ภายหลังจากที่โพสต์เรื่องราวดังกล่าวออกไป มีประชาชนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจร ที่ยึดหลักรัฐศาสตร์มากกว่าหลักนิติศาสตร์ โดยต่างมองว่า สามี-ภรรยา ไม่ได้ตั้งใจทำผิดกฎหมาย เพียงแต่ไปหาหน่อไม้ในป่า และไม่คิดว่าจะมีด่านตรวจในจุดดังกล่าว ซึ่งตำรวจจราจรเลือกที่จะว่ากล่าวตักเตือนถึงความปลอดภัยหากไม่สวมใส่หมวกนิรภัย รวมทั้งให้ไปดำเนินการทำใบอนุญาตขับขี่รถให้เรียบร้อย ซึ่งถือเป็นการทำหน้าที่ของตำรวจจราจรที่ดีในการดูแลประชาชน

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปที่นายตำรวจจราจรท่านดังกล่าวทราบชื่อ ด.ต.สมมาตร กุลเนตร ผบ.หมู่ จร.สภ.เมืองหนองคาย รหัสข้างหมวก 608 กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ป้อม AEC ของ สภ.เมืองหนองคาย (ถนนรอบเมือง)

ด.ต.สมมาตร ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าตนเองได้มาเข้าเวรอำนวยความสะดวกการจราจรที่ป้อม AEC ของ สภ.เมืองหนองคาย เพื่อบริการประชาชน เมื่อเห็นสามี-ภรรยา ขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาที่จุดตรวจ ตนจึงเรียกตรวจ สอบถามไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งฝ่ายภรรยาได้ตำหนิสามี สามีก็ไม่พูดมีสีหน้าตกใจ อีกทั้งเท้าก็เจ็บจากการหาหน่อไม้ในป่า ตนจึงได้ว่ากล่าวตักเตือน และอบรมวินัยจราจร พร้อมให้ไปทำใบอนุญาตขับขี่ และวันหน้าให้สวมหมวกนิรภัยให้เรียบร้อย ก่อนปล่อยตัวกลับบ้าน

ซึ่งตนได้ปฏิบัติตาม นโยบายของ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย พ.ต.ต.วัชรพล ตรีกุล สว.จร.สภ.เมืองหนองคาย ที่เน้นให้ตำรวจทุกนายเข้าถึงประชาชนเสมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน และ “ดูแลประชาชนให้ดี”

สำหรับ ด.ต.สมมาตร ถือเป็นนายตำรวจขวัญใจประชาชนชาวหนองคาย เนื่องจากมีการทำงานที่คอยช่วยเหลือประชาชน เมื่อว่างเว้นจากหน้าที่ ก็จะไปช่วยเหลืองานที่วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง จนเป็นภาพที่ชินตาของผู้คนที่เดินทางไปทำบุญที่วัด.