การประชุมในครั้งนี้มีวาระที่สำคัญเพื่อพิจารณา คือ การกำหนดมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ของจังหวัดหนองคาย ซึ่งจากการประชุมฯ ได้มีมาตรการสำคัญหลายมาตรการ เช่น

- ผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด จำนวน 28 จังหวัด ให้กักตัวที่บ้านเป็นระยะเวลา 14 วัน

- ร้านอาหาร ให้มีการแบ่งการจัดพื้นที่เข้าใช้บริการ ให้มีการเว้นระยะห่างภายในร้าน

-  ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ร้านนวดแผนไทย/นวดแผนโบราณ/นวดเพื่อสุขภาพ ให้ใช้การจองคิวแทนการนั่งรอในร้าน

- สถานที่บริการสักหรือเจาะผิวหนังส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย , ศูนย์พระเครื่อง-พระบูชา สนามพระเครื่อง-พระบูชา , สนามกีฬาในร่ม รวมไปถึงสนามกีฬาที่ผู้เล่นมีการสัมผัสตัวกัน เช่นบาสเก็ตบอล , โรงยิม สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส โรงเรียนสอนกีฬา , ร้านเกมส์และร้านอินเตอร์เน็ต , โต๊ะสนุกเกอร์และบิลเลียด , สวนสนุก บ้านบอล บ้านลม หรือเครื่องเล่นทุกประเภท ให้ปิดไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 64 ส่วนสวนสาธารณะ ไม่ได้ปิด แต่ให้มีการปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดฯ อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างของประชาชนที่เข้าไปพักผ่อนและออกกำลังกายภายในสวนสาธารณะ

ส่วนผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูง กับหญิงวัย 35 ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 7 ราย ที่ถูกกักตัวอยู่ในสถานที่กักตัวนั้น ได้มีการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รอบแรกแล้ว ผลตรวจทุกคนเป็นลบ ซึ่งจะมีการตรวจหาเชื้อในรอบสองอีกครั้ง

นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวในตอนท้ายของการประชุมฯว่า  จังหวัดหนองคาย ไม่ได้ล็อคพื้นที่จังหวัด จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและจากประชาชนในจังหวัดหนองคาย ให้ล็อคตัวเอง โดยการอยู่ภายในบ้านถ้าไม่มีธุระจำเป็นที่ต้องออกไปทำนอกบ้าน ซึ่งจะช่วยในการป้องกันการแพร่ระบาดฯได้เป็นอย่างดี.