้องมาที่สวนเท่านั้น

 

ทางด้านนายอำพร วงรินยอง กำนันตำบลผาตั้ง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่ตำบลผาตั้ง มีเกษตรกรหลายรายที่ปลูกทุเรียนและไม้ผลชนิดอื่น ๆ ทั้งเงาะ ลองกอง ละมุด และลิ้นจี่ เป็นต้น ซึ่งในพื้นที่อำเภอสังคม โดยเฉพาะตำบลผาตั้งเป็นจุดที่ค่อนข้างเหมาะในการปลูกทุเรียน ในส่วนของรสชาตินั้น ถ้าเทียบกับพื้นที่จังหวัดระยอง และจันทบุรี กลิ่นของทุเรียนที่นี้จะมีน้อยกว่า แต่ความหวานและความมันนั้นปกติ ถือเป็นจุดดีและเป็นจุดขายจุดหนึ่งสำหรับคนที่ไม่ชอบทุเรียนที่มีกลิ่นฉุนหรือกลิ่นแรง ส่วนราคาที่ขายก็จะยึดราคาขายทั่วไปเป็นหลัก โดยในตอนนี้ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท ประกอบกับปริมาณทุเรียนที่ออกในพื้นที่ในขณะนี้ยังไม่มาก และส่วนใหญ่จะมีคนมาขอซื้อถึงในสวน สำหรับทุเรียนที่เกษตรกรในพื้นที่ตำบลผาตั้งปลูก คือ พันธุ์หมอนทอง ส่วนพันธุ์อื่น ๆ ทั้งชะนี ก้านยาว กระดุม และหลงหลิน ก็มีเกษตรกรนำมาปลูกแต่ไม่มากนัก

สำหรับจังหวัดหนองคาย ขณะนี้มีพื้นที่ปลูกทุเรียนประมาณ 300 ไร่ ปลูกมากที่สุดในพื้นที่อำเภอโพธิ์ตาก รองลงมาคือพื้นที่ อำเภอสังคม.

 

กลับ กลับหน้าหลัก



ติดต่อเรา

Copyright © 2016 nongkhainewsonline : ข่าวออนไลน์หนองคาย